การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองของ New 2019 Mitsubishi Triton (2019 มิตซูบิชิ ไทรทัน) ถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ ด้วยการเปลี่ยนแปลงหน้าของรถทั้งภายนอกและภายในแบบใหม่หมดจด โดยยังคงความน่าใช้งานของรถเอาไว้ด้วยเครื่องยนต์และช่วงล่างอันยอดเยี่ยม โดยมีให้เลือกหลากหลายรุ่นไปจนถึงรุ่นตกแต่งพิเศษ ที่มีออกมาหลายเวอร์ชั่นในปัจจุบัน
อะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างสำหรับโมเดลนี้
การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ก็คือหน้าตาของรถที่เปลี่ยนมาใช้การออกแบบ Advanced Dynamic Shield Design ที่เปลี่ยนหน้าตารถอันจืดชืดให้กลายเป็นรถหน้าตาดุดัน ระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง กล้องมองภาพ 360 องศา มาพร้อมช่องหมุนเวียนอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังรุ่นแรกสำหรับรถกระบะในประเทศไทย และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select II ที่พร้อมพาข้ามผ่านอุปสรรคทุกอย่างได้อย่างสะดวกสบาย
7 ข้อที่จะสนับสนุนให้คุณเป็นเจ้าของรถคันนี้
1.หน้าตาล้ำสมัยไม่ตกยุคง่าย ๆ
ตอนที่เปิดตัวรถคันนี้ครั้งแรกกับหน้าตาแสนจะจืดชืดธรรมดา ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทำไมมิตซูบิชิไม่ยอมใช้ ADSD ในการออกแบบรถปิกอัพของตัวเองเสียบ้าง และก็สมหวังในการไมเนอร์เชนจ์จนได้ ซึ่งแน่นอนว่าหากดูจากรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ดีไซน์การออกแบบนี้น่าจะใช้กับไทรทันไปอีกสักระยะใหญ่ ๆ
2.ระบบหมุนเวียนอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
แม้มันจะไม่ใช่ระบบปรับอากาศที่ควบคุมอุณหภูมิได้ก็ตามที แต่ระบบหมุนเวียนอากาศที่ส่งอากาศเย็น ๆ ไปตอนหลังของห้องโดยสารได้นั้นก็ถือเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับกระบะในประเทศไทย ซึ่งลองคิดถึงคนที่ใช้รถกระบะสำหรับการโดยสารหลาย ๆ คน น่าจะชอบไอเดียนี้นะ
3.เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ไมเวคที่ไว้ใจ้ได
หัวใจหลักในการทำตลาดของรถรุ่นนี้หากไม่นับรุ่นหัวเดี่ยวหน้าเก่า ก็คือเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร วีจี-เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ที่ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที และมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะและเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะให้เลือกใช้งาน
4.ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เข้าใจง่าย
อาจจะไม่ได้กดปุ่มเลือกโหมดได้ แต่ระบบซูเปอร์ ซีเล็ค ทู ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของรถคันนี้นั้นใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่จำให้ได้ว่า 2H 4H 4HLC และ 4LLC คือโหมดการใช้งานที่ใช้กับถนนแบบไหน ที่เหลือก็แค่หมุนปุ่มปรับไปที่โหมดนั้น ๆ เท่านั้น ปล่อยให้รถทำหน้าที่ของตัวเองไป
5.ห้องโดยสารภายในสบายเอาเรื่อง
แม้จะเป็นรถปิกอัพ แต่ห้องโดยสารของมิตซูบิชิ ไทรทันนั้น ให้ความรู้สึกสบายสุด ๆ ด้วยเบาะที่นั่งที่รองรับกับสรีระ ความใหญ่โตของห้องโดยสารที่นั่งได้อย่างสบายทั้งตอนหน้าและตอนหลัง ขณะที่ช่วงล่างก็รองรับแรงกระแทกจากพื้นถนนได้เป็นอย่างดี
6.ระบบความปลอดภัยแน่นรถ
นอกจากถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งสำหรับรุ่นท๊อปแล้ว พวกเขายังอัดระบบความปลอดภัยมาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนจุดอับสายตา ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบเตือนชนด้านหลังเมื่อถอยหลัง กล้องมองภาพ 360 องศา ซึ่งขอบอกว่าระบบพวกนี้ทำงานดีมากจนบางทีก็อยากจะปิดเลยล่ะ
7.อุปกรณ์ด้านความสบายก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน
ไม่ได้มีดีแค่เครื่องยนต์และเซฟตี้ แต่รถคันนี้จัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้เพียบ ไม่ว่าจะเป็นเบาะไฟฟ้าสำหรับคนขับ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ช่องชาร์จไฟสำหรับตอนหลัง แพดเดิลชิฟท์ ระบบเอนเตอร์เทนเมนต์แบบจอสัมผัส ซึ่งหลาย ๆ อย่างนั้น คู่แข่งยังไม่มีให้มาเลยด้วยซ้ำ
แวะอีกสักนิดหากคิดจะซื้อมิตซูบิชิ ไทรทัน ตอนนี้
1.อายุของสินค้าที่ถือว่านานแล้ว
หากไม่นับรุ่นพิเศษที่ตามออกมามากมาย การปรับโฉมครั้งสุดท้ายของไทรทันนั้น จะต้องย้อนกลับไปถึงช่วงปลายปี 2561 เลยทีเดียว ซึ่งหากนับดูแล้ว มิตซูบิชิน่าจะเตรียมการที่จะทำอะไรสักอย่างกับโปรดักส์ตัวนี้ในอนาคตอันใกล้ ใครที่ซื้อตอนนี้ก็อาจจะเตรียมตกรุ่นกันได้
2.ขุมพลังทางเลือกของเครื่องยนต์ไม่มีให้เลือก
ถ้าคุณอยากได้กระบะที่ให้สมรรถนะสูงระดับ 200 แรงม้า 500 นิวตันเมตร แน่นอนว่าไทรทันจะไม่ใช่คำตอบของคุณอย่างแน่นอน เพราะในขณะที่คู่แข่งรานยอื่นพยายามขึ้นไปแข่งในตลาดปิกอัพพรีเมียม ไทรทันกลับเลือกหั่นเครื่องยนต์ใหญ่ของพวกเขาทิ้ง และเชื่อใจเครื่องยนต์รุ่นเดียวเท่านั้นในการทำตลาด
ยังน่าใช้งานอยู่ในฐานะปิกอัพสายกลาง
ในขณะที่คนอื่น ๆ พยายามแยกตลาดกระบะออกเป็น 3 กลุ่มด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ ไทรทัน กลับเดินสายกลางด้วยเครื่องยนต์ทางเลือกแบบกะกินรวบทั้ง 2 กลุ่ม แล้วแยกออกด้วยระบบและอุปกรณ์ที่แตกต่างและหลากหลายแทน ซึ่งทำให้สินค้าของพวกเขานั้นสามารถจับกลุ่มลูกค้าได้กว้างขวางมาก แต่ก็ไปไม่สุดสักกลุ่ม จะลงไปตลาดล่างมากก็ไม่ได้ จะขึ้นไปพรีเมียมสุด ๆ ก็ไม่ไหว แต่หากเทียบกันที่กลุ่มระดับกลาง นี่คือรถที่น่าใช้งาน มีของเล่นเพียบพร้อมมากที่สุดของตลาดคันหนึ่ง และแม้จะไมเนอร์เชนจ์มานานแล้ว แต่ก็ยังน่าใช้งานอยู่เหมือนเดิม