2019 Subaru XV (ซูบารุ เอกซ์วี) รถเอสยูวีขนาดเล็ก ซึ่งถูกเปลี่ยนโฉมใหม่ล่าสุด โมเดลเชนจ์ไปเมื่อปี 2018 และได้เพิ่มรุ่นแต่งพิเศษ GT Edition ในปี 2019 โฉมใหม่นี้ยังใช้พื้นฐานรถเก๋งอิมเพรซ่า นำมาปรับแต่งช่วงล่างยกสูงพร้อมใส่ระบบขับสี่ล้อ ทำตลาดเทียบชั้นกับ Toyota C-HR กับ Honda HR-V โดยรถที่เรานำมาทดสอบวันนี้ คือรุ่นย่อย Subaru XV GT Edition ตัวท็อปสุดไปเลย ซึ่งเราจะมาหาจุดเด่น-จุดด้อยกัน อันดับแรกเลยคือ จุดด้อยตรงที่มีราคาแรงกว่าคู่แข่งพอสมควร

2019 Subaru XV ราคาแรง แพงชุดแต่ง

2019 Subaru XV GT Edition ขายในไทยด้วยราคา 1,388,000 บาท รวมการประกันศูนย์ และชุดแต่ง GT เรียบร้อย นับว่าเป็นรุ่นท็อปสุดในรุ่น และแพงสุดในรุ่นเช่นกัน โดยเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว พบว่ามีระดับราคาต่างกันพอสมควรตามนี้

การที่มีราคาสูงกว่าคู่แข่งนี้ เพราะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อถาวรเป็นไฮไลท์เด่น แต่นอกจากนี้แล้วจะมีอะไรให้น่าชื่นใจอีกบ้างหรือไม่ ไปลองขับดูกัน

2019 Subaru XV จุดเด่นอยู่ที่ชุดแต่ง

2019 Subaru XV GT Edition เน้นชุดแต่ง GT Edition แนวลุยทรงบึกบึน เสริมราศีสำหรับคนชอบออฟโรด ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วนดังนี้

• สเกิร์ตกันชนหน้า สีดำขอบเงิน

• สเกิร์ตกันชนหลัง สีดำขอบเงิน

• สเกิร์ตด้านข้าง สีดำขอบเงิน

• สปอยเลอร์หลังคา สีดำเงา

• ล้อ GTขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง

2019 Subaru XV รูปทรงเดิม โครงสร้างใหม่

2019 Subaru XV GT Edition พัฒนาบนแพลทฟอร์มใหม่หมดจรด แม้เทียบกับโฉมก่อนหน้านี้ พบว่ายังคงสไตล์แฮชแบ็ค 5 ประตูท้ายลาด แต่มีขนาดของตัวรถใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แถมมีความสูงจากพื้น 220 มม. ทำให้การขับขี่ลุยน้ำท่วมหรือหลุมบ่อก็ไม่มีปัญหา เปลี่ยนไฟหน้าดีไซน์เรียวแบบเม็ดข้าว ใส่เลนส์แบบ Projector LED พร้อมความสามารถปรับอัตโนมัติได้ และปรับทิศทางทางการเลี้ยวได้

ภายในของ 2019 Subaru XV GT Edition ดีไซน์ตามสไตล์ Impreza ที่เน้นทรงเหลี่ยมเรียบง่าย ไม่หวือหวา แผงคอนโซลหน้าและแผงประตูของ Subaru XV  ออกแบบโทนสีดำ มีหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ Multi-function LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ที่แสดงอัตราการประหยัดน้ำมัน สภาวะการขับขี่ ข้อมูลสภาพแวดล้อม ฯลฯ พวงมาลัยมีแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift มีการตกแต่งด้วยหนังเย็บตะเข็บสีส้ม ทำให้ดูสปอร์ตขึ้น จุดที่แปลกใจคือ เป็นรถญี่ปุ่นแท้ๆ แต่กลับมีก้านไฟเลี้ยว/ปัดน้ำฝน อยู่สลับด้านกับรถญี่ปุ่นค่ายอื่นๆ ไปเป็นแบบรถยุโรปแทน แสดงว่าเอาใจตลาดอเมริกาเต็มที่

2019 Subaru XV ระบบอำนวยความสะดวก มีแผนที่ในตัว

ระบบความบันเทิงของ Subaru XV เป็นระบบเครื่องเสียงแบบจอกลางแสดงผลขนาด 8 นิ้ว และลำโพง 4 ตัว พวงมาลัยมีสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง สามารถเชื่อมต่อด้วยพอร์ท USB, AUX และ HDMI Bluetooth NFC ทันสมัยด้วยการรองรับ Andriod Auto และ Apple Carplay ที่สำคัญคือมาพร้อมระบบนำทาง GPS Navigator ที่อัพเดตใหม่แล้ว

เครื่องยนต์ 2019 Subaru XV แรง ใช้ได้

แรงใช้ได้ คือคำจำกัดความของเครื่องยนต์ 2019 Subaru XV GT Edition ที่เป็นแบบเบนซินหายใจเอง ให้กำลัง 156 แรงม้า ใช้งานได้ดีในตอนลอยตัวระดับ 60 กม./ชม. แล้วเติมคันเร่งส่งไปก็มีแรงจีส่งมาให้เราดึงติดเบาะบ้าง ส่วนตอนออกตัว ไม่ได้พุ่งทะยานมากมายตามที่หลายคนคาดหวัง เพราะระบบเกียร์จะค่อยๆ ถ่ายกำลังเพื่อถนอมสายพาน CVT ให้เราสามารถสนุกกับรถคันนี้ได้ไปยาวนาน

X-mode โหดเหมือนโกรธรถเก๋ง 2019 Subaru XV

จุดเด่นที่สุดของ 2019 Subaru XV GT Edition ต้องลองจับมันไปลงทางฝุ่น หรือทางกรวด พร้อมกดปุ่ม X-mode ที่จะปรับเปลี่ยนการคำนวนแรง กระจายกำลังจากล้อฟรีไปยังล้อที่แนบชิดพื้น ทำให้ไม่ว่าจะลงหลุมจนล้อเชิด หรือลุยกรวดจนล้อฟรี ระบบก็จะปรับไปส่งแรงให้ล้ออื่นๆ ทันทีทันใจ ใช้เวลาภายในเสี้ยววินาที จนคนขับมัวแต่อ่านไลน์ทางแรลลี่ ไม่ทันได้รู้สึกถึงการฟรีทิ้งของล้อแต่อย่างใด สามารถพารถทรงเก๋งบ้านๆ ไปรูดผ่านทางกรวดหินผสมโคลน จนรถกระบะขับสี่ที่สวนลงมายังต้องแปลกใจ

2019 Subaru XV ระบบช่วยขับหายไปเกือบหมด

จุดด้อยของ 2019 Subaru XV GT Edition ก็มีคือ การไม่มีระบบช่วยควบคุมรถในเลน ไม่มีระบบแปรผันความเร็วตามรถคันหน้า และที่สำคัญ ไม่มีระบบเตือนการชนด้านหน้า พร้อมช่วยเบรคอัตโนมัติ นี่ยังไม่นับถึงระบบอำนวยความสะดวกจุกจิกเช่น เตือนจุดบอดด้านหลังอีกด้วย ยังดีที่มีกล้องมองภาพรอบทิศทางให้ 

2019 Subaru XV งานประกอบเกือบดีแล้ว อีกนิ๊ดเดียว

2019 Subaru XV GT Edition เป็นรถประกอบจากโรงงานในมาเลเซีย ซึ่งโดยรวมแล้วมีความน่าพอใจ ทั้งการติดตั้งชิ้นส่วนต่างๆ ไม่มีช่องว่างหรือเบียดชิดเกินไป การตัดเย็บก็เรียบร้อย ไม่เบี้ยว ไม่ยับย่น เสียตรงนิดเดียวคือ ที่ประตูคนขับนั้นใช้แรงปิดมากกว่าประตูบานอื่นๆ ทั้งที่ถูกใช้งานมาไม่ถึงหมื่นโลด้วยซ้ำ ตรงจุดนี้ต้องแก้ด้วยการสั่งให้ช่างในศูนย์ตั้งประตูให้ปิดง่ายกว่านี้

ออพชั่น 2019 Subaru XV มาครบจนไม่ต้องซื้อรุ่นท็อปก็ได้

ด้วยความที่รุ่นล่างสุดก็มีออพชั่นต่างจากท็อปสุดไม่มาก นอกจากชุดแต่งสวยๆรอบคันและการตกแต่งภายในแล้ว ยังมีส่วนขาดไปก็เพียงแต่ ระบบไฟหน้าปรับและเลี้ยวออโต้ ที่ฉีดล้างไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ซึ่งหากใครไม่ซีเรียสเรื่องความไฮเทคล้ำๆ ก็ซื้อรุ่นล่างสุด ประหยัดเงินไปได้หลายแสนเลยทีเดียว

สาเหตุว่าทำไมคนที่สนใจครอสโอเวอร์ราคาล้านต้นๆ ถึงได้เทไปหาโตโยต้า หรือฮอนด้า นอกจากเรื่องศูนย์บริการมาตรฐานของ Subaru มีจำนวนน้อยกว่าคู่แข่งอยู่หลายเท่าตัวแล้ว ก็ยังมีเรื่องของระบบป้องกันก่อนการชน รวมถึงระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ซึ่งทางคู่แข่งมีมาให้หมดแล้ว เช่น Toyota Safety Sense หรือ Honda Sensing อันเป็นจุดที่คนส่วนใหญ่สนใจมากกว่าระบบขับขี่ที่แสนดี

ลองขับ 2019 Subaru XV GT Edition แล้วพบความนิ่มนวล เกาะถนน ขับสนุก ระบบขับเคลื่อนแสนดี ออกจะดีเกินไปจนลืมว่า คนส่วนใหญ่เขาสนใจเรื่องระบบป้องกันก่อนการชนมากกว่า แต่หากใครที่ชอบลุย ชอบเที่ยว ชอบออกนอกทางดำ ต้องไม่พลาดที่จะได้ลองขับรถรุ่นนี้ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อครับ