Honda Motor คาดผลกำไรหดตัว 68% ต่ำสุดในรอบทศวรรษจากผลกระทบ COVID-19

Honda Motor (ฮอนด้า มอเตอร์) เปิดเผยการคาดการณ์ตัวเลขผลประกอบการและผลกำไรในปีนี้ เป็นไปตามภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่หดตัวลง จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และฮอนด้าเองก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยประเมินว่าจะมียอดจำหน่ายรถยนต์รวมถึงผลกำไรจากการประกอบการที่ลดลง

ค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ที่แม้จะมีรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็เชื่อว่าจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยมีการประเมินว่าผลกำไรในปีงบประมาณ 2020 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2021 จะปรับลดเหลือ 2 แสนล้านเยน ซึ่งถือเป็นตัวเลขผลกำไรที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 เลยทีเดียว

เซจิ คูราอิชิ รองประธานบริหารของฮอนด้า มอเตอร์ บอกว่า สถานการณ์จะไม่ย่ำแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว ถึงแม้การแพร่ระบาดจะยังควบคุมไม่ได้ก็ตาม แต่การฟื้นตัวจะใช้เวลานานกว่าที่คิด ซึ่งแนวคิดของเขานั้นก็สอดคล้องกับการประเมินสถานการณ์ของค่ายรถหลายค่าย ที่คาดว่าอาจจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี กว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ

ประเมินยอดจำหน่ายรวมทั่วโลกหดตัว 6%

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการประเมินผลกำไรที่ลดลงอย่างมหาศาลกว่า 68% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า แต่ด้วยพื้นฐานอันแข็งแกร่งของพวกเขา ทำให้ฮอนด้าประเมินว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ในตลาดรวมทั่วโลกนั้น จะหดตัวเพียงแค่ 6% เท่านั้น หลังจากที่ยอดขายในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หดตัวเป็นประวัติศาสตร์กว่า 40%

ยอดขายดังกล่าวในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้ฮอนด้าเองประสบภาวะขาดทุนจากการปฏิบัติงานเป็นตัวเงินมากถึง 1.1 แสนล้านเยน ซึ่งฮอนด้าเองตั้งเป้าหมายการจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกเอาไว้ที่ 4.5 ล้านคันในปีนี้ แม้จะน้อยกว่าปีงบประมาณก่อนหน้า ซึ่งทำได้ 4.79 ล้านคัน แต่ก็ถือว่ามีอัตราการหดตัวที่น้อยกว่าผู้ประกอบการรายอื่น

ตลาดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดของฮอนด้า ได้แก่ ตลาดอเมริกาเหนือ ที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาประเมินว่ายอดขายในเอเชียจะปรับตัวสูงขึ้น 8% โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งตลาดรถยนต์จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

ผลกำไรหด แต่ความเคลื่อนไหวยังน่าสนใจ

แม้จะมีผลกำไรที่หดตัวลงไป แต่ฮอนด้าก็ยังเป็นค่ายรถที่มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายเรื่องในตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นการที่พวกเขาต้องเรียกตัวพนักงานออฟฟิศทั่วไป มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตรถยนต์ในโรงงานที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ พวกเขายังแอบไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า CR-Z (ซีอาร์-ซี) ซึ่งเคยเป็นรถยนต์สปอร์ตไฮบริดที่ทำตลาดมาอย่างยาวนาน และเครื่องหมายการค้านี้หมดอายุไปนานกว่า 3 ปีแล้ว หลังจากหยุดทำตลาดไปในปี 2016 ซึ่งทำให้มีข่าวลือเป็นความหวังให้กับแฟน ๆ ว่าฮอนด้าจะกลับมาทำตลาดรถกลุ่มนี้อีกครั้งหรือไม่

นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้ประกาศจับมือกับ CATL (Contemporary Amperex Technology Co Limited) ในการสร้างรถพลังงานทางเลือกรุ่นใหม่ออกจำหน่ายในประเทศจีนภายในปี 2022 พร้อมด้วยความร่วมมือในการพัฒนาแบตเตอรี่หลายด้าน และฮอนด้าได้ซื้อหุ้นซีเอทีแอล จำนวน 1% ซึ่งทำให้มั่นใจว่าพวกเขาหาทางเติบโตต่อเนื่องในอนาคตได้แน่นอน