ตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือที่เรียกกันสั่้น ๆ ว่าอีโคคาร์นั้น อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน โดยผู้ประกอบการหลายรายเริ่มเดินหน้าโครงการ 2 กันเต็มที่ ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์บางรายนั้น ก็ยังต้องจัดการรถยนต์ในโครงการแรกให้เรียบร้อยเสียก่อน

เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าหากนำรถที่อยู่คนละโครงการมาเปรียบเทียบกัน บางทีคนที่จะเลือกซื้อรถยังแอบงงไม่ได้ เพราะบางรุ่นนั้นราคาแทบไม่ได้แตกต่างกัน แต่ของที่ให้มาถือว่าคนละเรื่อง เพราะข้อกำหนดของโครงการทั้ง 2 โครงการนั้น ก็ถือว่ามีความแตกต่างกันพอสมควร

ซูซูกิ (Suzuki) แม้จะมีรถในโครงการสองไปแล้ว แต่กับอีโคคาร์ซีดานของพวกเขานั้นยังทำตลาดอยู่ในเฟสแรก และเพิ่งปรับโฉม New 2020 Suzuki Ciaz ไปอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการปรับรูปลักษณ์ภายนอกของรถอย่างใหม่เอี่ยมหมดจด

มองไปในตลาด คู่แข่งที่น่าจะถือเป็นระดับใกล้เคียงกันที่สุด คงหนีไม่พ้น New 2019 Toyota Yaris ATIV ที่มีการปรับเพิ่มของเล่นภายในห้องโดยสารไปอย่างมากมายในช่วงปีที่ผ่านมา และก็ยังทำยอดขายมาได้แบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ด้วยความไว้ใจของลูกค้ากับตราสินค้า

ฝ่ายหนึ่งมีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งในตลาดรถยนต์นั่ง อีกฟากขอท้าชนด้วยรายละเอียดของตัวรถที่ไม่เป็นรองในทุกด้าน หากความต้องการของคุณไม่ใช่อีโคคาร์ยุคใหม่ที่เน้นของเล่น แต่เป็นรถยนต์ที่โอเคกับการใช้งานในทุก ๆ วัน นี่อาจจะเป็นตัวเลือกที่คุณสนใจก็ได้นะ

ขนาดตัวถังและการตกแต่งที่แตกต่างกันเล็กน้อย

หากมองกันที่มิติตัวถังนั้น อาจจะดูเหมือนว่าซูซูกิ เซียส มีขนาดที่น่าจะใหญ่โตกว่า แต่เอาจริง ๆ แล้ว รถ 2 คันนี้ มีขนาดที่แตกต่างกันไม่มาก ยกเว้นเรื่องความยาวของรถที่ซูซูกิดูจะเน้นมากเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มพื้นที่ของห้องโดยสารให้มีความกว้างขวางกว่าใครในคลาสเดียวกัน

เซียสนั้นมาพร้อมมิติตัวถังกว้าง 1,1730 มิลลิเมตร ยาว 4,490 มิลลิเมตร สูง 1,475 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตรและมีระยะต่ำสุดถึงพื้นที่ 145 มิลลิเมตร ฟากเอทีฟนั้น กว้าง 1,1730 มิลลิเมตร ยาว 4,425 มิลลิเมตร สูง 1,475 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ 2,550 มิลลิเมตรและมีระยะต่ำสุดถึงพื้นที่ 133 มิลลิเมตร

นั่นก็หมายความว่า เซียสนั้นยาวกว่าและมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่าจริง ๆ และมีระยะต่ำสุดจากพื้นสูงกว่าเช่นเดียวกัน ซึ่งความยาวที่เพิ่มขึ้นมานั้น ส่งผลพอสมควรกับห้องโดยสารภายในที่ขึ้นชื่อลือชาว่ากว้างขวาง โอ่อ่า นั่งสบาย และทำให้การเซตอัพช่วงล่างให้มีความนุ่มนวลทำได้สะดวก

รุ่นปรับโฉมของเซียสมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงมากมายที่ภายนอก กระจังหน้า กันชนหน้า กันชนท้ายปรับใหม่หมด กรอบโคมไฟหน้าเปลี่ยนมาใช้โปรเจอเตอร์ เลนส์แบบแอลอีดี รุ่นท็อปอย่างอาร์เอส มาพร้อมสเกิร์ตตกแต่งรอบคัน พร้อมด้วยสปอยเลอร์และไฟเบรกดวงที่ 3

เอทีฟนั้นทำการเพิ่มความสปอร์ตให้กับตัวรถด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบรมดำ ตกแต่งด้วยวงแหวนสีแดง พร้อมไฟนำทางแบบแอลอีดี และกระจกหน้าด้านบนสีดำเงา ตกแต่งด้วยโครเมียมรมดำ ชุดไฟท้ายขนาดใหญ่จัดวางแบบแนวนอนไปตามมุมของตัวรถ มาพร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม

ห้องโดยสารที่เน้นการใช้งานจริง

โตโยต้าทำการเพิ่มอุปกรณ์ให้กับยาริส เอทีฟแบบไม่กั๊ก รุ่นท็อปของพวกเขานั้นตกแต่งด้วยโทนสีดำ ตัดด้วยสีเงินโครเมียมในตำแหน่งต่าง ๆ ตัววัสดุที่ให้มายังเป็นชิ้นพลาสติก ตำแหน่งการจัดวางของอุปกรณ์ต่าง ๆ ถือว่ามีความครบครัน ใช้งานได้ง่าย อยู่ในระยะของการควบคุม

เบาะหนังและที่เท้าแขนหนังมีการเดินด้ายสีแดงเพื่อเพิ่มความสปอร์ตรอบคันรถ พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง ระบบเครื่องเสียงมาพร้อมจอสัมผัส พร้อมด้วยการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธและยูเอสบี ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติในรุ่นท็อป พื้นที่ของห้องโดยสารมีความโปร่งโล่ง 

ซูซูกินั้นมีความภาคภูมิใจกับห้องโดยสารกว้างขวาง โอ่อ่าอันเป็นจุดขายตลอดมาของเซียสมาก ทำให้พวกเขาแทบจะไม่ได้ปรับรายละเอียดภายในห้องโดยสารในการปรับโฉมครั้งนี้ ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำ มาพร้อมเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ ตัดด้วยโครเมียมเพื่อเพิ่มความหรูหรา

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมหน้าจอแสดงผลดิจิตอล ติดตั้งช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังและระบบแผ่นกรองอากาศ มาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบกุญแจสมาร์ทคีย์พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทางพร้อมสรรพ

แน่นอนว่าหากวัดกันที่ห้องโดยสารอย่างเดียว เซียสน่าจะเบียดเอาชนะไปได้อย่างเฉียดฉิวด้วยความโปร่งสบายอันเป็นพื้นฐานของตัวรถ แต่โตโยต้าเองก็พยายามเพิ่มความสปอร์ตดุดันให้กับห้องโดยสาร เพื่อหากลุ่มลูกค้าของตัวเอง ซึ่งของพวกนี้ ผู้ซื้อคงต้องตัดสินใจกันเองว่าชอบแบบไหน

เครื่องยนต์ไม่แรงเน้นการขับขี่เรื่อย ๆ

ด้วยการเป็นเครื่องยนต์รุ่นเดิมที่เน้นเรื่องความประหยัดเป็นหลักในการผ่านข้อกำหนดของอีโคคาร์รุ่นแรก เครื่องยนต์ของรถสองรุ่นนี้ อาจจะไม่สามารถเรียกได้ว่าขับขี่อย่างสนุกสนาน แต่เน้นการใช้งานที่พอเพียง ประหยัดน้ำมันจริง และคงไม่ค่อยเหมาะสมสำหรับการขับขี่ทางไกล

ซูซูกิ เซียส มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12B แบบ 4 สูบ 16 วาล์ม ที่มาพร้อมระบบวาล์วแปรผันวีวีที ปริมาตรกระบอกสูบ 1,242 ลิตร โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที

โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ใช้เครื่องยนต์ใหม่ดูอัล วีวีที-ไออี (Dual VVT-iE) ขนาด 1,197 ซีซี. พร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผัน เกียร์อัตโนมัติซูเปอร์ ซีวีที-ไอ (Super CVT-i) พร้อมฟังก์ชันเอส โหมด ให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที

ตารางรายละเอียดทางเทคนิค

ของเล่นและอุปกรณ์ที่เพียงพอ 

แม้จะไม่ได้เป็นรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ เฟสสอง ที่ต้องมีระบบอุปกรณ์ความปลอดภัยเหนือชั้น แต่ทั้งเอทีฟและเซียส ก็ให้ของเล่นมามากมายที่สุดเท่าที่อีโคคาร์รุ่นแรกจะให้มาได้ ซึ่งแม้จะดูไม่ได้มากมาย แต่ถามว่าเพียงพอต่อการใช้งานในเมือง อันเป็นเป้าหมายในการพัฒนารถหรือไม่

โตโยต้าติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรก ระบบกระจายแรงเบรก พร้อมด้วยไฮไลท์ที่ติดรถมาตั้งแต่แรกก็คือถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น พร้อมทั้งเพิ่มอุปกรณ์ที่ให้ทั้งความสะดวกและความปลอดภัยกับตัวรถมา ได้แก่ กล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง เพื่อความอุ่นใจในการเดินทาง 

กล้องนั้นมีเซนเซอร์ที่สามารถบันทึกภาพโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจจับแรงสั่นสะเทือนแม้จะดับเครื่องยนต์อยู่ และมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากมาย กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่สามารถปรับและพับได้ด้วยระบบไฟฟ้า กุญแจรีโมทพร้อมระบบสมาร์ท เอนทรีและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์

ขณะที่ซูซูกิก็มีการเพิ่มอุปกรณ์ให้กับรถคันนี้เช่นกัน โดยเซียสรุ่นใหม่จะมาพร้อมกล้องมองภาพขณะถอยจอด พร้อมด้วยเซนเซอร์กะระยะช่วยถอยจอดด้านหลัง 4 ตำแหน่ง ไฟหน้าแบบปรับระดับสูงต่ำได้ กระจกสีเขียวแบบตัดแสง ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างซึ่งเป็นสีเดียวกับตัวรถทุกคัน

กุญแจนิรภัยและระบบสัญญานกันขโมย ติดตั้งชุดปะยางฉุกเฉินมาให้ มาพร้อมถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่งที่ผู้โดยสารคู่หน้า ตัวรถทุกรุ่นมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่อย่างระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายแรงเบรกแบบอีเลกทรอนิกส์ และระบบเสริมแรงเบรก

มีดีกันคนละแบบแต่เหนื่อยหน่อยนะ

การเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีคู่แข่งมากหน้าหลายตาข้ามไปอยู่โครงการที่ทันสมัยและมีข้อกำหนดที่เข้มงวดขึ้น แต่ระดับราคาจำหน่ายของรถไม่ได้แตกต่างกันมากนั้น ทำให้ทั้ง New 2020 Suzuki Ciaz และ New 2019 Toyota Yaris ATIV ต้องทำงานหนักขึ้นในช่วงนี้

เพราะพวกเขาจำเป็นที่จะต้องหาลูกค้าของตัวเองให้ได้ ในกลุ่มคนที่แสวงหาความคุ้มค่าและความต้องการของตัวเองที่เหมาะกับรถของพวกเขา จุดขาย แคมเปญอะไรที่มีก็ต้องขนกันออกมาให้หมด จนกว่าจะมีการเปลี่ยนโฉมรถทั้ง 2 รุ่น ซึ่งไม่รู้ว่าจะอีกนานไหม

แต่เอาจริง ๆ ก็ถือเป็นช่วงเวลาพิสูจน์ฝีมือของทีมการตลาดและทีมเซลล์ ว่าจะผลักดันยอดขายของรถทั้ง 2 รุ่นนี้กันอย่างไร แต่หากใครต้องการรถยนต์ที่สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ ไม่จุกจิก มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาไม่แพง ก็แนะนำสองคันนี้เหมือนกันนะ