2021 Nissan Navara (นิสสัน นาวาร่า 2021) เปิดตัวในประเทศไทยไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ท่ามกลางเป้าหมายที่ผู้บริหารไม่ได้ระบุไว้ แต่ทุกคนมั่นใจว่า พวกเขานั้นอยากให้นาวาร่ามียอดจำหน่ายที่ขยับขึ้นไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อขยับตำแหน่งการเป็นผู้นำตลาดอันดับที่ 5 ที่พวกเขาอยู่มาอย่างยาวนานให้ได้เสียที
แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตำแหน่งผู้นำอันดับ 1-2 นั้น โดนยึดอย่างเหนียวแน่นโดย Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) และ Toyota Hilux REVO (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) คู่แข่งที่นิสสันพอจะหมายมั่นปั้นมือไปแข่งได้ก็จะเป็น Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) และ Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ที่มียอดจำหน่ายแตกต่างกันไม่มาก
นิสสันนั้นพยายามเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตัวรถหลายเรื่อง ทั้งการนำดีไซน์การออกแบบใหม่ที่ดูสวยงามและลงตัวมากขึ้นกว่าเดิมมาใช้ การเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ 2.3 ลิตร เพื่อเน้นการตอบสนองของรถและช่วยเรื่องการประหยัดน้ำมัน รวมไปถึงการเปิดตัวรุ่นแต่งตระกูล Pro ที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากพอสมควร
ก่อนที่การทดสอบเบื้องต้นจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ AutoFun Thailand ขอพาไปดูรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในแต่ละจุดในนิสสัน นาวาร่า เพื่อจะได้ดูกันให้ชัด ๆ อีกทีว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นมีอะไรบ้าง และมันจะดีพอที่จะทำให้พวกเขาขึ้นมาอันดับสูงขึ้นในตลาด หรือจะพลาดพลั้งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนเหมือนที่ผ่านมา
การยังไม่เปิดตัวรุ่นหัวเดี่ยว การตัดเครื่องยนต์ออกไปหนึ่งรุ่น ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ชุดแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไททัน ราคาที่ปรับมาได้อย่างน่าสนใจ ทางเลือกของรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีไม่มากนัก ไหนจะเรื่องของแคมเปญพิเศษที่บอกว่าจะออกมาเกื้อหนุนการจำหน่ายรถรุ่นนี้ นี่คือประเด็นที่เราจะหยิบมาคุยกันทั้งหมดในบทความนี้
ยังไม่มีนิสสัน นาวาร่า ซิงเกิล แค็บ
การเปิดตัวนาวาร่าใหม่ 14 รุ่นย่อยเมื่อวานนี้ แบ่งเป็นการเปิดในซีรี่ส์โปร 2 รุ่น ดับเบิลแค็บ 5 รุ่น และคิงแค็บหรือตอนครึ่งอีก 7 รุ่น แน่นอนว่าผู้บริหารนิสสันยืนยันว่าพวกเขาจะเดินหน้าทำตลาดรถหัวเดี่ยวต่อไปแน่นอน และจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจนออกมาว่ารถหัวเดี่ยวรุ่นยอดนิยมนั้นจะเปิดตัวออกมาเมื่อใด
ผู้บริหารของนิสสันนั้นระบุว่า การพัฒนานาวาร่าใหม่ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างสินค้าเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่กว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ปิกอัพ ซึ่งเป็นกลุ่มที่นิสสันไม่ได้มีบทบาทมากนัก และพวกเขาคาดว่ารถรุ่นใหม่นี้ จะทำให้สัดส่วนรถปิกอัพยกสูงขึ้นไปของพวกเขามีสัดส่วนการขายเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 50% ในอนาคต
เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร รุ่น High หายไป
การปรับมาใช้เครื่องยนต์ 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ยกยอดมาจาก Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) รวมถึงเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ทีมงานของนิสสันอธิบายว่าเพื่อเป็นการเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้กับเจ้าของรถ ที่จะเข้าถึงการขับขี่ที่นุ่มเรียบมากขึ้นจากเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ พร้อมทั้งยังให้อัตราเร่งที่ดีกว่า แม้ว่าตัวเลขแรงม้าแรงบิดจะไม่เปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตาม นิสสันยังทำตลาดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรรุ่นเดิมอยู่ต่อไปในรถรุ่นคิงแค็บ ความสูงมาตรฐานทั้ง 3 รุ่น ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรรุ่น Mid แต่เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรรุ่น High นั้น ถูกถอดออกจากสายการจำหน่ายไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทีมงานไม่ได้อธิบายจึงสาเหตุการถอดมันออกไป แต่บอกว่า เครื่องยนต์ 2.3 ลิตรรุ่นใหม่นั้นน่าใช้งานกว่าแน่นอน
ทำไม Pro4X ไม่ได้ล้ออัลลอย 18 นิ้ว
อีกหนึ่งเรื่องฮือฮาที่มีคนถามมามากก็คือ ทำไม Nissan Navara Pro4X ซึ่งเป็นรุ่นท็อปค่าตัว 1.149 ล้านบาท แพงกว่ารุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่เคาะราคาที่ 1.129 ล้านบาท ไม่ได้ให้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพราะรุ่นที่ถูกกว่า ดันให้ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้วติดตั้งมาให้เรียบร้อย ทำให้หลายคนมองว่านิสสันนั้นกั๊กของอีกแล้ว
ในการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ผู้บริหารของนิสสัน มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้ตอบคำถามเรื่องนี้เอาไว้ว่า สาเหตุของการเลือกใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว เป็นเพราะเหตุผลทางด้านความปลอดภัยในการขับขี่และการใช้งานรถ เมื่อรถถูกพัฒนาให้รองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากขึ้น จึงมองว่าล้อที่เล็กลงมาน่าจะเหมาะสมกว่าเช่นกัน
Pro4X สำหรับสายลุย Pro2X สำหรับสายหล่อ
นอกเหนือจากนาวาร่ารุ่นปกติมาตรฐานที่เปิดตัวกันมาแล้ว นิสสันได้เปิดตัวรุ่นตกแต่งพิเศษเพื่อเน้นการทำตลาดไลฟ์สไตล์ กับรุ่นโปร ซีรี่ส์ โดยมาพร้อมกันถึง 2 รุ่น คือ Pro4X ที่เป็นการนำรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้ออย่างวีแอลมาตกแต่งเพิ่มเติม ใส่เบาะลายใหม่เพื่อความสวยงาม และตัดออพชั่นอย่างเบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมดันหลังไฟฟ้าทิ้งไป
ขณะที่สายหล่อที่ไม่ต้องการลุยมาก ก็มีรุ่น Pro2X ที่เอารุ่น9คาลิเบอร์ ตัวท็อปมาตกแต่งเพิ่มเติมด้วยชุดแต่งที่ใกล้เคียงกัน ด้วยราคาจำหน่ายไม่ถึง 1 ล้านบาท น่าจะเป็นปิกอัพที่มาพร้อมชุดแต่งที่ราคาจับต้องได้มากที่สุดคันหนึ่งในท้องตลาด ส่วนจะโดนใจผู้บริโภคหรือไม่ รอวันลงโชว์รูมจริง ๆ แล้วค่อยไปถามหาฟีดแบ็คจากลูกค้าเอาละกัน
ราคาที่น่าสนใจ แต่ต้องรอแคมเปญนะ
ราคาจำหน่ายของรุ่นคิงแค็บ 5.99 แสนบาทไปจนถึงรุ่นยกสูงตัวท็อป 8.59 ล้านบาท ตามมาด้วยดับเบิลแค็บที่วางไว้ 8.49-9.65 แสนบาท รวมถึงรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเพียงรุ่นเดียวกับค่าตัว 1.129 ล้านบาท รุ่นตกแต่งพิเศษขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 9.99 แสนบาทและรุ่นท็อปจริง ๆ ที่วางที่ 1.149 ล้านบาท ถือว่าราคาแข่งขันได้หากเทียบรายเซกเมนต์
นิสสันเองเคยทำราคารุ่นท็อปพร้อมชุดแต่งไปถึง 1.179 ล้านบาทมาแล้ว มาคราวนี้ พวกเขายืนยันว่าการทำราคาครั้งนี้เป็นการทำราคาที่เหมาะสม ไม่ได้ต้องการทำราคาเพื่อลดราคาหรืออัดแคมเปญอย่างมากมาย แต่ก็ยอมรับว่ากำลังพิจารณาเรื่องของการจัดแคมเปญที่เหมาะสมในแต่ละรุ่น โดยจะเปิดตัวแคมเปญตามมาในอนาคตอันใกล้
อะไรคือสิ่งที่หายไปนาวาร่าใหม่
เอาตรง ๆ แม้ว่านิสสันจะใส่ทุกอย่างมาให้เต็มที่ในรุ่นท็อป แต่โดยส่วนตัวก็ยังมองว่านิสสันนั้นยังกั๊กอุปกรณ์อยู่เหมือนเช่นเดิม เพื่อให้สามารถทำราคาจำหน่ายได้อย่างน่าสนใจ แต่ก็เป็นดาบสองคมที่ทำให้พวกเขามีของเล่นที่สู้คู่แข่งไม่ได้เหมือนกัน แม้จะมีระบบอื่น ๆ ที่พร้อมใช้งานประกบอยู่ทั้งคันรถอยู่แล้ว เรียกว่าขาดไปนิดเดียวจริง ๆ
ใช่เลยครับ เรากำลังพูดถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ซึ่งน่าเสียดายที่นิสสันไม่ยอมติดตั้งมาให้ ในขณะที่คู่แข่งมีมาให้เกือบหมดแล้ว นอกจากนี้ เบาะที่นั่งปรับไฟฟ้าแบบ 8 ทิศทาง ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ที่มันควรจะใส่มาให้ครบ ๆกันไปตั้งแต่แรก เชื่อเถอะว่า เดี๋ยวพอปรับโฉมครั้งหน้า เราน่าจะเห็นของเล่นพวกนี้ล่ะ มากันครบเลย
GolF ก็ว่า... คงขายดีขึ้น แต่จะถึงที่ 3 ไม่แน่ใจ...
Nissan Navara 2021 มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจมากมาย โดยส่วนตัวผมมองว่ารถนั้นสวยขึ้น มีสไตล์การออกแบบที่น่าสนใจ และการเลือกใช้เครื่องยนต์ใหม่ก็เป็นการตอบโจทย์ให้กับลูกค้าที่เคยมองว่านาวาร่าเป็นรถที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานพื้นฐาน มากกว่าจะมาขับสนุกสนานหรือเน้นการใช้งานด้วยรูปแบบไลฟ์สไตล์จ๋า ๆ
อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นในการขยับตัวเองไปให้อยู่เหนืออันดับ 5 ในตลาดปิกอัพของนาวาร่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทั้งมิตซูบิชิและฟอร์ดนั้นเป็นผู้เล่นระดับเขี้ยวลากดินในตลาด โดยเฉพาะฝ่ายหลังที่เพิ่งทำการรีเฟรชสินค้าของตัวเองไปทั้งตลาด ก็มีเป้าหมายที่จะคว่ำค่ายตราเพชรสามแฉก เพื่อกลับไปยืนระดับของตัวเองให้ได้เช่นเดียวกัน
การแข่งขันในตลาดปิกอัพในตอนนี้ก็แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน ได้แก่ กลุ่มผู้นำตลาดที่โตโยต้าจะต้องไล่งับอีซูซุให้ได้มากที่สุดในปีนี้ และการประมือกันของมิตซูบิชิ-ฟอร์ด-นิสสัน เพื่อแย่งชิงลูกค้าที่ต้องการความโดดเด่นและความแตกต่างออกมาให้ได้มากที่สุด ทำให้เราคิดว่า หากใครต้องการเป็นเบอร์ 3 ก็ไม่ใช่งานง่ายอย่างแน่นอน!!!