โตโยต้า ค่ายรถผู้นำตลาดประเทศไทย จำหน่าย 2019 โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่ 9.79 แสนบาทสำหรับรุ่น 1.8 Entry ไปจนถึง 1.159 ล้านบาทในรุ่น HV Hi ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 รุ่น เริ่มต้นที่เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.8 ลิตร พลัง 140 แรงม้า และแรงบิด 175 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นท็อปและรองท็อปใช้ระบบไฮบริด มีกำลังรวมสูงสุด 122 แรงม้า
2019 โตโยต้า ซี-เอชอาร์ เป็นรถยนต์กลุ่มครอสโอเวอร์แบบสปอร์ต ที่ผลิตโดยโตโยต้า ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ทำตลาดในกลุ่มรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก เปิดตัวในไทยเมื่อปี 2560 มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรและเครื่องยนต์ไฮบริด น้ำหนักรถ 1,380 กก. ซึ่งรุ่นไฮบริดมีความประหยัดน้ำมัน 21 – 22 กม.ต่อลิตร
โตโยต้า (Toyota) มีความมั่นใจและภาคภูมิใจกับตลาดรถยนต์นั่งครอสโอเวอร์ไซส์เล็กของพวกเขาอย่างโตโยต้า ซี-เอชอาร์ (Toyota C-HR) มากว่ามีความล้ำสมัยและโดดเด่นที่สุดในท้องตลาด ด้วยภาพลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นแตะตา
สมรรถนะในการขับขี่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีทีเอ็นจีเอ หรือแม้แต่ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่แนะนำในรถยนต์เซกเมนต์นี้เป็นรายแรก แถมยังแพคแน่นด้วยเทคโลยีใหม่ ๆ ครบครัน เรียกได้ว่ามีจุดขายมากมายที่พวกเขาทำได้ดีแบบยกมาคุยได้เรื่อย ๆ
จึงไม่น่าแปลกใจที่ New 2019 Toyota C-HR ที่เปิดตัวออกมาใหม่นั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงที่น้อยมาก และเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบคอสเมติก เชนจ์ แต่งหน้าทาปาก ด้วยการเปลี่ยนล้ออัลลอยและเพิ่มสีตัวถังภายนอกใหม่สำหรับทุกรุ่น และปรับห้องโดยสารภายในสำหรับบางรุ่นเท่านั้น
นอกจากนี้ พวกเขายังทำการคงราคาจำหน่ายเอาไว้เท่าเดิม ซึ่งถือว่าบรรดาผู้บริโภคก็ได้ของเล่นใหม่กันไปโดยไม่ต้องจ่ายเงินอะไรเพิ่ม เรียกว่าวินวินกันไปทั้งสองฝ่าย และยังเป็นการคุมราคาสำหรับคู่แข่งรายใหม่ ๆ ที่จะมาเปิดตัวตามมาที่หลังก็ต้องวางราคากันดีดี
ซี-เอชอาร์ เป็นรถที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของการขับขี่ที่สนุกสนาน มีของเล่นมากในระดับหนึ่ง เครื่องยนต์ไฮบริดของโตโยต้ายุคใหม่ถือว่าไม่ธรรมดา เราจะพาไปทำความรู้จักกับรุ่นท็อปอย่าง 1.8 ไฮบริด ไฮ ว่าน่าใช้งานเพียงใดกับค่าตัว 1.159 ล้านบาท
ราคาจำหน่าย New 2019 Toyota C-HR
ตารางราคาจำหน่าย New 2019 Toyota C-HR |
Toyota C-HR 1.8 Entry |
9.79 แสนบาท |
Toyota C-HR 1.8 MID |
1.039 ล้านบาท |
Toyota C-HR 1.8 Hybrid MID |
1.069 ล้านบาท |
Toyota C-HR 1.8 Hybrid High |
1.159 ล้านบาท |
รายละเอียดทางเทคนิค New 2019 Toyota C-HR
รายละเอียดทางเทคนิค 2019 โตโยต้า ซี-เอชอาร์ 1.8 ไฮบริด ไฮ |
มิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) (มิลลิเมตร) |
1,795x4,360x1,565 |
ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร) |
2,640 |
เครื่องยนต์ |
2ZR-FXE |
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) |
1,798 |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
98/5,200 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) |
142/3,600 |
มอเตอร์ไฟฟ้า |
PMSM แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ |
กำลังสูงสุดของมอเตอร์ (แรงม้า) |
72 |
แรงบิดสูงสุดของมอเตอร์ (นิวตันเมตร) |
163 |
แบตเตอรี่ |
นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ |
พละกำลังรวมทั้งระบบ (แรงม้า) |
122 |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ อี-ซีวีที |
ระบบบังคับเลี้ยว |
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า |
ช่วงล่างด้านหน้า |
อิสระ แมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง |
ระบบเบรก (หน้า/หลัง) |
ดิสก์เบรก/ดิสก์เบรก |
ล้ออัลลอย |
17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R17 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) |
43 |
Toyota C-HR ภายนอกเพิ่มล้อ เติมสีใหม่ทุกรุ่น
การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ของรถในโมเดลปี 2019 คือการเพิ่มสีตัวถังภายนอกเป็นทางเลือกอีก 1 สี ก็คือตัวถังสีขาวตัดกับหลังคาสีดำ และมีการเปลี่ยนล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วแบบทูโทน ลายใหม่ ซึ่งก็ดูลงตัวกับรถมากขึ้นจากรุ่นเดิมที่ดูลายออกจะเรียบ ๆ ไปสักนิด
รูปร่างหน้าตาของรถนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลจริง ๆ หลาย ๆ คนบอกว่ารถคันนี้มีหน้าตาแปลกประหลาด แต่หลายคนก็ชอบในความกล้าหาญของโตโยต้า ที่ทำรถที่ฉีกแหวกแนวออกมา ด้วยเส้นสายและการตีโป่งที่เฉียมคมและทำให้ตัวรถสวยกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน
กรอบโคมไฟด้านหน้าแบบฟูลแอลอีดีในรุ่นท็อป ส่องสว่างในทุกพื้นที่ มาพร้อมไฟเดย์ไทม์ ไฟเลี้ยวแบบแอลอีดีเช่นกัน พร้อมดวยระบบปรับไฟสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติ ระบบไฟท้ายแบบฟูลแอลอีดี เสริมความเท่ด้วยโคมไฟรมดำ เรียกว่าดูดุดันกันทั้งคันรถ
ล้ออัลลอยที่ดูขัดตาในตอนเปิดตัวถูกเปลี่ยนใหม่มาสวยงามขึ้นแล้ว ด้วยการออกแบบที่แปลกตานี้ ตำแหน่งมือจับประตูถูกร่นขึ้นไปอยู่เกือบชิดหลังคา ก็มีคนบ่นมาเหมือนกันว่าเด็ก ๆ หรือแม้แต่ผู้สูงวัยนั้น เปิดประตูรถตอนหลังรถลำบากเอาเรื่องอยู่
ในรุ่นท็อปยังมีอุปกรณ์จุกจุกเพิ่มมาอีก อาทิ ไฟส่องสว่างที่กระจกมองข้างแบบแอลอีดี เพื่อใช้ต้อนรับเจ้าของรถเมื่อเดินมาถึงตัวรถ ระบบปรับน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ซึ่งทำให้รถคันนี้ไม่ได้มีดีแค่ความโฉบเฉี่ยวสวยงาม แต่ดูลงตัวพร้อมใช้งานในทุกสภาวะ
Toyota C-HR ห้องโดยสารแนวสปอร์ตแต่อึดอัดไปนิด
ก็ยังต้องขอยืนยันว่าห้องโดยสารของโตโยต้า ซี-เอชอาร์ คือห้องโดยสารที่ออกแบบมาได้ดูสปอร์ต ลงตัว ดูเป็นรถยนต์แห่งโลกอนาคต ไมได้ขัดกับหน้าตาของรถเลยแม้แต่น้อย แสดงให้เห็นถึงความพิถีถิถันในการออกแบบรายละเอียดของรถในภาพรวมได้เป็นอย่างดี
ก็แม้แต่ทีมงานของโตโยต้ายังมั่นใจมาก ด้วยการที่แทบจะไม่ปรับเปลี่ยนอะไรในห้องโดยสารของพวกเขาเลยในรุ่นปี 2019 อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องความทึบของห้องโดยสารก็ยังเป็นจุดที่ต้องพิจารณาจริง ๆ ด้วยดีไซน์การออกแบบของตัวรถที่ทำมาตั้งแต่ต้น
แผงแดชบอร์ดด้านหน้าทั้งหมดออกแบบมาค่อนข้างล้ำมาในพื้นที่ของผู้โดยสารตอนหน้า ขณะที่ห้องโดยสารตอนหลังก็ถูกบีบให้แคบด้วยกรอบกระจกบานหลังที่ดูเล็กเหลือเกิน ใครที่ชอบนั่งชมวิวที่กระจกหลัง ขอบอกว่ารถคันนี้อาจจะไม่เหมาะกับการเป็นผู้โดยสารขนาดนั้น
รุ่นท็อปของซี-เอชอาร์ มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นมาหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมไฟส่องสว่างทั้ง 2 ฝั่ง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ระบบนำทาง พร้อมด้วยระบบฟอกอากาศในห้องโดยสาร ที่พวกเขาแสนจะภาคภูมิใจ
เบาะนั่งทุกตำแหน่งยังปรับด้วยมืออยู่ เบาะนั่งตอนหลังพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย ระบบปรับอากาศแยกอิสระ พร้อมด้วยเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว ที่มาพร้อมระบบที-คอนเนคต์ เทเลมาติกส์ ในรุ่นบนสุดเท่านั้น
เครื่องยนต์และช่วงล่าง Toyota C-HR ตอบสนองว่องไว
โตโยต้า ซี-เอชอาร 1.8 ไฮบริด ไฮ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 53 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร
เครื่องยนต์และมอเตอร์ฟ้าทำงานร่วมกัน ให้กำลังรวมสูงสุด 122 แรงม้า การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติแบบอี–ซีวีที พร้อมชิฟท์ล็อก ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ทำงานสัมพันธ์กันอย่างกระชับฉับไวคล่องแคล่ว
ช่วงล่างหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ขณะที่ช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง ให้ความสบายในการขับขี่ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ดีงามจริง ๆ ก็คงจะเป็นการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ครึกครื้นบันเทิงใจ
การตอบสนองของเครื่องยนต์ไฮบริดและเกียร์ชุดนี้ เซตมาให้ตอบสนองอย่างว่องไว ลากรอบเครื่องยนต์ได้อย่างสนุกสนาน การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างรายเรียบไม่กระตุก เสียดายที่ไม่มีแพดเดิลชิฟท์ติดตั้งมาให้ ตอบสนองการใช้งานในเมืองและนอกเมืองได้อย่างเหมาะสม
ช่วงล่างเซตอัพอย่างนุ่มนวลเน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก มีจังหวะกระแทกกระเทือนในยามขับขี่ที่ความเร็วสูงบ้าง แต่โดยรวม ๆ ความแล้ว เป็นครอสโอเวอร์ที่เหมาะสมสำหรับคนที่ชื่นชอบในการขับขี่รถยนต์ ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ตาม
Toyota C-HR มาพร้อมอุปกรณ์ของเล่นสำหรับคนยุคใหม่
ซี-เอชอาร์ รุ่นท๊อป มาพร้อมระบบที-คอนเนคต์ เทเลมาติกส์ ที่มีความสามารถมากมาย แต่ที่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบกับคนยุคใหม่ ก็คือความสามารถในการปล่อยไวไฟให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากถึง 9 อุปกรณ์ ที่แน่นอนว่าอาจจะมีค่าใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สูงอะไรนัก
ตัวรถมาพร้อมระบบความปลอดภัยอย่างเต็มที่ รุ่นสูงสุดมาพร้อมกับระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง ระบบเตือนเมื่อผู้ขับขี่มีอาการเหนื่อยล้า ระบบความปลอดภัยก่อนการชน พร้อมเบรกอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ
พร้อมด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน ซึ่งระบบทั้งหมดจะทำงานผสานกับระบบความปลอดภัยพื้นฐานอื่น ๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกตำแหน่ง ในทุกสภาวะการขับขี่อย่างสมบูรณ์แบบ
ระบบอื่น ๆ ที่ให้มาประกอบไปด้วย ระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกและระบบช่วยเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และไม่ต้องกลัวยางแบนด้วยชุดปะซ่อมยางฉุกเฉิน และระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งดูแลผู้โดยสารทั้งคันรถ ถอยจอดและกะระยะอย่างปลอดภัยด้วยเซนเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง และเซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 ตำแหน่ง พร้อมกล้องมองภาพขณะถอยจอด และเดินทางอย่างปลอดภัยทั้งครอบครัวด้วยจุดยึดเบาะนั่ง ISOFIX
Toyota C-HR เอาชนะด้วยดีไซน์แปลกตาและการขับขี่ที่ดีเยี่ยม
แม้จะเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีการออกแบบที่แปลกตาทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก แต่ New 2019 Toyota C-HR ก็เป็นรถยนต์ที่เรียกเสียงฮือฮาจากตลาดได้พอสมควร ด้วยความกล้าของโตโยต้า ที่นำของเล่นใหม่ ๆ มาใส่ไว้มากมายในรถคันนี้
เครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดของพวกเขา เมื่อนำมาติดตั้งในรถขนาดไม่ใหญ่มาก ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมทั้งการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง ช่วงล่างที่นุ่มนิ่มไปเล็กน้อยสำหรับการเดินทางไกล แต่ให้ความสบายมากเป็นพิเศษในเมืองที่ขับขี่ไม่ได้เร็วมาก
ห้องโดยสารอาจจะเป็นจุดที่โดนวิจารณ์มากหน่อย ด้วยการออกแบบที่ขัดกับขนบเดิม ๆ ของรถยนต์กลุ่มนี้ ที่มักจะเน้นความโปร่งสบายของห้องโดยสารเป็นพิเศษ พอโตโยต้าออกแบบรถคันนี้มาแล้วมีมุมอับในห้องโดยสารเยอะไปหน่อยก็เลยขัดใจผู้บริโภคบางกลุ่ม
สรุปโดยรวมแล้ว ซี-เอชอาร์ รุ่นท็อปนั้นมีดีมากมายหลายประการที่จะทำให้มันน่าใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนเล็กน้อยที่โดนใจด้วยการเอาล้อแมกซ์ลายใหม่มาใช้เสียที บอกเลยว่าเป็นการกระทำเล็กน้อยที่ส่งผลยิ่งใหญ่มหาศาล
แถมยังเป็นรถโตโยต้าที่ตั้งราคาได้อย่างน่าสนใจ เพราะมีข้อดีมากมายให้กล่าวขวัญถึง โดยที่ราคาจำหน่ายไม่ได้ฉีกโดดออกไปจากคู่แข่งจนต้องคิดแล้วคิดอีกก่อนตัดสินใจ เอาเป็นว่าใครที่อยากได้ครอสโอเวอร์ไว้ใช้งาน ก็ลองพิจารณาเป็นตัวเลือกกันได้