หากแบ่งตลาดรถกระบะออกเป็นกลุ่มเน้นสมรรถนะสูง กับสมรรถนะปานกลาง วัดกันง่าย ๆ ที่เครื่องยนต์มีพละกำลังเกิน 200 แรงม้าหรือไม่ ในกลุ่มที่ต่ำกว่า 200 แรงม้า คือตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงมาก เพราะเป็นกลุ่มสำหรับรถเพื่อการใช้งานพาณิชย์ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มากของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถปิกอัพที่มีเครื่องยนต์สเปกระดับกลาง ๆ ก็ต้องพยายามที่จะขึ้นไปแข่งในตลาดปิกอัพระดับพรีเมียม สิ่งมีพวกเขานำเสนอให้กับผู้บริโภค ก็คือชุดแต่งที่มีความสวยงามโดดเด่น ในระดับราคาที่ไม่เวอร์วังอลังการเกินไปนัก
ที่เห็นได้ชัดก็คือ New 2020 Mitsubishi Triton Athlete (มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีธ) ซึ่งค่ายทรีไดมอนด์ ส่งมากระตุ้นศึกปิกอัพในช่วงที่ผ่านมา เจนเนอเรชั่นที่สองของแอทลีธ มาพร้อมชุดแต่งหน้าตาโหดขึ้นทั้งภายนอกและภายใน เตะตากันอย่างมากแม้จะเห็นจากไกล ๆ
ขณะที่อีซูซุเองก็จัดชุดแต่งให้กับ All-New 2020 Isuzu D-Max V-Cross ซึ่งกลายเป็นรุ่นมาตรฐานตัวท็อปของค่ายนี้มาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่า ชุดแต่งวี-ครอสในยุคหลัง ๆ นี้ สวยงามและดูเตะตามากขึ้นเรื่อย ๆ สมกับเป็นรุ่นท็อปของค่าย
สีขายของทั้งสองรุ่นนี้ก็ยังเป็นสีส้มเหมือนกันเสียอีก เพราะฉะนั้น วันนี้เราจะพาไปดูรอบคันทั้งภายนอกภายใน ว่ารุ่นตกแต่งพิเศษของพวกเขานั้น มีอะไรน่าสนใจบ้าง และใครจะเป็นผู้ชนะในตลาดรถปิกอัพเครื่องยนต์ต่ำกว่า 200 แรงม้า ที่มาพร้อมชุดแต่งจัดเต็มในครั้งนี้
ภายนอกอันดุเดือดจัดเต็มของไทรทัน แอทลีธ
อย่างที่บอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการตกแต่งมิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลลีธ แต่พวกเขานั้นมีประสบการณ์มาแล้ว 1 รุ่น และยังมีทีมงานของมิตซูบิชิที่ชอบแต่งรถกันมากหน้าหลายตาในหลายตลาดทั่วโลก การเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปในรถรุ่นมาตรฐานของพวกเขานั้น ถือว่าทำได้อย่างเนียนตา
ไล่กันมาตั้งแต่กระจังหน้าสีดำ ที่มีสัญลักษณ์ของแบรนด์อยู่บนฝากระโปรงหน้า ชุดแต่งชายล่างกันชนหน้าสีดำ มาพร้อมไฟโปรเจกเตอร์เลนส์ แบบไบ-แอลอีดี สีรมดำ ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ให้ความรู้สึกดุดันอย่างมากเมื่ออยู่บนสีตัวถังที่ถูกเลือกมาแล้วว่าเข้ากันดี
การตกแต่งภายนอกตามอุปกรณ์ต่าง ๆ เน้นการใช้สีดำเพื่อเพิ่มความสปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นหลังคา กระจกมองข้าง มือเปิดประตูภายนอก บันไดข้าง สปอร์ตบาร์ด้านท้ายกระบะ ไลเนอร์ปูพื้นกระบะ ไปยันกันชนหลัง ล้วนแล้วแต่เป็นสีดำทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ยังมีสติกเกอร์ตกแต่งรอบคัน เพื่อให้ผู้ที่มองเห็นรถได้รับทราบถึงความแตกต่างจากรถรุ่นปกติ ซึ่งเอาจริง ๆ แล้ว ต้องบอกว่าการตกแต่งของแอทลีธในรุ่นนี้ สวยกว่าตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ารถรุ่นนี้เองก็มีรูปร่างหน้าตาที่เหมาะกับการตกแต่งมากกว่าอยู่แล้ว
อีซูซุ วีครอส แต่งไม่มากแต่ก็เห็นความแตกต่าง
ตัดกลับมาที่อีซูซุ วี-ครอส อย่างที่บอกว่ารถรุ่นนี้กลายเป็นรุ่นมาตรฐานของรุ่นท๊อปไปแล้ว ทำให้การตกแต่งนั้นไม่ได้มีอะไรหวือหวามากมาย เพราะในอนาคต คาดว่าอีซูซุจะส่งรุ่นพิเศษออกมาทำตลาดอีกเพียบเหมือนกับที่ทำมากับรถโมเดลก่อน
อย่างไรก็ตาม ดีแมคซ์ วี-ครอสก็มาพร้อมการตกแต่งภายนอกที่หลากหลาย เสาบีถูกตกแต่งด้วยฟิล์มแบบพิเศษ บันไดข้างสีเทาเข้ม กันชนท้ายแบบชิ้นเดียวและสีเดียวกับตัวรถ ราวหลังคา ล้ออัลลอยสีเงินเข้ม ขนาด 18 นิ้วติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
กระจังหน้าและกระจกมองข้างสี Gun Metallic มาพร้อมมือจับประตูสีเทาเข้ม ชุดตกแต่งกันชนหน้าและคิ้วตกแต่งซุ้มล้อเพิ่มความดุดัน กระบะท้ายมาพร้อมชุดเสริมขอบกระบะ ไลเนอร์ปูกระบะ ซึ่งทำให้ตัวรถโดดเด่นกว่ารุ่นอื่น ๆ อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ชัดมาก ถ้าเอามาชนกับแอทลีธ
ห้องโดยสารที่มีดีกันไปคนละด้าน
หากไม่นับเรื่องอุปกรณ์ตกแต่งที่เพิ่มเข้ามา ต้องถือว่าห้องโดยสารของทั้งไทรทันและดีแมคซ์นั้น ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในรุ่นใหม่นี้ ดีแมคซ์มีการสร้างบรรยากาศห้องโดยสารที่โดดเด่นจนขึ้นมาเทียบเคียงกับค่ายอื่น ๆ ได้แล้ว
ห้องโดยสารของดีแมคซ์ วี-ครอส มาพร้อมแดชบอร์ดด้านหน้าและที่เท้าแขนแบบนุ่ม บุด้วยหนังสีน้ำตาล เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีน้ำตาล พร้อมปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางที่ตำแหน่งของคนขับ หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส 9 นิ้ว พร้อมระบบนำทางติดตั้งมาเรียบร้อย
กระจกบังลมหน้าในรุ่นท๊อปเป็นแบบป้องกันรังสียูวี-เอและยูวี-บี มือจับในรถมีให้มากมายถึง 8 ตำแหน่ง นอกจากนี้ก็มีอุปกรณ์มาตรฐานมากมาย ซึ่งเหมาะสมกับผู้ขับขี่ที่ต้องการความง่ายดายในการควบคุมรถ ภายใต้สถานการณ์การขับขี่ต่าง ๆ
ไทรทัน แอทลีธนั้น ทำการปรับปรุงแม้แต่ห้องโดยสารภายในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นเบาะที่นั่งแบบหนังสลับผ้า สีทูโทนดำ-ส้ม บริเวณกึ่งกลางของคอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีส้ม หัวเกียร์หุ้มด้วยหนังและเดินตะเข็บด้ายสีส้ม ขณะที่วางแขนกล่องคอนโซลกลางก็โดดเด่นด้วยหนังสีส้มเช่นกัน
นอกจากที่กล่าวมา ห้องโดยสารของไทรทัน แอทลีธก็คุมโทนด้วยสีดำทั้งหมด ตัดกับสีเงิน ซึ่งเป็นห้องโดยสารมาตรฐานของไทรทันทุกรุ่น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกยกมาจากไทรทันรุ่นท็อปทั้งหมด เพราะฉะนั้นเพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอน
ว่ากันด้วยเรื่องเครื่องยนต์สักเล็กน้อย
จั่วหัวเรื่องเครื่องยนต์เอาไว้ จะไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้ อย่างที่บอกว่ารถทั้ง 2 คันนี้ แม้จะเป็นรุ่นท็อป ก็เป็นเครื่องยนต์ที่ให้แรงม้าและแรงบิดน้อยกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ ยิ่งรายของไทรทันยิ่งแล้วใหญ่ เพราะไม่มีออพชั่นให้ลูกค้าเลือกเลยว่าอยากได้เครื่องอื่น ๆ หรือเปล่า
เครื่องยนต์ 4N15 VG-Turbo ขนาด 2.4 ลิตรของมิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีธ ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที ถือเป็นเครื่องยนต์ที่สมรรถนะไม่ได้จี๊ดจ๊าดอะไร แต่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่
ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อนเป็น Super Select II ที่ใช้งานง่ายมากด้วยการหมุนปุ่มไปตามที่ต้องการ แต่ลูกค้าก็ต้องทำความเข้าใจกับโหมดการขับเคลื่อนอันแสนจะวุ่นวาย ซึ่งมิตซูบิชิก็บอกว่าไม่เห็นจะวุ่นวายตรงไหน ก็เลยไม่ยอมเปลี่ยนเสียที
อีซูซุ ดีแมคซ์ วี-ครอส มากับเครื่องยนต์ 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนามาใหม่ รีดกำลังสูงสุดออกมาได้ 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที ถือเป็นเครื่องยนต์ที่มีพัฒนาการแบบก้าวกระโดดมากเครื่องหนึ่ง
การส่งกำลังเป็นเรื่องของเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Terrain Command ซึ่งแน่นอนว่าสมรรถนะของเครื่องยนต์พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก ประกอบกับระบบการขับขี่ที่ดี ก็ทำให้ลูกค้าของอีซูซุไม่ได้บ่นอะไรที่ตัวเลขสเปกน้อยกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด
ตารางเปรียบเทียบข้อมูลทางเทคนิค |
|
Mitsubishi Triton Athlete |
Isuzu D-Max V-Cross |
กว้าง (มิลลิเมตร) |
1,815 |
1,870 |
ยาว (มิลลิเมตร) |
5,300 |
5,265 |
สูง (มิลลิเมตร) |
1,795 |
1,810 |
เครื่องยนต์ |
4N15 VG-Turbo |
4JJ3-TCX |
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) |
2,442 |
2,999 |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
181/3,500 |
190/3,600 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) |
430/2,500 |
450/1,600-2,600 |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ 6 จังหวะ |
อัตโนมัติ 6 จังหวะ |
ระบบขับเคลื่อน |
Super Select II |
Terrain Command |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) |
75 |
76 |
ราคาจำหน่าย (ล้านบาท) |
1.146 |
1.157 |
ชอบแต่งจัด ๆ ไปมิตซูชิบิ อยากได้เรียบหรูไปหาอีซูซุ
จริง ๆ แล้วในกลุ่มรถแต่งนี่เหมือนจะต้องพูดเลยว่า ใครจะมองว่าสวยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของจริตส่วนตัวแท้ ๆ บางทีเราก็อยากได้รถที่แต่งแปลก ๆ ไปเลย บางทีเราก็คิดว่าแต่งนิดเดียวมันก็ดูดีอยู่แล้วนะ จะไปทำอะไรเยอะแยะให้มันดูเวอร์ทำไม
สำหรับสองคันนี้ ก็ต้องบอกว่าหากเป็นคนที่ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก คิดว่าอยากได้รถที่ขับไปบนถนนแล้วไม่เตะตาเกินไป All-New 2020 Isuzu D-Max V-Cross ก็น่าจะตอบโจทย์มากกว่า แถมยังมีดีที่ราคาขายต่อที่สูงกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย
แต่ถ้าต้องการปลุกความเป็นจิ๊กโก๋ในตัวคุณ New 2020 Mitsubishi Triton Athlete นั้นเหมาะที่จะเป็นรถประจำตัวคุณเหลือเกิน เอาจริง ๆ ก็คิดเหมือนกันว่าทีมดีไซน์ต้องมั่นใจเบอร์ไหนกับห้องโดยสารที่ส้มขนาดนั้น แต่ก็เอาเถอะ เพราะได้ยินว่าขายออกไปหลายคันแล้วเหมือนกัน
งานนี้ชอบคันไหนไปคันนั้นได้เลย