Proton (โปรตอน) ตกเป็นข่าวว่าจะหวนกลับมาทำตลาดประเทศไทยอีกครั้ง ประเดิมด้วยรถเอสยูวีรุ่นใหม่ Proton X70 ที่ทยอยเปิดตัวในหลายประเทศทั่วโลก
กระแสข่าวการกลับเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราของ Proton เกิดขึ้นหลังจากดาโต๊ะ ราดซาอิฟ มูฮัมหมัด รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Proton กล่าวแย้มว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่บริษัทฯ หวังว่าจะได้ดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง
“การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ Proton ในมาเลเซียมีความสำคัญ แต่ในขณะเดียวกัน การยกระดับแบรนด์ไปสู่ตลาดนานาชาติก็มีความจำเป็นเช่นกัน เราจำเป็นต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ของเราในหลายตลาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพ อิสลามาบัด ไคโร และไนโรบี” ดาโต๊ะ ราดซาอิฟ กล่าวเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้ Proton เพิ่งเปิดตัว Proton X70 และ Saga ในปากีสถานและเคนยา โดยจะส่งออกชิ้นส่วนเข้าไปทำตลาดทั้งสองประเทศในรูปแบบรถชิ้นส่วนประกอบ (CKD) รายงานข่าวระบุว่าการเปิดตัวรถใหม่ของ Proton ในทั้งสองประเทศประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ประเดิมทำตลาดบ้านเราด้วย Proton X70
Proton เคยดำเนินธุรกิจในบ้านเราผ่านผู้จัดจำหน่ายอย่างบริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด แต่การจำหน่ายรถยนต์สิ้นสุดลงในปี 2015 ขณะที่การเปิดตัวรถยนต์ Proton รุ่นใหม่โมเดลสุดท้ายต้องย้อนกลับไปถึงปี 2012 หรือก่อนที่ Proton จะถูก Geely กลุ่มทุนจากจีนเข้าเทคโอเวอร์
รายงานข่าวระบุว่าถ้า Proton หวนคืนสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทยอีกครั้งจะเป็นในรูปแบบการก่อตั้งบริษัทลูก (Wholly Owned Subsidiary) ไม่ใช่การดำเนินงานผ่านบริษัทผู้จัดจำหน่ายอีกต่อไป
คาดว่ารถรุ่นแรกที่จะเปิดตัวจำหน่ายในไทยคือ Proton X70 รถเอสยูวีขนาดคอมแพ็กต์ที่จะแข่งขันในระดับเดียวกับ Honda CR-V และ MG HS ซึ่งรุ่นหลังนี้ทำยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยมและผงาดขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถเอสยูวีซีเซกเมนท์ในบ้านเรา
หลังจากนั้น คาดว่า Proton จะนำเสนอรถขนาดเล็ก Saga และ Persona ซึ่งอาจเป็นการนำเข้าทั้งคันจากมาเลเซียมาจำหน่ายในประเทศไทย จึงน่าจับตามองว่ารถยนต์ทั้งสองรุ่นจะทำราคาจำหน่ายเพื่อแข่งขันกับรถอีโคคาร์อันแข็งแกร่งในบ้านเราอย่าง Toyota Yaris Ativ, Honda City และ Nissan Almera ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
จริง ๆ แล้ว Proton ซุ่มเงียบศึกษาตลาดไทยมาสักพัก
โปรตอนนั้นอาจจะดูเหมือนไม่ได้แสดงความสนใจกับประเทศไทยออกสื่ออย่างชัดเจน แต่จริง ๆ แล้ว พวกเขามีการตั้งบริษัท โปรตอน (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมมีออฟฟิศอย่างเป็นทางการอยู่ย่านใจกลางเมือง เพื่อทำการศึกษาถึงความเป็นไปได้ของการกลับเข้ามาทำตลาดอีกครั้งในอนาคต
ทีมงานของโปรตอนที่ประกอบไปด้วยชาวมาเลเซียและชาวไทย ได้ทำการศึกษาแนวโน้มความต้องการของตลาด คู่แข่งและความน่าจะเป็นของการนำแบรนด์นี้กลับเข้ามาอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จภายใต้ร่มเงาของกลุ่มพระนครยนตรการ ตัวแทนจำหน่ายในอดีต ที่เคยขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายไปหลายแห่ง
การที่มีกระแสข่าวออกมาว่าบริษัทแม่พร้อมที่จะเข้ามาทำตลาด น่าจะเป็นการยืนยันว่าผลการศึกษาทั้งหมดนั้นเป็นบวกกับการตัดสินใจของบริษัท ทำให้พวกเขาพร้อมที่จะยกทัพสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ ที่คาดการณ์กันว่าไม่น่าจะเกินปี 2564-2565 น่าจะเห็นอย่างชัดเจน
ภารกิจของโปรตอนนั้นจะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย เพราะต้องยอมรับว่าสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ของพวกเขานั้นมีความน่าสนใจมากขึ้นกว่าจากในอดีตมากมาย แต่การทำราคาเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยที่ไม่มีสิทธิประโยชน์ด้านภาษีสำหรับรถยนต์แห่งชาติ ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถามว่าพวกเขาจะทำได้ดีขนาดไหน
นอกจากนี้ การจัดการแก้ไขเรื่องของการให้บริการหลังการขายที่เป็นตราประทับของแบรนด์มานานนับหลายปี รวมถึงการที่จะต้องเข้ามาสร้างเครือข่ายการจำหน่ายและการให้บริการที่เข้มแข็งอีก ถือเป็นภารกิจใหญ่ที่โปรตอนต้องคิดและตัดสินใจอย่างจริงจัง หากจะเข้ามาบุกประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง