2020 Suzuki Ertiga (2020 ซูซูกิ เออร์ทิก้า) รุ่นปรับโฉมเพื่อเอาใจตลาด มีความน่าใช้งานมากขึ้นในฐานะรถเอ็มพีวีขนาด 7 ที่นั่ง ที่เจาะตลาดลูกค้ากลุ่มครอบครัวที่ต้องการเดินทางหรือขนสัมภาระไปที่ต่าง ๆ และได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ที่น่าใช้งานมากมาย บนโครงสร้างพื้นฐานเดิม ทำให้รถคันนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น
แม้กระแสในปัจจจุบันจะไหลไปกองกันอยู่ที่ตัวลุยอย่าง 2020 Suzuki XL7 (2020 ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) แต่พื้นฐานในการพัฒนาอย่างเออร์ทิก้าก็มีความโดดเด่นและโดนใจผู้บริโภค แถมสนนราคายังถูกกว่า โดยมีราคาจำหน่ายที่ 6.59 แสนบาทในรุ่นล่างและ 7.25 แสนบาทในรุ่นบน หากดูเรื่องราคาเป็นหลักแล้วถือว่าโดนใจน่าคบหา
แต่จะคบหาได้อย่างสนิทใจหรือไม่ มาพบกับข้อดี-ข้อด้อยของรถที่มีราคาจับต้องได้ แต่การใช้ไปในระยะยาวอาจจะต้องได้รับการพิสูจน์กันเสียเล็กน้อย ส่วนอ่านจบแล้วจะเลือกคันนี้หรือคู่แข่งที่มีอยู่มากหน้าหลายตา ในสนนราคาที่แพงกว่า ก็ต้องแล้วแต่ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ นี่ล่ะ ว่าคันไหนจะโดนใจมากกว่ากัน
5 จุดเด่นเหนือใครของ 2020 Suzuki Ertiga
1.ความกว้างขวางโอ่อ่า
จุดขายที่ชัดเจนที่สุดของซูซูกิ เออร์ทิก้า ก็คือความโอ่อ่าของห้องโดยสาร ที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย แม้หลาย ๆ คนจะบอกว่าการออกแบบดูเทอะทะไปหมด แต่ก็ทำให้พวกเขายืดพื้นที่ภายในห้องโดยสารได้อย่างเต็มพิกัด เหนือกว่าคู่แข่งหลาย ๆ ค่าย แถมการเข้า-ออกรถก็ทำได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย
2.โครงสร้างฮาร์ทเทคเพิ่มความคล่องตัว
ซูซูกิ เออร์ทิก้าใหม่ พัฒนาบนโครงสร้างใหม่ของพวกเขาที่เรียกว่าฮาร์ทเทค (HEARTECT) ที่ให้ความคล่องตัวในการขับขี่ แพลตฟอร์มที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ให้ความสะดวกสบายพอสมควร และถือเป็นรถที่มีพัฒนาการด้านการขับขี่ที่ดีขึ้นจากรุ่นเดิมอย่างมากเลยทีเดียว
3.เพิ่มของเล่นมาเป็นที่เรียบร้อย
ในรุ่นปรับโฉมนั้น พวกเขาได้เพิ่มความสดใสให้กับรถ ด้วยล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมเพิ่มอุปกรณ์ใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่รองศีรษะตรงกลางเบาะนั่งแถวที่ 2 ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ หน้าจอแสดงผลดิจิตอล เครื่องเสียงระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว พร้อมกล้องมองภาพขณะถอยจอด น่าใช้งานมากขึ้น
4.ราคาจำหน่ายที่น่าสนใจในตลาด
แม้จะมีการปรับราคาจำหน่ายขึ้นมาเล็กน้อยใน 2 รุ่นย่อย แต่ราคาจำหน่ายของซูซูกิ เออร์ทิก้า ก็ยังโดดเด่นเหนือคู่แข่ง ด้วยตัวล่างที่ราคายังต่ำกว่า 7 แสนบาท และรุ่นบนที่เกินมาจาก 7 แสนบาทเพียงเล็กน้อย ซึ่งหากเทียบกับคู่แข่งตัวต่อตัวแล้ว ถือว่าเป็นรถเอ็มพีวีที่ราคาน่าซื้อ น่าคบหาที่สุดในตลาดเลยทีเดียว
5.ค่าใช้จ่ายในการดูแลที่น่าคบหา
ซูซูกิ เออร์ทิก้า เป็นรถยนต์ที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลและบำรุงรักษาไม่สูงมากในท้องตลาด ด้วยความที่เป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่ไม่มีความซับซ้อนมาก และช่างฝีมือที่ศูนย์บริการนั้นสามารถดูแลรถรุ่นนี้ได้อย่างสบายไม่มีปัญหา เรียกว่านอกจากราคาซื้อจะดีงามแล้ว ค่าใช้จ่ายในการดูแลก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียว
3 จุดด้อยที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ
1.เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
แน่นอนว่าอาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์กลุ่มนี้ กับการที่จะได้รถที่เครื่องยนต์สมรรถนะไม่สูงมาก ระบบเกียร์ 4 สปีดรุ่นเดิมที่ให้การตอบสนองได้ไม่เต็มที่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า คู่แข่งบางรุ่นของเออร์ทิก้านั้น มีเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ให้การตอบสนองที่ดีกว่าอยู่พอสมควร
2.การตกแต่งภายในแบบเรโทร
ตลาดหลักของเออร์ทิก้านั้นคือตลาดอินโดนีเซียที่มีการใช้งานรถคันนี้แบบรถยนต์สำหรับครอบครัวที่แท้จริง ไม่ได้เน้นความหรูหรามากนัก ทำให้ห้องโดยสารทูโทนของรถดูเป็นแนวย้อนยุคเล็กน้อย ตั้งแต่เรื่องของการเลือกใช้สี การเลือกวัสดุที่นำมาใช้ รวมถึงเบาะผ้าลายหม่น ๆ ที่ไม่ได้ดูทันสมัยเลยสักนิด
3.อุปกรณ์ที่ยังไม่ครบตรงใจ
แน่นอนว่าแม้ซูซูกิจะเลือกใส่อุปกรณ์มาอย่างเต็มพิกัดให้กับรถคันนี้ แต่ก็ยังถือว่าขาดในบางชิ้นที่น่าจะทำให้การใช้งานรถคันนี้สะดวกมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ที่เท้าแขนสำหรับผู้ขับขี่ หรือที่ชาร์จไฟแบบยูเอสบี ซึ่งคิดว่าในการปรับโฉมครั้งต่อไป ก็น่าจะเห็นของเล่นพวกนี้ล่ะ ที่เพิ่มขี้นมาเสียที
รถครอบครัวยุคใหม่ น่าใช้งานแต่ไม่สุด
แน่นอนว่าการทำตลาด 2020 Suzuki Ertiga นั้น หนึ่งในปัจจัยที่ทางซูซูกิตั้งเป้าหมายไว้ก็คือการสร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้าเหนือคู่แข่ง ด้วยการทำราคาจำหน่ายที่ดีกว่ามาตั้งแต่ต้น และให้อุปกรณ์ รวมถึงระบบต่าง ๆ ที่เทียบเคียงได้กับคู่แข่งมาทั้งหมด เพื่อให้สามารถนำไปเปรียบเทียบกันได้อย่างเต็มที่
ด้วยรูปลักษณ์ที่มีความเป็นรถเอ็มพีวีสูงมาก ทำให้กลุ่มลูกค้าหลักของพวกเขาคือกลุ่มลูกค้าครอบครัว ที่ต้องการรถที่ช่วงล่างดีดี แม้จะไม่ได้ปรื๊ดปร๊าดหวือหวา แต่ก็เป็นรถที่ฝากผีฝากไข้ได้ สามารถปรับห้องโดยสารได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการในการใช้งาน แม้จะต้องเจอห้องโดยสารแนวเรโทรไปบ้างก็ตาม
ออพชั่นและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ทำให้รถคันนี้มีความน่าใช้งานขึ้นไปอีกระดับ และเมื่อมองกลับไปที่ราคาจำหน่ายที่ยังเริ่มต้นด้วยเลข 6 และ 7 แล้ว ใครที่ต้องการรถที่สามารถนำไปใช้งานในชีวิตประจำวันได้เลยแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก รถคันนี้ถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคาที่สุดคันหนึงบนถนนเลยนะ