หลังจาก Nissan ในประเทศไทยหั่นทิ้งทั้ง X-Trail, Sylphy และ Teana ไปแล้ว ทำให้บางคนแอบหวังว่า 2019 Nissan Livina (2019 นิสสัน ลิวิน่า) จะมีโอกาสแจ้งเกิดในตลาดบ้านเราบ้าง
Livina มีรูปร่างหน้าตาที่คุ้นเคยคอรถยนต์ชาวไทยอยู่แล้วเพราะเป็นการกลายร่าง (rebadge) จาก Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์) รถอเนกประสงค์เอ็มพีวีที่ขายดิบขายดีในประเทศไทยจนทะยานเป็นผู้นำตลาดอยู่ในเวลานี้ ถึงแม้ราคาจำหน่ายจะค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่งก็ตาม
หลังจากเปิดตัวออกสู่ตลาดอินโดนีเซียตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2562 ปัจจุบัน Livina ผลิตและจำหน่ายเฉพาะในแดนอิเหนาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น มีราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 208,300,000 – 272,100,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 442,000 – 573,000 บาท
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
เตรียมส่งออกจากอินโดนีเซียทำตลาดเอเชีย
ความสำเร็จของรถยนต์จากค่ายพันธมิตรอย่าง Mitsubishi Xpander ทำให้ผู้บริโภคหลายคนในบ้านเราตั้งคำถามว่าทำไม Nissan ถึงไม่นำเข้า Livina จากอินโดนีเซียเข้ามาขายในไทยบ้าง ด้วยชื่อชั้นแบรนด์ของ Nissan ที่มีความแข็งแกร่งไม่แพ้ Mitsubishi ในการทำตลาดอเนกประสงค์
ล่าสุด เสียงเรียกร้องของลูกค้าอาจเกิดขึ้นจริง เมื่ออิซาอุ เซคิกุชิ ประธานกรรมการ Nissan Motor Indonesia ได้ให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทฯ กำลังวางแผนส่งออก Livina ไปยังหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจที่ได้จากกลุ่มพันธมิตร Renault-Nissan-Mitsubishi Alliance
ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งออก Livina โดยเฉพาะประเทศปลายทางว่าจะมีไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่ แต่เซคิกุชิซังก็แย้มว่ารัฐบาลอินโดนีเซียสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้เพิ่มกำลังการผลิตรถเอ็มพีวีรุ่นนี้เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ
โอกาสของ Nissan Livina ในการทำตลาดประเทศไทย
รูปลักษณ์ภายนอกของ Livina และ Xpander มีความใกล้เคียงกันอย่างมาก แตกต่างกันที่รายละเอียดและเอกลักษณ์การออกแบบของแต่ละค่าย โดยฝ่ายแรกโดดเด่นด้วยซิกเนเจอร์ Nissan V-Motion ส่วนฝ่ายหลังใช้ดีไซน์แบบ Mitsubishi Dynamic Shield
ขณะเดียวกัน การออกแบบไฟตัดหมอก ล้ออัลลอย สเกิร์ตข้าง ซุ้มล้อ และแผงกันชนหลังยังไม่เหมือนกันอีกด้วย
สำหรับภายในห้องโดยสารมีโครงสร้างเดียวกัน แต่ Livina ใช้หน้าจออินโฟเทนเมนท์ทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว (Xpander ใช้ขนาด 6.2 นิ้ว) รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ขณะที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น ๆ เหมือนกับ Xpander ทั้งหมด
เครื่องยนต์เป็นบล็อกเดียวกัน เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลัง 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า
ที่ผ่านมามีรถหลายรุ่นที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกัน อย่าง Ford Ranger และ Mazda BT-50, Isuzu D-Max และ Chevrolet Colorado รวมถึง Toyota 86 กับ Subaru BRZ แต่สำหรับรถยนต์นั่งนั้นมีไม่บ่อยครั้งนักที่รถต่างยี่ห้อจะแชร์พื้นฐานเดียวกันหรือใช้วิธี rebadge แยกกันจัดจำหน่ายในไทย ครั้งสุดท้ายอาจต้องย้อนไปในช่วงที่ Isuzu Vertex ใช้พื้นฐานเดียวกับ Honda Civic รุ่นตาโต
แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาดรถยนต์ โอกาสที่ผู้บริโภคชาวไทยจะได้สัมผัส Nissan Livina นั้นไม่ได้มืดมนเสียทีเดียว ต้องติดตามกันต่อไปว่า Nissan ที่ยกเลิกการทำตลาดรถขนาดใหญ่กว่าไปหลายรุ่นจะลองหันมานำเข้ารถเอ็มพีวีรุ่นนี้จากอินโดนีเซียหรือไม่ และถ้าได้รับไฟเขียวอนุมัติจะสร้างความสำเร็จได้มากน้อยเพียงใด
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });