Porsche (ปอร์เช่) รถสปอร์ตหรูจากเยอรมนี ได้ตอบรับคำท้าทายด้านวงการ EV ด้วยการส่ง Taycan มาต่อสู้กับ Tesla ในสมรภูมิสนามนูรเบริกริง (โดยปัจจุบัน Tesla นำอยู่) นอกจากนี้ยังส่ง Macan EV เข้ามาท้าชิง Tesla Model X อีกด้วย แต่รุ่นสปอร์ตในตำนาน 911 จะยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน นี่คือคำยืนยันแล้วจากผู้พัฒนารถ
Frank Walliser ฉายาดอกเตอร์ปอร์เช่ เขาทำงานที่น่าสนใจมากสุดงานหนึ่งในวงการรถนี้ เพราะเขามีหน้าที่รับผิดชอบการเซ็ตค่าเครื่องยนต์ด้านหลังของรุ่น 911 และรถสปอร์ตเครื่องวางกลางในรุ่น 718 และเขาเป็นผู้ตัดสินใจแยกไลน์ทั้งสองรุ่นออกจากกัน
สาเหตุเพราะรุ่น 911 และ 718 นั้นทำให้ตอนนี้ทั้ง 2 รุ่นมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดในทางเทคนิค (ใช้เครื่องตัวเดียวกัน) แต่ในอนาคตรถทั้งคู่จะแยกกันพัฒนา เพราะ 718 กำลังจะกลายเป็นรถสปอร์ตไฟฟ้า จากรถต้นแบบ Mission R ที่เปิดตัวในมิวนิก ได้เกริ่นถึงการเริ่มแยกกันนี้เป็นครั้งแรก
Porsche 718 ไฟฟ้าทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
จากบทสัมภาษณ์กับนาย Walliser เราได้เรียนรู้ว่า 718 ไฟฟ้าไม่เพียงแต่หนักกว่ารุ่นปัจจุบันอย่างมากเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเกินของ 911 อีกด้วย โดยเขามองในแง่ดีว่า น่าจะมีน้ำหนัก 1650 - 1680 กก. (จากเดิม 1,335 กก.) และยังเชื่อมั่นใจกระปุกเกียร์แบบจังหวะเดียว มาใช้ในการส่งกำลัง
Porsche 911 ยังเผาน้ำมันต่อไป
ในขณะที่ 718 กลายเป็นไฟฟ้า 911 จะยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปแบบคลาสสิก ยืนยันจะใช้น้ำมันต่อไปจนถึงปี 2030 จากนั้นค่อยคิดค้นเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ปราศจากคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ส่วนระบบไฮบริดจะมีสิทธิ์ถูกใช้ใน 911 หรือไม่ เขาก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเช่นกัน
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดเจนว่า รถสปอร์ตรุ่นแก่นหลักของแบรนด์นี้ ได้นำลูกค้าใหม่จาก 718 ให้มาสนใจที่ 911 และในอนาคตจะมีการจัดระเบียบใหม่ การตัดสินชะตากรรมระหว่าง 718 และ 911 จะมีแนวคิดการขับเคลื่อนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ต่อไปนี้คือคำสัมภาษณ์ของสื่อออนไลน์ในเยอรมัน กับนาย Walliser ถึงชะตากรรมรถยนต์ไฟฟ้าปอร์เช่
Q : คุณมีหน้าที่รับผิดชอบ 911 และสำหรับ 718 ด้วย ซึ่งรุ่นต่อไปจะใช้พลังงานไฟฟ้าแยกกับน้ำมัน คุณจะประหยัดต้นทุนด้วยการใช้ชิ้นส่วนร่วมกันอย่างไร เพื่อให้เกิดการผลิตมากจนคุ้มทุน
Frank Waliser : เราจะมีวิธีรับมือที่แตกต่างออกไปในอนาคต เพราะการพัฒนารถยนต์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ตัวอย่างเช่น รถปัจจุบันไม่ได้ขึ้นอยู่กับโลหะแผ่นขึ้นรูป แบบดั้งเดิมอีกต่อไป แต่เราใช้สถาปัตยกรรมของกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ร่วมผลิตด้วย เป็นต้น
Q : รถสปอร์ตไฟฟ้า สามารถวางบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า "ปกติ" ได้หรือไม่?
Frank Waliser : ไม่สามารถทำได้ เพราะเมื่อคนขับและผู้โดยสารนั่งบนแบตเตอรี่ จุดศูนย์ถ่วงจะเคลื่อนขึ้นด้านบน ในทางกลับกัน คุณไม่สามารถสร้างรถยนต์ทั่วไปบนแพลตฟอร์มรถสปอร์ตได้ เนื่องจากขนาด สัดส่วน และพื้นที่ต่างกันเกินไป
Q : Porsche 911 ขณะนี้ไม่มีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าใช่หรือไม่ แล้วจะมีปัจจัยอะไรที่คุณอาจเปลี่ยนใจ ?
Frank Waliser : ในขณะนี้การวางแผนผลิตภัณฑ์รวมถึงการดูทุกอย่าง ยังไม่มีสถานการณ์อื่นใดที่ 911 จะกลายเป็นไฟฟ้า
ปัจจัยที่อาจจะเกิดรถสปอร์ตไฟฟ้า คือต้องเดินทางได้อย่างน้อย 400 กม. หรือมากขึ้นไปจะดีกว่า แนวคิดของเราประกอบด้วย 2 สาเหตุหลัก คือ ระยะทางที่เพียงพอ และประสิทธิภาพการชาร์จของ Porsche ทั่วไป
Q : 911 จะกลายเป็นไฮบริดหรือไม่?
Frank Waliser : สิ่งนั้นอาจเกิดขึ้น แต่ข้อเสียที่เราห่วงคือ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น และเป็นการยากที่จะหาพื้นที่วางระบบไฮบริด เพราะแนวคิดของรถยนต์คันนี้เน้นสมดุลย์รถยนต์ดีที่สุด เรากำลังมองหาวิธีแก้ไขอยู่
ถ้าหาก 911 เป็นไฮบริด ก็จะต้องไม่ใช้มอเตอร์ช่วยเร่งสั้น ๆ เท่านั้น แต่ต้องเป็นมอเตอร์ที่เสริมแรงจริง ซึ่งลูกค้าจะรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป รวมถึงอัตราเร่งแบบดึงต่อเนื่องที่เคยสูญเสียไปตอนใช้เทอร์โบ อาจถูกชดเชยด้วยการผสมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบไฮบริด
Q : แนวคิดการขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน จะเปลี่ยนตำแหน่งการตลาดของ 911 และ 718 ในอนาคต อาจทำให้ทั้งคู่นี้จะเป็นรุ่นคู่ขนานกันหรือไม่?
Frank Waliser : พวกเขาจะไม่ขายแพงเท่ากัน แต่จะทับซ้อนกันมากขึ้น ผมไม่ถือว่าเป็นการกินส่วนแบ่งตลาดตัวเอง
อีกไม่ถึง 10 ปี โลกของประเทศที่เจริญแล้ว ก็จะมีรถยนต์ไฟฟ้าจนเกือบครบทุกค่ายทุกแบบ หากถึงปีนั้นแล้ว Porsche 911 ในแผ่นดินเยอรมนี ยังจะใช้เครื่องยนต์รุ่นเดิมอยู่อีก ก็อาจจะมีภาพลักษณ์กลายเป็นรถสปอร์ตยุคเก่า ที่จับกลุ่มลูกค้าอนุรักษ์นิยมไปแล้วแน่ ๆ เลยครับ