**บทความนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเจ้าของ 2021 Honda City e:HEV RS และไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงมุมมองของ AutoFun
เจ้าของรถ:Sunyaluck Boon-in
ผมเป็นคนใช้รถเยอะ ประมาณ 7,000 กม/เดือน ซึ่งการประหยัดน้ำมันคือปัจจัยแรกที่เลือก ปัจจัยรองลงมาคือระบบช่วยขับขี่ เป็นรถราคาต่ำกว่าล้านที่มีระบบช่วยการขับขี่ เลยตัดสินใจเอา 2021 Honda City e:HEV RS (ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี) ตอนนี้ใช้มา 3,000 กว่าโลแล้ว
ฟีลลิ่งการขับขี่
ช่วงล่าง ผมว่าไม่ต่างจากตัว Honda City รุ่น RS ปกติ (แม้ว่าบางท่านบอกว่ารู้สึกได้ถึงความต่าง) โดยรวมเทียบกับแบรนด์อื่นถือว่าทำได้โอเคเลย ขับไม่เหนื่อย เข้าโค้งก็ทำได้ดี ไม่เหวี่ยง ไม่โยน
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 2021 Honda City e:HEV
1.อัตราสิ้นเปลืองดูจากมาตรวัด
เติม E20 ขับแทร็คละ 20 กม. หลายๆ แทร็ค เพื่อหาค่าเฉลี่ย
ในเมืองขอนแก่นการจราจรไม่ติดขัด พอไหลๆ ความเร็วสูงสุด 80 กม/ชม ได้อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 26.4 กม/ลิตร
ส่วนนอกเมือง ถนนเรียบ มีเนินเพียงเล็กน้อย เปิด ACC วิ่งยาวๆ ไม่แตะเบรค แทร็คละประมาณ 20 กม/ลิตร
- 80km/h = 26.9 กม/ลิตร
- 90km/h= 26.3 กม/ลิตร
- 95km/h = 26.2 กม/ลิตร
- 100km/h = ตัวเลขไม่ค่อยนิ่ง แต่เฉลี่ยได้ประมาณ 21-22 กม/ลิตร
- 105km/h = 20.2 กม/ลิตร
- 110km/h = 19.8 กม/ลิตร
- 120km/h = 19.1 กม/ลิตร
สรุปคือ ถ้าวิ่งต่ำกว่า 100 การขับเคลื่อนจะมาจากระบบไฮบริดเป็นหลัก ถ้ามากกว่า 100 เครื่องยนต์จะทำงานเป็นหลัก แต่มอเตอร์จะช่วยทำงานด้วยตลอดไม่ใช่ว่าเครื่องยนต์ทำงานอย่างโดดเดี่ยว (เมื่อไฟฟ้าเข้าได้ระดับนึง หน้าปัดจะขึ้นเครื่องหมาย EV หมายความว่ามอเตอร์ไฟฟ้าช่วย แต่การขับเคลื่อนหลักจะมาจากเครื่องยนต์)
2.อัตราสิ้นเปลืองวัดจากการเติมน้ำมัน
เติม E20 เต็มถัง หัวจ่ายตัด แล้วปัดขึ้นให้เต็ม10 (เหมือนการเติมน้ำมันปกติโดยทั่วไป) โดยปกติใช้นอกเมือง 80% ในเมือง 20% ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยรวม 22.64 กม/ลิตร (ถังที่แย่ที่สุดไม่ได้นับรวม เพราะตั้งใจขับตะบี้ตะบันขับอยากดูอัตราสิ้นเปลืองที่เปลืองที่สุด ปรากฏว่าได้ 18.42 กม/ลิตร)
ระบบช่วยขับขี่ 2021 Honda City e:HEV
ADAPTIVE CRUISE CONTROL
ทำได้ดี แรกๆอาจไม่ชิน เพราะมันจะฝืนจากนิสัยการขับขี่ของมนุษย์ ถ้าเห็นรถข้างหน้า คนจะชะลอความเร็ว แต่ระบบจะวิ่งไปถึงระยะเบรคแล้วจะแตะเบรคเลย
ระบบช่วยเบรค
สามารถเลือกระยะเบรคได้ ทำงานอัตโนมัติเมื่อกด ACC ระบบนี้เข้าใจว่าทำงานจากกล้อง ไม่ใช่เรด้าเหมือนรุ่นสูงๆ แต่ทดลองแล้ว ก็ทำงานได้ดี ระบบก็เบรคให้ ถ้าไม่กด ACC ก็สามารถกดให้มันทำงานได้เอง เพียงแต่มันจะไม่เบรคให้ เป็นเพียงเสียงเตือนเมื่อถึงระยะที่ต้องเบรค แต่ถ้าขับตอนกลางคืนระยะเบรคจะน่ากลัวมากขึ้น(ในถนนที่มืด) ให้เพิ่มระยะเบรคเป็นไกลสุด จะได้ระยะเบรคที่เหมือนกลางวัน
เลนคีพ(Lane Keeping Assist System)
ทำได้ดีทั้งกลางวันกลางคืน ขอให้เส้นจราจรชัดเจนก็พอ จะมีปัญหาตอนที่ถนนตีเส้นใหม่ แล้วไม่ลบเส้นเก่า โดยรวมของระบบช่วยขับขี่ ถือว่าพอใจมาก
อัตราเร่ง
0-100 ได้ 9.6 วิ (น้ำมันE20) แรงกว่า 1.0Turbo
80-120 ได้ 7 วิกว่าๆ เข้าใจว่า สูสีกับ 1.0Turbo
ทั้งนี้ถ้าเติม 95 ตัวเลขน่าจะทำได้ดีกว่านี้ และเข้าใจว่าถ้าไฟฟ้าเต็มแบตเตอรี่ ตัวเลขน่าจะดีกว่านี้ แต่ทั้งนี้ก็วัดตามขับขี่จริงนั่นแหละ ที่แบตไม่ค่อยจะเต็มหรอก
สิ่งที่ไม่ชอบเป็นหลักๆ
เบาะนั่ง
เบาะนั่งทำด้วยหนัง pu + หนังกลับ+ ผ้า ซึ่งมันมีผลมากๆกับคนที่เหงื่อเยอะ หรือวันที่ฝนตกตัวเปียก เป็นจุดอ่อนที่รู้สึกแย่ที่สุด
กระจกมองข้าง
มุมมองแคบไปหน่อย แต่ถูกชดเชยด้วยระบบ Lane Watch ที่ทำให้มุมมองด้านซ้ายกว้างขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น
จริงๆ รถ 2021 Honda City e:HEV เหมือนกับ Honda City รุ่น RS ปกติเลย จุดที่แตกต่างมีแค่
- ท้ายมีสัญลักษณ์ e:HEV
- บริเวณรอบคันเกียร์ มีเบรดโฮล และเบรคมือไฟฟ้า
- พวงมาลัยมีระบบช่วยขับขี่
- กระจกมองข้างฝั่งซ้ายมีเลนวอช
- ด้านริมซ้ายขวาของเบาะหลัง มีรูระบายอากาศให้แบตเตอรี่ไฮบริด
- มีแอร์ตอนหลัง
อีกอย่าง พวกถาดยางรองพื้น ถาดหลังต่างๆ ใช้ของ Honda City รุ่น RS ปกติไม่ได้ ไม่เหมือนกัน ต่างกันเล็กน้อย โดยเฉพาะถาดหลังนี่คนละเรื่องเลย(พลาดเสียเงินซื้อแล้ว 5555)