ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย เปิดตัว 2020 ฮอนด้า ซีอาร์-วี โฉมใหม่ มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่รุ่นเบนซิน 2.4S ราคา 1.369 ล้านบาทถึง 2.4EL 4WD ราคา 1.579 ล้านบาท มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.4 ลิตร กำลัง 173 แรงม้า แรงบิด 224 นิวตันเมตร และรุ่นท็อป DT-EL 4WD ราคา 1.759 ล้านบาท เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1.6 ลิตร กำลัง 160 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร
2020 ฮอนด้า ซีอาร์-วี เป็นรถในกลุ่มซี-เอสยูวี ออกทำตลาดรถอเนกประสงค์ระดับคอมแพ็กต์ ซีเซกเมนท์ในประเทศไทย เปิดตัวโฉมใหม่ล่าสุดในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา รุ่นดีเซลมีอัตราบริโภคน้ำมันประมาณ 16 – 17 กม.ต่อลิตร มีน้ำหนักรถ 1,754 กก.
ฮอนด้า (Honda) คือผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งเอนกประสงค์แบบเอสยูวีขนาดใหญ่ในประเทศไทย ด้วยสินค้าหลักอย่างฮอนด้า ซีอาร์-วี (Honda CR-V) ที่เปิดตัวทำตลาดมาแล้วหลายเจนเนอเรชั่น และถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกสำหรับตลาดซี-เอสยูวีในประเทศไทย
สำหรับ New 2018 Honda CR-V นั้นมีการเปลี่ยนแปลงราคาจำหน่ายและออพชั่นในรุ่นย่อยบางรุ่น ขณะที่โครงสร้างพื้นฐาน รูปลักษณ์และออพชั่นของรุ่นท็อปนั้น ยังคงของเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ช่วงเปิดตัวก่อนหน้านี้ทั้งหมด แสดงให้เห็นความมั่นใจในตัวสินค้าของฮอนด้าในระดับหนึ่ง
ซีอาร์-วี รุ่นปัจจุบัน มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ สมรรถนะสูง ที่นั่งแบบ 7 ที่นั่ง รองรับการเดินทางของครอบครัวขนาดกลาง ด้วยความเอนกประสงค์ของรถที่สามารถปรับการใช้งานได้หลายรูปแบบตามความต้องการของเจ้าของ
และแม้ว่าจะมีข่าวลือเรื่องของการปรับโฉมรถคันนี้ในเร็ววัน แต่ด้วยผลกระทบหลาย ๆ อย่าง ก็ทำให้ฮอนด้ายังไม่ได้ประกาศความชัดเจนเรื่องนี้ออกมาแต่อย่างใด ทำให้เราต้องจับตาถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ของพวกเขาอีกครั้งหนึ่งในอนาคต
แต่ตอนนี้ เราขอพาไปสัมผัสกับรุ่นท็อปของฮอนด้า ซีอาร์-วี โฉมปัจจุบันกันเสียก่อน ว่ารถคันนี้มีความดีงามในด้านใดบ้าง และหากต้องการที่จะซื้อรถยนต์กลุ่มนี้ในขณะนี้ ตัวรถเองยังตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานได้หรือไม่กันแน่
ราคาจำหน่าย 2018 Honda CR-V
ราคาจำหน่าย 2018 Honda CR-V |
Honda CR-V 2.4 E CVT 2WD |
1.409 ล้านบาท |
Honda CR-V 2.4 E CVT 4WD |
1.549 ล้านบาท |
Honda CR-V 1.6E 9AT 2WD |
1.559 ล้านบาท |
Honda CR-V 1.6E 9AT 4WD |
1.699 ล้านบาท |
รายละเอียดทางเทคนิค 2018 ฮอนด้า ซีอาร์-วี 1.6 อีแอล ขับเคลื่อน 4 ล้อ
รายละเอียดทางเทคนิค 2018 ฮอนด้า ซีอาร์-วี 1.6 อีแอล ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
มิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) (มิลลิเมตร) |
1,855x4,587x1,689 |
ระยะฐานล้อ (มิลลิเตร) |
2,660 |
ระยะต่ำสุดจากพื้นรถ (มิลลิเมตร) |
208 |
เครื่องยนต์ |
ดีเซล เทอร์โบ N16A4 |
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) |
1,597 |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
160/4,000 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) |
350/2,000 |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ 9 สปีด |
ระบบบังคับเลี้ยว |
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า Dual Pinion |
ระบบขับเคลื่อน |
ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
ช่วงล่างด้านหน้า |
อิสระ แมคเฟอร์สัน สตรัท |
ช่วงล่างด้านหลัง |
อี-ไทป์ มัลติลิงค์ |
ระบบเบรกด้านหน้า |
ดิสก์เบรก พร้อมรูระบายความร้อน |
ระบบเบรกด้านหลัง |
ดิสก์เบรก |
ล้ออัลลอย (นิ้ว) |
18 พร้อมยาง 235/60 R18 |
ภายนอกที่สวยงามโฉบเฉี่ยวแบบลงตัว
การเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายที่ภายนอกของตัวรถทำเอาแฟนคลับของฮอนด้าต้องแอบขยี้ตาเบา ๆ เพราะเดิมที่ซีอาร์-วีจะเป็นรถที่หน้าตาเรียบ ๆ ไม่หวือหวา แต่ในรุ่นใหม่นี้ กลับมาพร้อมภาพลักษณ์ดุดัน ลายเส้นดุดุและชุดแต่งที่เพิ่มเข้ามาทำให้รถมีความแข็งแกร่ง
แน่นอนว่าเป็นงานออกแบบตัวถังภายนอกได้รับอิทธิพลด้านการออกแบบจากตลาดที่ขายดีที่สุดอย่างสหรัฐอเมริกา แพลตฟอร์มการพัฒนาต่อยอดมาจากฮอนด้า ซีวิค (Honda Civic) แต่นำมาพัฒนาเป็นรถยนต์เอนกประสงค์ที่มีความใหญ่โตกว่าอย่างชัดเจน
ระบบส่องสว่างของรถทั้งคันเป็นแบบแอลอีดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชุดไฟหน้า ชุดไฟท้าย ไฟส่องสว่างขณะวิ่งในเวลากลางวัน รวมไปถึงไฟตัดหมอกคู่หน้า ซึ่งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะไม่ได้ให้มาอย่างครบครันเท่านี้ ขาดไปในส่วนของไฟตัดหมอก
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวแบบปรับและพับได้ด้วยระบบไฟฟ้า มือจับประตูภายนอกสีเดียวกับตัวรถ สปอยเลอร์หลังทำให้รถดูมีทรงมากขึ้น กาบประตูด้านข้างตกแต่งด้วยโครเมียม มาพร้อมกับเสาอากาศแบบครีบฉลามดูสะอาดตา
รุ่นท็อปมาพร้อมกับระบบเปิดฝาท้ายโดยไม่ใช่มือ อำนวยความสะดวกในยามถือของเยอะ ๆ สามารถเปิดประตูหลังได้ด้วยการเตะที่ใต้กันชน เรียกว่าให้มาพร้อมทั้งรูปลักษณ์ และการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ขับขี่อย่างเหนือชั้นจริง ๆ
ห้องโดยสารที่พัฒนามารองรับการใช้งานที่หลากหลาย
การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ของซีอาร์-วีในรุ่นนี้ ก็คือการเพิ่มทางเลือกสำหรับห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งเข้ามา ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะราคารถของพวกเขานั้น มักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับรถยนต์กลุ่มพีพีวี ซึ่งมีความต้องการในตลาดเหล่านั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ
เบาะโดยสารของฮอนด้านั้น สะดวกสบายกว่าอย่างเห็นได้ชัด การเข้าออกจากประตูแถว 2 นั้นทำได้อย่างง่ายดาย ด้วยประตูที่เปิดกว้างได้ 88 องศา พร้อมการเพิ่มระยะวางขาระหว่างเบาะแถวหน้าและเบาะแถว 2 ขณะที่การเข้าออกแถวที่ 3 ก็ทำได้อย่างสะดวก
แม้จะมีเบาะแถวที่ 3 เพิ่มมา ทำให้ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายเสียพื้นที่ไป แต่เบาะแถว 3 สามารถพับเก็บได้ในเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน ปัญหาเดียวก็คือเบาะไม่ได้พับเรียบลงไป ทำให้ยังไงก็เสียพื้นที่ในการขนสัมภาระอยู่ดี โดยเฉพาะพวกชิ้นสูง ๆ ก็อาจจะลำบากหน่อย
มีการเพิ่มช่องลมสำหรับระบบปรับอากาศให้กับผู้โดยสารตอนหลัง โดยการแยกระบบควบคุมออกจากกันโดยเด็ดขาด ทำให้ผู้โดยสารตอนหลังไม่ต้องรอขออากาศจากตอนหน้า ซึ่งถือเป็นระบบที่ดีที่คู่แข่งควรจะนำไปศึกษาเพื่อพัฒนารถในอนาคต
มองไปที่แผงหน้าปัดหน้าตกใจที่มองไม่เห็นคันเกียร์ เพราะฮอนด้านำระบบเกียร์รุ่นใหม่แบบปุ่มกดมาใช้แทนแล้ว ขณะที่การออกแบบภายในห้องโดยสารก็เน้นโทนเรียบ ขรึม ด้วยวัสดุบุสีเทาสลับลายไม้สีน้ำตาลอ่อน มาพร้อมจอแสดงผลรูปร่างหน้าตาคุ้น ๆ กันดีอยู่
เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ สู่ศตวรรษใหม่ของฮอนด้า
ปัญหาหนึ่งของฮอนด้า ซีอาร์-วี ที่ทำตลาดมาอย่างยาวนานในอดีต ก็คือเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับรถยนต์นั่งหรือรถยนต์อื่น ๆ ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ด้วยน้ำหนักของตัวรถที่ต้องใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่การฉุดลากตัวรถให้ได้สมรรถนะที่เหมาะสม
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของพวกเขาคือการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ขึ้นมา ให้เครื่องยนต์มีขนาดเล็กลง เสริมสมรรถนะด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา พร้อมแมตช์เครื่องยนต์ด้วยเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ เพื่อให้ได้สมรรถนะที่น่าพึงพอใจและประหยัดน้ำมันมากขึ้น
ผลก็คือเครื่องยนต์รหัส N16A4 เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1,597 ซีซี. มาพร้อมเทคโนโลยีไอ-ดีเทค พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ และเน้นความสะอาดด้วยฟิลเตอร์กรองฝุ่นมลพิษ และระบบหมุนเวียนไอเสียกลับมาใช้ใหม่ เพื่อช่วยลดมลพิษของเครื่องยนต์ดีเซล
เครื่องยนต์รุ่นนี้ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมให้แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะของแซดเอฟ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในตัวท็อปของรุ่น
สิ่งที่ได้มาก็คือเครื่องยนต์ที่เรียบร้อยแบบผู้ดี ไม่ออกตัวแบบกระโชกโฮกฮาก ระบบส่งกำลังที่ส่งกำลังอย่างไหลลื่นจากจุดหยุดนิ่ง เสียงเครื่องยนต์ที่เงียบในระดับที่รับได้ เรียกว่าเป็นเอสยูวีที่เนี๊ยบกว่าที่คาด และให้การตอบสนองดีขึ้นอย่างชัดเจน
ช่วงล่างและระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ดีงาม
ฮอนด้าเลือกใช้ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สัน สตรัท ขณะที่ด้านหลังมาพร้อมช่วงล่างแบบอี-ไทป์ มัลติลิงค์ ออกแบบมาใหม่ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสารตอนหลังเพื่อรองรับที่นั่ง 3 แถว เมื่อทำงานร่วมกันแล้วช่วยลดแรงสะเทือนของตัวรถในการขับขี่
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าแบบ Dual Pinion พร้อมระบบแปรผันอัตราทดพวงมาลัยเซตมาไวขึ้น ระบบห้ามล้อแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ ช่วยเหลือด้านการขับขี่ด้วยระบบป้องกันล้อล็อก ระบบปรับน้ำมันเบรกแบบอีเลกทรอนิกส์ และระบบควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ
ติดตั้งระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจห่างจากตัวรถ มาพร้อมระบบเบรกมือไฟฟ้า ระบบเบรกรถอัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน
ซีอาร์-วี มาพร้อมระบบช่วยเหลือด้านการใช้งานมากมาย อาทิ ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ กล้องมองภาพขณะถอยจอด ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง และกุญแจอิมโมบิไลเซอร์
ความสะดวกสบายที่มาพร้อมความมั่นใจในการใช้งานถูกติดตั้งเข้ามาอย่างเต็มที่ในซีอาร์-วี รุ่นที่ทำตลาดในปัจจุบัน ประกอบกับเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทำให้ฮอนด้า ซีอาร์-วี เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ลูกค้ายังให้ความมั่นใจอย่างมากในตลาดเอสยูวีอยู่ดี
ความสบายใจของผู้มีประสบการณ์
ฮอนด้าไม่ได้เป็นผู้นำในตลาดเอสยูวีในประเทศไทยเท่านั้น แต่ในตลาดโลกเองพวกเขาก็มียอดจำหน่ายเยอะมากในหลายตลาด โดยที่มีฮอนด้า ซีอาร์-วี เป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมที่ทำยอดขายเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม ถือว่ามีประสบการณ์ในตลาดมาอย่างยาวนาน
จริงอยู่ที่การเติบโตของตลาดรถยนต์เอนกประสงค์ จะทำให้มีผู้ประกอบการหน้าใหม่เกิดขึ้นอย่างมากมาย แต่ฮอนด้าก็อาศัยความเก๋าของพวกเขาในการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และอยู่เหนือความคาดหมายของตลาดอยู่ตลอด
New 2018 Honda CR-V มาพร้อมจุดขายมากมาย เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ ห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง อุปกรณ์ที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และระบบด้านความปลอดภัยที่สามารถปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกตำแหน่งได้ตลอดเส้นทาง
กลับมามองที่ราคาจำหน่ายที่หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกว่ามันแพงไปนั้น ก็ต้องบอกว่ากลไกด้านราคาและการหลบหลีกจากเซกเมนต์อื่น ๆ ทำให้ราคาของรถกลุ่มนี้นั้นดีดตัวขึ้นอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะคู่แข่งก็ราคาไม่ได้หนีกันเท่าไหร่ ยกเว้นใครที่เทกระจาดราคาก็ดรอปไปเท่านั้น
ต้องบอกว่าในเซกเมนต์นี้ ฮอนด้านั้นสู้กับตลาดด้วยความเก๋าและประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างแท้จริง และเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่กล้าพูดได้ว่าหากเทียบกับแล้ว ฮอนด้าแทบจะไม่แพ้ใครหน้าไหนในตลาดทั้งสิ้น ก็ไม่แปลกใจที่จะเห็นฮอนด้า ซีอาร์-วี วิ่งกันเต็มท้องถนนต่อไป