2019 Honda Civic Turbo (2019 ฮอนด้า ซีวิค เทอร์โบ) รถซีดานขนาด C-segment ที่ทำยอดขายชนะ Corolla Altis อย่างขาดลอย ด้วยข้อดีที่เครื่องยนต์แรงกว่า รูปทรงแนวรถท้ายลาดที่ถูกใจหลายคนมากกว่า และปัจจุบันนี้ ฮอนด้า ซีวิค ซีดาน รหัสตัวถัง FC เข้าสู่วัยใกล้ฝั่ง กำลังมีรุ่นใหม่ออกมาแทนที่แล้ว ทำให้หลายคนสงสัยว่า รุ่นนี้ยังน่าซื้อ หรือจะรอรุ่นใหม่ออกมาก่อนดี วันนี้จะมาลองขับอีกครั้งเพื่อหาคำตอบกัน
รถที่นำมาทดสอบครั้งนี้คือ Honda Civic รุ่นซีดาน 1.5 Turbo RS โฉมไมเนอร์เชนจ์ล่าสุด ราคา 1,219,000 บาท กับสีแดงใหม่ Ignite Red ที่ทีมงานชอบมากกว่าแดงเฉดเก่า เพราะมีความเข้มกว่า และยังฉูดฉาดเรียกร้องความสนใจได้ดี โดยไม่แปร๋นเท่ากับเฉดแดงเดิม นอกจากปรับปรุงเฉดสีแล้ว ที่ภายนอกยังปรับโฉมให้เรียบร้อยขึ้นจากโฉมแรกเริ่มเปิดตัว เป็นการปรับหน้าตาเพื่อปูทางไปสู่การโมเดลเชนจ์รุ่นต่อไป
ราคาและรุ่นย่อย 2019 Honda Civic
1.8 E
|
874,000 บาท
|
1.8 EL
|
964,000 บาท
|
1.5 Turbo
|
1,104,000 บาท
|
1.5 Turbo RS
|
1,219,000 บาท
|
สิ่งที่ทำให้ Civic ขายดี
ฮอนด้า ซีวิคนั้นมาพร้อมรูปลักษณ์แนวสปอร์ตท้ายลาด แถมยังมีตัวถังให้เลือกได้ทั้งแบบซีดานและแฮชท์แบ็ค เครื่องยนต์รุ่นท็อปก็แรงกว่าคู่แข่งชัดเจน อีกทั้งในรุ่นปรับโฉม ยังให้อุปกรณ์ความปลอดภัยไม่แพ้คู่แข่ง ซึ่งไม่ใช่แค่ความว้าวในสเปคหน้ากระดาษเท่านั้น วันนี้เรามาลองขึ้นขับใช้งานจริงแล้วด้วย
ขับจริงแล้วมีดีมากกว่าความแรง
การลองขับครั้งนี้ เป็นการใช้งานยาวหลายวัน ไม่ได้ขับวนสั้นๆ เพื่อให้เก็บรายละเอียดการใช้งานแบบปุถุชนทั่วไป โดยไม่ได้สวมวิญญาณเป็นนักซิ่งมากมายเกินเบอร์ เพราะว่าความแรงนั้นเป็นจุดขายที่ทุกคนที่กำลังจะจ่ายเงินล้านสองให้คนนี้ นั้นรู้อยู่แก่ใจแล้ว ว่ากดคันเร่งเมื่อไหร่ มันพร้อมความดึงให้ฉีกระยะห่างจากคันอื่นได้ทุกเมื่อ
จุดเด่นอีกอย่างที่จับต้องได้ขณะการขับ นั่นคือตำแหน่งปุ่มต่างๆ ที่ใช้งานง่าย เช่น ปุ่มสตาร์ทที่ไม่ไปหลบอยู่หลังสวิตช์ปัดน้ำฝน หรือจะเป็นปุ่มควบคุมระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติทั้งหลาย รวมอยู่ในแป้นมัลติฟังก์ชั่น นี่ยังไม่พูดถึงแป้นเกียร์ที่ยกตัวขึ้นมาใกล้มือคนขับมากกว่ารถคู่แข่ง เหล่านี้ทำให้คนขับฝ่าการจราจรได้อย่างไม่เครียด
ลองเล่นระบบช่วยขับ
โฉมปรับปรุงล่าสุดนี้ ใส่ระบบ Honda Sensing เหมือนรุ่นพี่ ฮอนด้า แอคคอร์ด ซึ่งทีมงานได้เคยลองขับรถหรูมาก่อนแล้ว เมื่อกลับมาใช้งานในรุ่นนี้ พบว่าระบบ Cruise control แบบแปรผัน ที่มีหลักการทำงานเหมือนกัน แต่น้ำหนักเบรคต่างจากแอคคอร์ค โดยรุ่นนี้เป็นรถที่เข้าใจน้ำหนักการเบรคมากขึ้น สามารถกดเบรคอัตโนมัติได้หลายระดับ ตั้งแต่เริ่มเลียเบรคเลี้ยงคาไว้ จนถึงเหยียบหนักจนหยุดนิ่ง เป็นระบบวิ่งตามการจราจรที่สะดวกกับการใช้งานในเมืองมาก
การลองขับออกนอกเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ก็ยังมีการดึงพวงมาลัยเบาๆ เบาจนแทบไม่รู้สึก เมื่อเทียบกับรถค่ายอื่น และเมื่อเปิดไฟเลี้ยว ระบบ Lane Watch ก็ทำงานได้แม่นยำ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ยังไม่มีคู่แข่งรายใดทำได้แบบนี้
สิ่งที่ต้องปรับปรุง
ข้อเสีย Honda Civic 2019 คือหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่กว่านี้ เพื่อแสดงผลจากภาพ LaneWatch ได้อย่างเต็มตา กับดีไซน์ภายในที่จืดไม่สมกับรูปทรงภายนอกเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังอยากให้เพิ่มการเชื่อมต่อ HondaConnect อย่างเต็มระบบเสียที จะได้ดูรถผ่านแอปมือถืออย่างรุ่นหรูได้ และสุดท้ายอยากให้เพิ่มแอร์ตอนหลังเป็นมาตรฐานให้ในทุกรุ่น คงจะไม่เป็นการเพิ่มต้นทุนมากเกินไป
2021 Honda Civic รุ่นใหม่เหมือนเดิมหลายอย่าง
Honda Civic โฉมปัจจุบันทำตลาดตั้งแต่ปี 2016 ก็เตรียมถูกถอดออกจากโชว์รูมในปีหน้า เพราะมีข่าวภาพหลุดของ 2021 Honda Civic ใหม่ ที่มีรูปทรงคล้ายเดิม เพิ่มเติมคือมีรายละเอียดเรียบร้อย ลายเส้นไม่ฉวัดเฉวียน มีความเป็นผู้ใหญ่สไตล์มินิมอล ในสัดส่วนซีดานท้ายลาดเหมือนเดิม
แม้ตัวรถดูมีความสปอร์ตที่ลดน้อยลงไปจากรุ่นที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันไปบ้าง แต่ฮอนด้าก็เผยรายละเอียดการออกแบบภายนอก ที่เน้นความดุดันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นล้ออัลลอยลายใหม่สีดำ กรอบโคมไฟหน้าแนวกว้างที่มุมของตัวรถ มาพร้อมเส้นไฟด้านหน้าที่เฉียบคม ด้านท้ายของรถเล่นเส้นไฟท้ายที่มาพร้อมแอลอีดี ไกด์ดิ้งไลท์ ทรงพิมพ์นิยม ทำให้ตัวรถนั้นดูไม่จืดชืดจนเกินไปนัก
นอกจากรูปร่างสัดส่วนคล้ายเดิมแล้ว ฮอนด้า ซีวิค 2021 ยังใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 เทอร์โบอยู่เช่นเคย ที่มั่นใจอย่างนี้ เพราะว่าขุมพลังบล็อคนี้ เพิ่งถูกใช้เป็นครั้งแรกในเจนนี้ และน่าจะถูกใช้ต่อในเจนถัดไป ตามประวัติการ R&D เครื่องยนต์บล็อคต่างๆ ที่ผ่านมาในอดีต
คุณกัสคาดการณ์ : ควรซื้อรุ่นนี้ถ้ายังมีโอกาส
นอกจากว่าคุณชอบรูปทรงเรียบง่ายมากขึ้น ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องรอ Honda Civic รุ่นใหม่ เพราะว่าในรุ่นปัจจุบัน ก็มีหน้าตายังทันสมัย กับเทคโนโลยีและออพชั่นใส่มาให้ไม่ตกยุค อีกทั้งยังได้รับการแก้ไขปัญหาเรื่องคุณภาพการประกอบอยู่ต่อเนื่อง จนมีคุณภาพที่ไว้ใจได้แล้ว
นอกจากเรื่องออพชั่นและความน่าเชื่อถือแล้ว ยังมีเรื่องราวความเป็นรถซีวิครุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ ดังนั้นโฉมนี้ยังจะได้รับความนิยมในตลาดรถมือสอง ทำให้ราคาไม่ตกต่ำกว่าคู่แข่งง่ายๆ ดังนั้นหากใครอยากครอบครองส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์วีเทคเทอร์โบ ก็ไม่ควรรอช้า เพราะปีหน้าจะเปลี่ยนโฉมแล้วนะครับ
ข้อมูลทางเทคนิค 2019 Honda Civic
|
ความยาว
|
4,648 มม.
|
ความกว้าง
|
1,799 มม.
|
ความสูง
|
1,416 มม.
|
ระยะฐานล้อ
|
2,698 มม.
|
ความจุถังน้ำมัน
|
47 ลิตร
|
ขนาดล้อและยาง
|
ล้อ 17 นิ้ว ยาง 215/50 R17
|
เครื่องยนต์
|
เบนซิน 4 สูบ DOHC i-VTEC เทอร์โบ
|
ความจุ
|
1.5 ลิตร (1,498 ซีซี.)
|
พละกำลัง
|
173 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที
|
แรงบิด
|
220 นิวตันเมตรที่ 1,700 – 5,500 รอบต่อนาที
|
ระบบส่งกำลัง
|
เกียร์อัตโนมัติ CVT
|
ระบบขับเคลื่อน
|
ขับเคลื่อนล้อหน้า
|