มิตซูบิชิ ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่น เปิดตัว 2019 มิตซูบิชิ มิราจ ออกจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น GLX MT ราคา 4.74 แสนบาท รุ่น GLX CVT ราคา 5.09 แสนบาท รุ่น GLS CVT ราคา 5.74 แสนบาท และรุ่น GLS-LTD CVT ราคา 5.74 แสนบาท มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร พละกำลัง 78 แรงม้า แรงบิด 100 นิวตันเมตร
2019 มิตซูบิชิ มิราจ เป็นแฮทช์แบ็กขนาดเล็กผลิตโดยมิตซูบิชิ ในประเทศไทย ปรับโฉมครั้งล่าสดในช่วงปลายปี 2562 ออกทำตลาดในกลุ่มรถอีโคคาร์ ไฮไลท์อยู่ที่ความประหยัดน้ำมัน 23.3 กม.ต่อลิตร และมีรัศมีวงเลี้ยวแคบมากที่ 4.4 เมตร ให้ความคล่องตัวในการขับขี่ที่สูง
การปรับโฉมรถเล็ก 5 ประตูของค่ายอย่างมิตซูบิชิ มิราจ (Mitsubishi Mirage) ถือเป็นการปรับปรุงขนานใหญ่พอสมควร ที่เรียกว่าทั้งพลิกโฉมและเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวรถของพวกเขามากขึ้น
เพราะเจ้า New 2019 Mitsubishi Mirage นั้น ได้รับการเปลี่ยนแปลงหน้าตาใหม่หมดจด และมาพร้อมระบบความปลอดภัยมากมายที่ใส่เพิ่มเข้าไปในรถคันนี้ เพื่อให้สามารถขยับขึ้นไปแข่งขันกับคู่แข่งในโครงการอีโคคาร์ เฟสสองได้อย่างสบาย
เดิมที มิราจถือเป็นรถอีโคคาร์ที่เน้นการทำตลาดในกลุ่มลูกค้าระดับวัยรุ่น ที่เน้นความเอนกประสงค์ในการใช้งานรถยนต์ ด้วยห้องโดยสารที่สามารถปรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย พร้อมจุดขายอย่างที่เก็บของที่กระจายกันอยู่ทั่วตัวรถ
เมื่อต้องทำการปรับเปลี่ยน ทีมงานของมิตซูบิชิก็ยังคงต้องพยายามในการรักษาฐานลูกค้าเดิมของพวกเขาเอาไว้ ท่ามกลางบรรดาเหล่าคู่แข่งที่เพิ่มเติมมากขึ้น เป็นเหตให้มิตซูบิชิต้องทำการปรับใหญ่อย่างเป็นทางการครั้งแรกให้กับรถในกลุ่มนี้
พร้อมการปรับราคามิราจเล็กน้อยที่ 7,000-10,000 บาทใน 4 รุ่นย่อย ในการวางราคาที่ถือว่าเน้นกลุ่มอีโคคาร์ระดับเริ่มต้นถึงระดับกลาง ความน่าสนใจของรถที่มีเพิ่มขึ้น กับราคาจำหน่ายที่น่าคบหาจะทำให้รถคันนี้น่าใช้งานหรือไม่ เราจะพาไปหาคำตอบพร้อม ๆ กัน
ตารางราคาจำหน่าย New 2019 Mitsubishi Mirage
ตารางราคาจำหน่าย New 2019 Mitsubishi Mirage |
Mitsubishi Mirage GLX 5MT |
4.74 แสนบาท |
Mitsubishi Mirage GLX CVT |
5.09 แสนบาท |
Mitsubishi Mirage GLS CVT |
5.74 แสนบาท |
Mitsubishi Mirage GLS Ltd. CVT |
6.19 แสนบาท |
ตารางรายละเอียดทางเทคนิค 2019 มิตซูบิชิ มิราจ จีแอลเอส ลิมิเต็ด
ตารางรายละเอียดทางเทคนิค 2019 มิตซูบิชิ มิราจ จีแอลเอส ลิมิเต็ด |
มิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) (มิลลิเมตร) |
1,665x3,845x1,505 |
ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร) |
2,450 |
ระยะต่ำสุดจากพื้นถนน (มิลลิเมตร) |
150 |
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (เมตร) |
4.6 |
เครื่องยนต์ |
3A92 |
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) |
1,193 |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
78/6,000 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) |
100/4,000 |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ อินเวคส์ ทรี ซีวีที |
ระบบบังคับเลี้ยว |
แร็คแอนด์พีเนียน พาวเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า |
ช่วงล่างด้านหน้า |
แมคเฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง |
ช่วงล่างด้านหลัง |
ทอร์ชั่นบีม |
ระบบเบรก (หน้า/หลัง) |
ดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน/ดรัมเบรก |
ล้ออัลลอย |
15 นิ้ว พร้อมยาง 175/55 R15 |
ประหยัดน้ำมันสูงสุด (กิโลเมตรต่อลิตร) |
23.3 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) |
35 |
รองรับเชื้อเพลิงสูงสุด |
แก๊สโซฮอล์ อี20 |
ไดนามิก ชิลด์กับดีไซน์ภายนอกที่ดูดีขึ้น
การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ของมิตซูบิชิ มิราจ คือการเปลี่ยนแปลงตัวถังภายนอกให้มีความสะดุดตามากขึ้นในรูปลักษณ์แบบสปอร์ต ด้วยการใช้ดีไซน์แบบไดนามิก ชิลด์ (Dynamic Shield Design) เข้ามาเป็นแนวทางหลักในการออกแบบงานด้านหน้าของรถทั้งหมด
เพราะฉะนั้น เมื่อเรามองภายนอกของรถ เราก็จะพบการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิมอย่างมากมายเหมือนเปลี่ยนโมเดล ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมเส้นคาดสีแดง ชุดกันชนใหม่ที่ดูแข็งแกร่งบึกบึนขึ้นมา พร้อมด้วยชุดโคมไฟหน้าใหม่ที่ออกแบบมาอย่างมีมิติ
นอกจากจะเปลี่ยนดีไซน์แล้ว โคมไฟหน้ายังเปลี่ยนมาใช้ชุดไฟโปรเจตเตอร์แบบไบ-แอลอีดี มาพร้อมไฟตัดหมอกหน้าดีไซน์ใหม่ ขณะที่ด้านท้ายมาพร้อมชุดกันชนใหม่ และแน่นอนว่ามีการปรับดีไซน์ของไฟท้ายแบบ LED Light Guiding แบบใหม่เช่นกัน
ล้ออัลลอยสีทูโทนลายใหม่ ขนาด 15 นิ้ว มาพร้อมยางขนาด 175/55 R15 เพิ่มสีตัวถังภายนอกใหม่เป็นสีเหลือง Sand Yellow พร้อมกับยกเลิกการทำตลาดสีส้ม Sunrise Orange ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสีเหลืองใหม่นี้สวยกว่าสีส้มที่เลิกทำตลาดไปอยู่มากเหมือนกัน
นอกจากนี้ รถคันนี้ก็ยังมีการออกแบบที่ดีที่ยกยอดมาจากรุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวที่พับและปรับด้วยไฟฟ้า ปลายท่อไอเสียแบบโครเมียม ที่ดูรวม ๆ กันแล้ว ทำให้รถดูไม่น่าเบื่อเหมือนกัน
ภายในปรับเล็กน้อยเน้นการใช้งาน
ห้องโดยสารของมิตซูบิชิ มิราจ นั้น เป็นห้องโดยสารที่เน้นการใช้งานที่หลากหลาย ด้วยเบาะแถวหลังที่พับเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้ และให้ความสะดวกสบายมาอยู่แล้ว ในรุ่นปรับโฉมก็มีการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่าน้อยมาก เนื่องจากมิตซูบิชิเอง ก็ไม่รู้จะทำอะไรกับรถของพวกเขาไปมากกว่านี้
การเปลี่ยนแปลงในห้องโดยสารหลัก ๆ นั้นมีแค่ 3 จุด ประกอบไปด้วย หนึ่ง การเปลี่ยนเบาะเป็นเบาะหนังสลับผ้าลายสก็อต ที่ดูมีความหนาแน่นมากขึ้น สอง ติดตั้งหน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วแบบใหม่ และ สาม เพิ่มขอบสีแดงที่มาตรวัดแบบเดียวกันในฝาแฝดอย่างมิตซูบิชิ แอททราจ (Mitsubishi Attrage)
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุสีดำมัน มือเปิดประตูด้านในแบบโครเมียม เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60:40 มาพร้อมมาตรวัดการขับขี่และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมหน้าจอแสดงผลดิจิตอล ใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดาย
พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน หุ้มด้วยหนัง ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา ปรับขึ้น-ลงได้ 2 ทิศทาง พร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย และสวิตซ์รับสาย-โทรออก ระบบโทรศัพท์บนพวงมาลัย หัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์และระบบกุญแจอัจฉริยะ
ระบบความบันเทิงในรถรูปแบบใหม่ พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว มีให้ครบทั้งวิทยุและดีวีดี รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์และแอนดรอยด์ ออโต้ คิดตั้งระบบนำทางมาให้เรียบร้อย พร้อมการเชื่อมต่อผ่านยูเอสบีและบลูทูธ พร้อมลำโพงในรถ 4 ตำแหน่ง
เครื่องยนต์เดิมเน้นประหยัดผ่านมาตรฐาน
การปรับเครื่องยนต์ของมิราจนั้น เป็นการปรับเพื่อให้ผ่านมาตรฐานขั้นต่ำของข้อกำหนดอีโคคาร์ เฟสสอง เท่านั้น ทำให้มิตซูบิชิได้ทำการปรับแต่งเครื่องยนต์ 3A92 ของพวกเขาให้มีอัตราประหยัดน้ำมันสูงขึ้น และทำตัวเลขได้ที่ 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร
เครื่องยนต์ 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 1,193 ซีซี. พร้อมเทคโนโลยีไมเวค ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติซีวีที อินเวคส์ ทรี รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดที่อี20
แน่นอนว่าสมรรถนะของเครื่องยนต์นั้นไม่ปรู๊ดปร๊าดปราดเปรียว แต่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เสริมความคล่องตัวด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียว 4.6 เมตร ด้วยขนาดตัวของรถที่สั้นกะทัดรัด ยางที่ให้มาไซส์เล็กไปหน่อย ทำให้ความสบายในการโดยสารลดลงไป ถ้าเปลี่ยนได้ก็ควรเปลี่ยนซะ
เสริมความปลอดภัยเน้นการใช้งาน
มิตซูบิชิเลือกที่จะทำการอัพเกรดมิราจ ใหม่ ตามระบบมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงสุดเพื่อให้ผ่านเกณฑ์ของโครงการอีโคคาร์ เฟสสองอันเข้มงวดของภาครัฐ ทำให้รถคันนี้เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีมาตฐานด้านความปลอดภัยอย่างเหนือชั้น
นอกเหนือไปจากรถบบที่เป็นมาตรฐานกำหนดไว้อย่างระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรก แบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเสริมแรงเบรก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน มิตซูบิชิยังแถมถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่งให้กับทุกรุ่นย่อย
มาพร้อมระบบป้องกันการลื่นไถล และระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกระทันหัน ในรุ่นท็อป เสริมความปลอดภัยด้วยเหล็กกันโคลงสำหรับช่วงล่างด้านหน้า ระบบเปิด-ปิดไฟหน้ารถยนต์แบบอัตโนมัติ ระบบเซ็นทรัลล็อก ทำงานร่วมกับสมาร์ทคีย์และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปุ่ม
ในรุ่นสูงสุดยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมช่วยชะลอความเร็ว ระบบตัดกำลังชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งรุนแรงและรวดเร็ว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ติดตั้งกล้องภาพขณะถอยจอด และจุดยึดเบาะที่นั่งสำหรับเด็ก
เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่มาพร้อมอุปกรณ์และระบบมาตรฐานที่เหนือชั้น แถมถ้าซื้อรุ่นท็อปแล้ว ก็จะได้ของเล่นที่ครบครันมากขึ้นตามไปอีก อาจจะมีถุงลมน้อยกว่าเพื่อนไปบ้าง แต่ก็ต้องเข้าใจว่ารถที่ทำตลาดมานาน ปรับอะไรมากไปกว่านี้ก็ไม่น่าจะไหวแล้วเหมือนกัน
ความเอนกประสงค์สำหรับสายชิลล์
ถ้าถามว่าอะไรที่เป็นจุดขายของ New 2019 Mitsubishi Mirage แน่นอนว่าความเอนกประสงค์ในการใช้งานและอรรถประโยชน์ที่หลากหลายของตัวรถ ก็น่าจะเป็นออพชั่นหลักที่ทำให้ผู้บริโภคมองที่รถคันนี้อยู่ดี ไม่ใช่เรื่องของสมรรถนะในการขับขี่แต่อย่างใด
การเพิ่มระบบความปลอดภัยให้ได้มาตรฐานของโครงการอีโคคาร์เฟสสอง ที่ทำให้พวกเขาติดตั้งระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่เข้าไปมากมาย รวมไปถึงระบบที่มีมากขึ้นในรุ่นท็อปด้วยการเพิ่มเข้าไปของมิตซูบิชิเอง ก็ทำให้มิราจเป็นรถที่น่าใช้งานมากขึ้น
เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่การตอบสนองเป็นรองคู่แข่งเกือบทุกรายในตลาด อาจจะเป็นประเด็นที่ต้องทำให้ฉุกคิดกันมากเสียหน่อย แต่หากคุณเป็นสายชิลล์ที่ไม่ได้เน้นการขับแบบหวือหวา แต่มองไปที่เรื่องการใช้งานรถยนต์คันนี้อย่างหลากหลาย คุณก็อาจจะเปิดใจให้กับรถคันนี้ได้ง่ายขึ้น
รถเล็ก กะทัดรัด ขับและจอดในเมืองสะดวก ที่เก็บของจุกจิกรอบคัน ประหยัดน้ำมันด้วยนะ แถมราคาแค่นี้เอง ถ้าใจมันบอกว่าใช่ ก็จะรออะไรล่ะ