**บทความนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเจ้าของ 2020 Mitsubishi Xpander Cross และไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงมุมมองของ AutoFun  

เจ้าของรถ：Rhythmm Pee

สารตั้งต้น : กว่าจะมาจบที่ Xpander Cross

"รถคันใหม่ ขอช่วงล่างดีๆ นุ่มหนึบ มากจากโรงงานใกล้เคียง Toyota CHR ได้ไหม ไม่ต้องมาทำเพิ่ม เป็นรถที่ดูสวยได้แบบไม่ต้องโหลด" 

รถคันเก่า

ย้อนไป 10 ปี ต้นปี 2010 ผมและแฟน(ในตอนนั้น ตอนนี้เป็นเมียแล้ว) ได้ตัดสินใจออกรถคันแรกเป็น Honda City 2010 (ฮอนด้า ซิตี้สี 2010) สีดำ รุ่นเริ่มต้น (ที่ออปชั่นแสนจะน้อย) 579,000 ด้วยราคาอยู่ในงบ และห้องโดยสารสีเบสที่สวยสะอาดตาดูกว้างขวาง ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมชอบ Mitsubishi Lancer EX มากตอนนั้น แต่รู้สึกต้องผ่อนหนักไปหน่อย  Mitsubishi Lancer Evolution คือรถในฝันเลยหละ ... ใช้งานวิ่งวันละเกือบ 100 โลทุกวัน และเที่ยวอุตตะหลุด ใต้สุดสตูล เหนือสุดอ่างขาง ติดแก๊ซ LPG ตั้งแต่ 5หมื่นโล และใช้ยาวๆแบบไม่มีปัญหาอะไรเลยจน 470,000ก่วาโลในปี 2020 ซึ่ง เกียร์เริ่มมีอาการกระตุก ขับแบบกังวลๆ และอยู่ในระยะที่ต้องซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ตามอายุการใช้งานเกือบทุกๆเดือน เริ่มไม่กล้าเอาไปไหนไกล และไม่อยากลงทุนซ่อมเยอะไปกว่านี้ นั่นคือจุดเริ่มต้นในการเริ่มมองหารถคันใหม่ และขอบคุณ พีจัง City คันเก่าของผมจริงๆ รักแก

สารตั้งต้น

ในปี 2018 ผมมีแปลนพา คุณแม่ น้องชาย และภรรยา ขึ้นเหนือ ไปดูทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จ. แม่ฮ่องสอน ความที่กลัวคันเก่าจะไปมีปัญหาระหว่างทาง ผมตัดสินใจเช่า Toyota C-HR (โตโยต้า ซีเอชอาร์) 1.8 เบนซิน ในการเดินทางไปกลับ กทม.-อินทนนท์-แม่ฮ่องสอน ในครั้งนี้ 5 วัน 4 คืน ซึ่งยอมรับเลยว่า Toyota C-HR กับแพลทฟอม TNGA ใหม่นี้ เป็นรถที่ขับดี และช่วงล่างเฟิมมากสำหรับรถเดิมๆ โรงงาน คือช่วงล่างมันนุ่มหนึบ หนึบพอๆ กับ Honda City คันเก่าที่โหลดด้วยสตรัทแล้ว แต่ Toyota C-HR นี่คือรถเดิมๆ ก็ได้ฟิลลิ่งรถที่แต่งช่วงล่างมาแล้วเลย คุณแม่ที่ไม่เคยนั่งรถไปแม่ฮ่องสอน ไม่มีอาการมึน เมา ใดๆทั้งสิ้น แต่พื้นที่ใช้สอยเล็กมากๆๆ หลังจากจบ trip นี้ ผมได้ myset ในการซื้อรถคันใหม่แล้ว คือ "รถคันใหม่ ขอช่วงล่างดีๆ นุ่มหนึบ มากจากโรงงานใกล้เคียง Toyota C-HR ได้ไหม ไม่ต้องมาทำเพิ่ม เป็นรถที่ดูสวยได้แบบไม่ต้องโหลด" ซึ่งตอนนั้นกะรอ พี่โต ออกรถ 7 ที่นั่งบนแพลทฟอร์ม TNGA เลยทีเดียว 

การค้นหา : กว่าจะมาจบที่ Xpander Cross

ทำการบ้าน 

หลังจากความประทับใจ Toyota CHR จากทริปเหนือ ผมเริ่มศึกษา หาข้อมูล รถคันที่จะมาเป็นคันใหม่ของผม ตามโจทย์แรก ที่ได้คือ "ต้องช่วงล่างดี นุ่มหนึบ มากจากโรงงานแบบไม่ต้องมาทำเพิ่ม เป็นรถที่สวยแบบไม่จำเป็นต้องโหลด" และเริ่มวางโจทย์ในการซื้อให้ละเอียดขึ้น คือ 

• เป็นรถ SUV หรือ Mini MPV ต้องนั่งได้ 6 หรือ 7 คน - ผมไม่ชอบ PPV รู้สึกมันเกินตัว เทอะทะ ส่วนใหญ่วิ่งในเมือง
• ราคาอยู่ในช่วงไม่เกิน 1.3 ล้าน  -คือถ้าชอบและฟังค์ชั่นคุ้มค่าตัวก็จะสู่ว้อยย ผ่อนหนักหน่อย
• เครื่องยนต์ไม่เกิน 1.6 - 1.8 หรือ 1.5 Turbo - เพียงพอแล้วสำหรับผมวิ่งในเมืองเป็นหลัก
• มีความทนทาน ดูแลรักษาง่าย อะไหล่ไม่แพง - เพราะไมล์ผมจะไปไวมากวันละ 100 โล
• ติดแก๊ซได้ - เผื่อไว้ก่อน เพราะใช้รถเยอะ

คัดตัว

ถึงตรงนี้ รถที่เข้ามาอยู่ในรอบคัดเลือก (เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น)
- Honda Freed (ฮอนด้า ฟรีด) : พยายมจะอยู่สาย H เพราะเชื่อความทนทาน แต่ตัดออกเพราะไม่มีขายแล้ว

- Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์-วี) : ชอบทรง SUV หน้าตาค่อนข้างโดน คันนี้ผมไป Test Drive กับเมียแล้ว โดยเมียไปนั่งแถว 3 ภายในพอใช้ได้ แต่ไม่ได้รู้สึกดีกว่า Honda City คันเดิมเลย คันนี้ตัดออกเพราะ ช่วงล่างแข็งไป (Honda City 2010 คันเก่าผมโหลดแล้วยังนุ่มกว่าเลยบางจังหวะ) เสียงห้องโดยสารดังมาก 

- Honda Mobilio (ฮอนด้า โมบิลิโอ) : หน้าตาไม่โดนเลย ภายในผมขับคันเก่าดีกว่า แต่ราคาถูกดี  คันนี้ผมไป Test Drive กับเมีย โดยเมียไปนั่งแถว 3 เหมือน Honda BR-V คันนี้เข้ารอบเพราะมีความนุ่มนวลกว่า Honda BR-V (เพราะล้อขอบ 15 + ยางแก้มหนากว่า Honda BR-V) เข้ารอบ แต่ขอไปลองค่ายอื่นบ้างละ

- Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติกา) : คันนี้สนใจที่เทคโนโลยี Hard Tech ตัวถังเบา ชดเชยกำลังเครื่องยนต์ 1500 แต่หน้าตา และภายในไม่ชอบ เวลาอยู่ภายในห้องโดยสาร  เป็นรถที่ผมและแฟนไม่ชอบการออกแบบและวัสดุภายใน ความคิดเห็นส่วนตัว และมันก็ถ่ายถอดมาถึง Suzuki XL7 ที่ผมได้มีโอกาสไปลองนั่งภายในมาแล้วเช่นกัน แต่จริงๆ ก็พยายายามเช่าคันนี้ไปอออกทริปเทสรถเหมือนกัน แต่หาไม่ได้

- Toyota Sienta 2019 (โตโยต้า เซียนต้า 2019) รุ่นทอ็ป : นี่หละตัวเต็ง ฟังชั่นมาเต็ม จอหน้า จอกลาง กล้อง 360 ประตูไฟฟ้า เบาะแถว 3 พับเรียบกริบ แถมยางอะไหล่เก็บในรถด้วย แต่น่าเสียดายผมหาเช่าไปเทสไม่ได้เหมือนกัน แต่ส่วนที่ไม่ชอบคือผมคิดว่าห้องโดยสารเล็ก แถว 3 นั่งไม่ได้จริง นั่งลำบาก

- Mitsubishi Xpander รุ่น GT (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ) : ผมไม่ค่อยชอบหน้าตา GT มันเฉี่ยวไปสำหรับผม และมันดูออกไปทาง Van มากกว่า SUV  และด้วยข้อเสียที่แฝงตัวอยู่ในคลับ โช็คแตกง่าย หลังคาป๊อบคอน กันชนหน้าอ้า ไฟไม่สว่าง ทำให้ผมเริ่มกังวลกับ Xpander แต่ผมก็ได้มีโอกาสเช่า  Xpander GT ขับจาก กทม ไป เชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน (จริงๆตอนนั้นสนใจ Toyota Sienta อยู่ แต่หาเช่าไม่ได้) และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หันมามอง Xpander อย่างจริงจัง ทุกคนชอบ ผมเองชอบการออกแบบภายในที่ดูมีความตั้งใจในการออกแบบให้มีช่องเก็บของ วางแก้ว เยอะมาก และดูดีมีราคา นั่งสบาย รู้สึกถึงความแตกต่างในทางที่ดีขึ้น จากคันเก่า Honda City 2010 ... แต่ตอนนั้นผมเองยังติดเรื่องช่วงล่างที่ยังรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจมีอาการโยน เวลาเข้าโค้งที่ความเร็ว 120 และ หน้าตาของ GT โฉบเฉี่ยวไปสำหรับผม หลังจากจบทริปนั้น ผมจึงยังไม่ตัดสินใจจบที่ Xpander จนมาเจอข้อมูลว่า ที่อินโด เปิดตัว Mitsubishi Xpander Cross (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส) เห้ยยยยยบ...

คันที่ชอบในเวลาที่ใช่ : กว่าจะมาจบที่ Xpander Cross

สเปคมาดี

หลังจากทราบข่าว และเห็นหน้าตาของ Xpander Cross ใน อินโด คราวนี้มาแนว SUV หน้าเรียบๆ ดูบึกบึนด้วยซุ้มล้อกันกระแทกรอบคัน บอกเลยว่า "หน้าตาแบบนี้มันใช่เลยสำหรับผม" มีความใกล้เคียง SUV มากกว่า MiniMPV และยังมีการอัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำให้ Xpander Cross ดูน่าสนใจมากขึ้นอีกสำหรับผม หลักๆ นั่นคือ 

• ไฟหน้า LED เต็มระบบสูงต่ำ ( Xpander GT ที่เป็นหลอดฮาโลเจน ไฟไม่ค่อยสว่าง)
• หน้าจอ 7.1 ตัวใหม่ แต่อันนี้ถูกตัดออกตอนเข้าไทย ซึ่งผมก็วางแผนแก้ไว้แล้วโดยจะใช้ จอแอนดรอยน์แทน ... ซึ่งก็ได้แถมมาจากเซลล์ และใช้งานดีกว่าจอเดิมมากๆ แถมระบบปรับเสียง DSP ที่มีมาให้ ยังช่วยปรับเสียงจากลำโพงเดิมติดรถ ให้เสียงดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา
• โช็คกระบอกใหม่ ทั้งหน้า-หลัง (แกนโช็คใหญ่ขึ้น ก็น่าจะเบาใจเรื่องปัญหาฌโช็คแตกง่ายในตัว GT) 
• ราวหลังคา มีมาให้จากโรงงาน ใช้งานได้จริง
• เครื่องยนต์ มีการจูนแรงม้าเพิ่มขึ้น 5 ตัว จากโรงงาน
• ภายในสีทูโทน ดำ-น้ำตาล เข้ม ดูมีรายละเอียดมากขึ้น
• ล้อเม็กขนาด 17 นิ้ว ลายทูโทน สวยแบบไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแมก แต่น่าเสียดายที่ แมกกว้าง 6.5 นิ้วเท่านั้น

ยังมีรายละเอียดอื่นๆอีกที่มีการเพิ่มเติม เปลี่ยนแปลงจากตัว Xpander GT แต่ขอพูดเฉพาะที่มีผลในการตัดสินใจของผม ซึ่งก็ไม่คิดว่า จะนำเข้ามาขายในไทยไวกว่าที่คิด อินโดฯ เปิดตัวประมาณ พ.ย. 2019 ไทยเปิดตัว มี.ค. 2020 

ยังไงก็ต้องลองขับ Xpander Cross

เมื่อรถเข้าไทยผม พร้อมกับ Covid 19 พอดี เป็นโอกาศที่ดีที่ผมจะได้ลอง Test Drive ในเส้นทางที่ตัวเองคุ้นเคย เพราะเป็นช่วงที่ทางศูนย์ยินดี ที่จะนำรถมาให้ทดสอบที่บ้าน ผมต้องลองขับก็เพราะมีความกังวลว่า ความสูงที่เพิ่มขึ้น 2cm. จะทำให้รถโยนขึ้นไหม ในเวลาเข้าโค้ง และจากขอบ16 มาขอบ 17 จะอืดขึ้นมากไหม นี่คือ 2 จุดที่ผมต้องการทดสอบขับ ก่อนจะตัดสินใจ ซึ่ง Xpander Cross ทำให้ผมประหลาดใจคือ มันสามารถพาผมเข้าโค้งเดิมๆที่คุ้นเคย ในฟิลลิ่งเดียวกับเจ้า Honda City คันเดิมที่ผมได้โหลดเตี้ย และแต่งช่วงล่างมาแล้ว ได้อย่างมั่นใจใกล้เคียงกันมาก ไม่คิดว่ารถทรงสูงแบบนี้ จะทำได้ประมาณนี้ อัตราเร่ง ผมเองรุ้ซึ่งไม่ต่างจากตัว Xpander GT มากนัก และอยู่ในระดับที่ผมไม่รำคาญ (ผมเป็นคนขับรถเท้าไม่หนัก ชอบไหลๆ และแซงเท่าที่จำเป็น) และถึงราคาจะแพงกว่าตัว Xpander GT 40,000 บาท สำหรับผมถือว่าคุ้ม ประกอบกับได้โปรแรงๆ ในช่วง Covid 19 ขับฟรี 3 เดือน และผ่อนให้อีก 2 เดือน รวมเป็น 5 เดือน ผมจึงพร้อมจะตัดสินใจ มอบหน้าที่รถคันใหม่ให้กับเจ้า Xpander Cross ของผมอย่างสบายใจ

สำหรับเจ้า Xpander Cross สิ่งที่ผมอยากให้ปรับปรุง 

• เครื่องยนต์ ควรเป็น 1.6 หรือ 1.8 และประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีกนิด ปัจจุบันผมเติม E20 ตัวเลขที่เห็นประจำคือ 13-15 Km./L 
• ชิ้นส่วนภายในที่เป็นสีเปียโนแบล็ค(ดำเงา) มันดูหรูหราดีหละ แต่มันเป็นรอยง่ายมากๆ เห็นแล้วขัดลูกกะตา ควรรีบติดฟิล์มกันรอยตั้งแต่ออกรถ
• อัตราเร่งช่วง 80 - 100 จะค่อนข้างอืด ไม่ใช่รถที่คุณจะเอามาขับแซงแบบเร่งรีบทำเวลา แต่การใช้งานในเมืองคล่องตัวดี พวงมาลัยเบาในช่วงความเร็วต่ำ และออกตัวดี
• ขอนึกก่อนแล้วจะมาบอก ^^

สุดท้ายฝากถึงท่านที่อยู่ในช่วงกำลังมองหารถคันใหม่ สำคัญที่ตั้งโจทย์ของคุณเองให้ชัดเจน อะไรต้องมี อะไรไม่มีก็ได้ อะไรที่สำคัญกับคุณจริงๆ แต่ละคนมีโจทย์ไม่เหมืออนกัน รถที่เหมาะกับแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ไม่มีผิด ไม่มีถูก ขอให้คุณได้เจอรถที่มันตอบโจทย์ของคุณเองแบบผม กับเจ้า Xpander Cross ของผม  และที่สำคัญ "ขอให้คุณเลือกรถทีคุณรู้สึกมีความสุขเวลาที่ได้มอง ได้อยู่กับเขานะครับ ... ถ้ามันสำคัญกับคุณนะ"