Toyota (โตโยต้า) ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น เจ้าตลาดประเทศไทย เปิดตัว 2020 (Toyota Fortuner) โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นปรับโฉมใหม่ มีราคาเริ่มต้น 1.319 ล้านบาทในรุ่น 2.4G มาตรฐาน และรุ่นสูงสุด 1.839 ล้านบาทสำหรับรุ่น 2.58 Legender โดยมีเครื่องยนต์ 2 รุ่นคือ ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร และรุ่นดีเซลเทอร์โบ ขนาด 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร
2020 โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์กลุ่มพีพีวี พัฒนาบนพื้นฐานรถกระบะ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ โดยฟอร์จูนเนอร์ออกทำตลาดทำตลาดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์พีพีวี เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา
2020 Toyota Fortuner (2020 โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) ได้รับการพัฒนารูปร่างหน้าตา สมรรถนะของเครื่องยนต์ พร้อมทั้งติดตั้งระบบอุปกรณ์ใหม่ ๆ เข้าไปมากมาย เพื่อให้รถคันนี้ สามารถท้าชนกับคู่แข่งได้มากขึ้น
โดยเฉพาะในรุ่นท็อปอย่างเลเจนเดอร์ (Legender) ที่เปลี่ยนชื่อมาจากทีอาร์ดี สปอร์ติโว่ (TRD Sportivo) มีการเปลี่ยนแปลงตัวถังให้ดูโฉบเฉี่ยว แตกต่าง และยังขยับราคาจำหน่ายขึ้นไปเป็น 1.839 ล้านบาทในรุ่นท็อป เรียกว่าแพงสุดในตลาดพีพีวีกันเลยทีเดียว
การเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ จะทำให้รถคันนี้น่าใช้งานมากขึ้นหรือไม่ มาติดตามกันได้ว่าเมื่อโตโยต้าปรับโฉมรถคันนี้อย่างจริงจัง โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์ รุ่นท็อป ที่แพงที่สุดในคลาส จะมีความคุ้มค่าคุ้มราคาหรือไม่ กับการที่ต้องจ่ายเงินในระดับนั้น
ตารางราคาจำหน่าย 2020 Toyota Fortuner Legender |
Toyota Fortuner Legender 2.4 2WD AT |
1.564 ล้านบาท |
Toyota Fortuner Legender 2.4 4WD AT |
1.634 ล้านบาท |
Toyota Fortuner Legender 2.8 2WD AT |
1.769 ล้านบาท |
Toyota Fortuner Legender 2.8 4WD AT |
1.839 ล้านบาท |
รายละเอียดทางเทคนิค 2020 โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์ 2.8 ขับเคลื่อนสี่ล้อ |
มิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) (มิลลิเมตร) |
1,855x4,795x1,835 |
ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร) |
2,750 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มิลลิเมตร) |
193 |
เครื่องยนต์ |
1GD-FTV |
ความจุ (ซีซี.) |
2,755 |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
204/3,400 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) |
500/1,600-2,800 |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ 6 จังหวะ |
ระบบขับเคลื่อน |
ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
ระบบบังคับเลี้ยว |
แร็คแอนด์พีเนียน พาวเวอร์ผ่อนแรง |
ช่วงล่างด้านหน้า |
อิสระ ปีกนกคู่ โช็คอัพเฉพาะรุ่น |
ช่วงล่างด้านหลัง |
4-ลิงค์ โช็คอัพเฉพาะรุ่น |
ระบบเบรกด้านหน้า |
ดิสก์เบรก ครีบระบายความร้อน |
ระบบเบรกด้านหลัง |
ดิสก์เบรก ครีบระบายความร้อน |
ล้ออัลลอย |
20 นิ้ว พร้อมยาง 265/50 R20 |
ภายนอกดีไซน์โฉบเฉี่ยวเหนือชั้น
การออกแบบตัวถังภายนอกของโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์นั้น เน้นการสร้างความแตกต่างจากรถรุ่นเดิม ๆ ที่ผ่านมา ที่เหมือนแค่เอาชุดแต่งไปแปะไว้บนตัวถังรถรุ่นปกติ แต่กับเลเจนเดอร์นั้น ทีมออกแบบทำการออกแบบชิ้นส่วนตัวถังใหม่เพื่อสร้างความแตกต่างจากรุ่นมาตรฐาน
หากมองดูรอบคันจะพบการเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด ในส่วนของกระจังหน้า กันชนหน้า กันชนท้าย รวมไปถึงบันไดข้างสีดำที่ได้รับการออกแบบใหม่หมด มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วดีไซน์ใหม่ ดูแข็งแกร่งบึกบึน โดยมีสีพิเศษของรุ่นอย่างสีแดงอีโมชั่นแนล ตัดกับหลังคาสีดำ
ไฟหน้าก็ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมระบบดูอัล โปรเจคเตอร์ แอลอีดี ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังเป็นแอลอีดี พร้อมไฟท้ายแบบแอลอีดี Light Guiding มาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบปรับไฟชสูงอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง และไฟเบรกดวงที่ 3 มาครบ
กระจกมองข้างสีดำพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ปรับและพับด้วยไฟฟ้า มือเปิดประตูแบบโครเมียมเพิ่มความหรูหรา ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ และเปิดได้ด้วยการเตะเข้าใต้กันชน มาพร้อมราวหลังคา สปอยเลอร์หลัง ท่อไอเสียสแตนเลส และเสาอากาศครีบฉลาม
ตัวรถมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อยด้วยดีไซน์ภายนอก โดยมีความกว้าง 1,855 มิลลิเมตร ยาว 4,795 มิลลิเมตร สูง 1,835 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร มีขนาดตัวที่เหมาะสมกับการใช้งานในเมือง แต่หากไปลุยก็ทำได้ง่ายดายด้วยระยะต่ำสุดถึงพื้นที่สูงถึง 193 มิลลิเมตร
ห้องโดยสารภายในเน้นใช้งาน
การตกแต่งห้องโดยสารภายในของเลเจนเดอร์รุ่นท็อปนั้น เน้นความพรีเมียมหรูหรา มีการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อการใช้งานจริงเข้าไปมากมาย เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกตำแหน่งสามารถใช้งานรถได้อย่างเต็มที่ โดยภายในห้องโดยสารยังเน้นการตกแต่งด้วยโทนสีดำทั้งหมดเหมือนเดิม
รุ่นท็อปจะมาพร้อมแดชบอร์ดหน้าที่หุ้มด้วยหนังสีทูโทนดำ-ขาวแบบนุ่ม ที่จับคู่กับเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีทูโทนดำ-ขาว ตกแต่งในห้องโดยสารด้วยวัสดุลายไม้พร้อมแถบสีเงิน ติดตั้งไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร มาพร้อมกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วถูกติดตั้งมาใหม่ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์และแอนดรอยด์ ออโต้ ติดตั้งแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายที่ด้านหน้า พร้อมเพิ่มช่องชาร์จไฟแบบยูเอสบีให้อีก 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
ที่บังแดดคู่หน้าเอาใจสาว ๆ ผู้โดยสาร เพราะมาพร้อมกระจกแต่งหน้าและไฟส่องสว่าง มือจับ 8 ตำแหน่งทั่วคันรถ ไฟส่องสว่างที่ประตูทั้ง 4 บาน พวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์และปุ่มควบคุมต่าง ๆ บนพวงมาลัย หัวเกียร์และเบรกมือหุ้มด้วยหนังเพิ่มความหรู
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ มาพร้อมสวิตซ์ควบคุมที่ด้านหลังแบบแยกส่วน ช่องเก็บของแบบรักษาความเย็น ช่องชาร์จไฟ 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง ช่องชาร์จไฟ 220 โวลต์แบบปลั๊กไฟบ้าน 1 ตำแหน่ง ระบบกุญแจสมาร์ทคีย์และปุ่มสำหรับสตาร์ทเครื่องยนต์ มีมาให้อย่างเรียบร้อย
เครื่องยนต์ดีเซลปรับสมรรถนะ
เป็นครั้งแรกของรุ่นท็อปของฟอร์จูนเนอร์ ที่มีทางเลือกเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร กับเครื่องยนต์ 2GD-FTV ความจุ 2,393 ซีซี. ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะเพียงทางเลือกเดียว
แต่พระเอกตัวจริงของรุ่นก็คือเครื่องยนต์ดีเซล วีเอ็น-เทอร์โบ 1GD-FTV ความจุ 2,755 ซีซี. ที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับความแรงมา
เครื่องยนต์รุ่นท็อปใหม่นั้น ได้รับการปรับสมรรถนะให้เทียบเท่ากับคู่แข่งมากขึ้น โดยมีการเพิ่มกำลังสุงสุดจากเดิมมาอีก 27 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุดจากเดิมอีก 50 นิวตันเมตร และติดตั้งเพลาปรับสมดุลเพื่อลดเสียงและแรงสั่นสะเทือน พร้อมปรับลดรอบเดินเบาลงมาเหลือ 680 รอบต่อนาที
ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ว่าต้องการระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหรือ 4 ล้อ ซึ่งหากเลือกตัวท็อปก็จะได้ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อรถจอดนิ่งมาด้วย การควบคุมรถเป็นหน้าที่ของพวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรง ซึ่งทำให้ควบคุมรถได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
ช่วงล่างด้าหน้าของรถเป็นแบบอิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบ 4-ลิงค์ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง โดยมีการติดตั้งโช็คอัพรุ่นพิเศษเฉพาะสำหรับเลเจนเดอร์ ขณะที่ระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ
ระบบและอุปกรณ์ที่น่าใช้งาน
โตโยต้านั้นทำการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ความปลอดภัยมากมายให้กับฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์ โดยเฉพาะรุ่นท๊อปเจ้าของค่าตัว 1.839 ล้านบาทนั้น ถือว่าให้ของเล่นมาอย่างพร้อมเพรียงไม่เป็นรองใครทั้งสิ้น เอาแต่ระบบที-คอนเนคต์ เทเลมาติกส์ และโตโยต้า เซฟตี้ เซนส์ ก็ถือว่าจัดเต็ม
ระบบที-คอนเนคต์ เทเลมาติกส์ เวอร์ชั่นใหม่ที่ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ในการทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น การเช็คตำแหน่งตัวรถ การแจ้งเตือนการบำรุงรักษารถยนต์ การให้บริการนัดหมายเข้าศูนย์บริการ หรือระบบแจ้งเตือนเมื่อรถถูกสตาร์ทหรือเคลื่อนที่
นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกขโมย การกระจายสัญญาณไวไฟได้ถึง 9 อุปกรณ์ การประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินและผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงบริการประสานงานไปยังผู้แทนจำหน่ายหรือสถาบันการแพทย์ เพื่อขอความช่วยเหลือ
โตโยต้า เซฟตี้ เซนส์ ติดตั้งอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฟอร์จูนเนอร์ ที่ทำให้พวกเขามีระบบในรถไม่แพ้ใคร ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน และระบบเตือนการชนด้านหน้า พร้อมกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา และเซนเซอร์ช่วยจอด
นอกจากนี้ ก็ยังมีระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบควบคุมส่วนพ่วงท้าย ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ระบบควมคุมเฟืองท้าย และถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
ความคุ้มค่าที่แลกมาด้วยค่าตัวสูงสุด
2020 Toyota Fortuner Legender 2.8 4WD มาพร้อมค่าตัวที่แพงที่สุดในตลาดพีพีวี ด้วยราคา 1.839 ล้านบาท หากมองไปที่อุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มมาให้จากรุ่นเดิม เทียบกับค่าตัวที่เพิ่มขึ้นมาราว 7 หมื่นบาทนั้น ก็ถือว่าเป็นรถที่มีความคุ้มค่าในด้านราคาที่เพิ่มขึ้นมาในระดับหนึ่ง
สมรรถนะของรถที่เพิ่มขึ้น อุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นมา พร้อมการปรับปรุงรถให้มีความน่าใช้งานมากขึ้นทั้งการใช้งานบนถนนและเส้นทางออฟโรด คือเป้าหมายของโตโยต้าในการผลักดันให้เลเจนเดอร์ ขึ้นไปแข่งในตลาดรถเอนกประสงค์ดัดแปลงลบนพื้นฐานของรถปิกอัพรุ่นท้อป ที่มีแข่งกันอยู่ไม่กี่รุ่น
แน่นอนว่าหากไม่ต้องการจ่ายเงินระดับนี้ ก็สามารถเลือกที่จะจับของรุ่นรอง ๆ ลงไปของโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่จะมีอุปกรณ์และของเล่นลดหลั่นกันลงไปตามระดับราคาที่จ่ายกันไหว แต่หากมีความสามารถในการจับจ่าย โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เลเจนเดอร์ รุ่นท็อป ก็ถือว่าไม่เป็นรองใครในท้องตลาดแน่นอน