ท่ามกลางข่าวคราวความเคลื่อนไหวทางการเมืองและสังคมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบเดือนที่ผ่านมา ทำให้หลาย ๆ ฝ่ายเริ่มประเมินความเสี่ยงที่เกิดขึ้นและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจระดับมหภาค ตามที่มีคนประเมินและคาดการณ์ภาพรวมของอุตสาหกรรม ว่าอาจจะไม่ได้เติบโตไปตามที่มีการปรับการประเมินก่อนหน้า
อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยนั่น เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ด้วยการผ่อนคลายการปลดล็อกทางธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการที่ผู้บริโภคที่ยังมีกำลังซื้อ เริ่มกลับมาเดินหน้าซื้อรถยนต์กันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าตลาดรวมอาจจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 7-7.5 แสนคันได้อีกครั้งในปีนี้
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ล่าสุดที่ดูเหมือนว่าความกังวลในเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ที่เริ่มพบตัวเลขของผู้ติดเชื้อภายในประเทศที่อยู่นอกเหนือสถานกักกันของรัฐบาลมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าความสนใจและความกังวลของประชาชนกลับมีน้อยกว่าที่คาด
หาก COVID-19 กลับมาแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องอีกครั้งในประเทศไทย ก็มีการคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะกลับมาได้รับผลกระทบอีกครั้ง จากการที่ธุรกิจยานยนต์ในประเทศอาจจะต้องล็อกดาวน์อีกครั้ง อันเป็นเหตุให้ผู้บริโภคนั้น ไม่สามารถเดินทางออกไปจับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อหารถยนต์กันได้ตามปกติ
แม้ผู้ประกอบการรายใหญ่หลาย ๆ ราย จะเริ่มเดินหน้าโครงการขายรถยนต์ออนไลน์หรือการส่งรถไปให้ลูกค้าชมกันถึงที่พักอาศัย แต่ก็คงไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค ประกอบกับหากมีการล็อกดาวน์จริง บรรยากาศการช็อปปิ้งของลูกค้าในประเทศไทยก็คงหดตัวลงไปตามบรรยากาศของภาพรวมของประเทศไทยแน่นอน
จับแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยหลังโควิด-19
การที่ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยหดตัวลงไปในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์ประเทศไทย ที่ส่งผลกระทบทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์นั้นได้รับผลกระทบไปด้วย จากยอดขายที่หดตัวลงไปในช่วงเวลาดังกล่าว เห็นได้จากตารางยอดจำหน่ายในช่วงนั้นที่ลดลงไป
นอกเหนือไปจากความซบเซาของเศรษฐกิจในช่วงงเวลาดังกล่าว สิ่งที่ส่งผลกระทบอีกอย่างก็คือการเลื่อนการจัดงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์หลายงาน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่หลายรุ่น รวมถึงการจัดงานมอเตอร์โชว์ ที่ปกติจะจัดในช่วงปลายเดือนมีนาคม ก็โดนฤทธิ์โควิดทำให้ต้องเลื่อนกันจัดงานมาหลายครั้ง
จีงไม่น่าแปลกใจที่ในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเกือบทั้งหมดจึงต้องทำการปรับการประเมินตัวเลขเป้าหมายการขาย จากต้นปีที่ประมาณไว้ 1 ล้านคัน ลดลงมาเหลือที่ระดับ 6 แสนคัน หรือหดตัวลงไป 40% โดยมีเป้าหมายว่าหลังจากการปลดล็อก จะต้องไม่มีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบกับตลาดอย่างมากอีกครั้ง
เมื่อตลาดกลับมาเปิดเต็มตัวอีกครั้ง ผลก็คือตลาดรถยนต์นั้นกลับฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อของผู้บริโภคเองที่อั้นเอาไว้มานาน หรือการอัดแคมเปญโปรโมชั่นอย่างหนักหน่วงของผู้ประกอบการ ทำให้การฟื้นตัวของตลาดในช่วง 3 เดือนหลังสุดกลับสู่ภาวะที่ดีกว่าที่ประเมินเอาไว้ สร้างความหวังอีกครั้งให้กับผู้ประกอบการ
AutoFun Thailand ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการหลายรายในช่วงที่ผ่านมา ต่างก็มีความเชื่อตรงกันว่าอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นน่าจะฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว และน่าจะทำให้ตลาดรถยนต์นั้นกลับมามียอดขายที่ระดับ 7-7.5 แสนคันได้ในปีนี้ แต่นั่นก็คือก่อนการมาของม็อบการเมืองและข่าวเรื่องการแพร่ระบาดอีกครั้งของโควิด-19
ทำไมการกลับมาของโควิด-19 ถึงน่ากังวล
ข่าวการกลับมาพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยนั้น เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับในช่วงแรกของการเกิดม็อบ และไม่น่าแปลกใจว่าน้ำหนักการสนใจข่าวของสื่อมวลชนและผู้ติดตามข่าวสารความเป็นไปของบ้านเมืองนั้น ก็เทไปให้กับเรื่องของการเมืองค่อนข้างมาก ทำให้ข่าวของการพบตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศไทยอีกครั้ง แทบจะไม่มีคนสนให้ความสนใจ
และการค้นพบผู้ติดเชื้อนั้นก็ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องมีการล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วนในประเทศไทยไปเป็นที่เรียบร้อย รวมถึงมีการเพิ่มการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในพื้นที่ต่าง ๆ เรียกว่าเป็นเรื่องที่เราควรจะเฝ้าระวังกันมากเป็นพิเศษ ไหนจะเรื่องการเปิดประเทศรับกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่เข้ามาตามนโยบายใหม่ล่าสุดของรัฐบาลเอง
หากเกิดแจ็คพอตขึ้นจริงและมีการพบตัวเลขผู้ติดเชื้ออีกครั้งจำนวนมาก แน่นอนว่าประเทศไทยก็คงไม่พ้นที่จะต้องล็อกดาวน์ปิดประเทศกันอีกครั้ง และก็จะเข้าสู่ปัจจัยที่ผู้ประกอบการทุกคนเรียกว่าเป็นปัจจัยที่ 'ไม่สามารถประเมินได้' ที่จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาสู่ภาวะชะลอตัวได้อีกครั้ง อย่างไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้
ภาพของการปิดสถานประกอบการต่าง ๆ การมีกฎระเบียบข้อบังคับอันเข้มงวดในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ หรือแม้แต่การห้ามจัดงานที่มีผู้คนเข้าร่วมงานจำนวนมาก ยังเป็นภาพที่น่าหวาดหวั่นเสมอสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทย รวมถึงผู้จัดงานที่กำลังจะจัด อย่าง Fast Auto Show Thailand หรือ Thailand International Motor Expo
ยังไม่มีอะไรสามารถยืนยันได้ว่า หากเกิดการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสอีกรอบ ตลาดจะหดตัวอีกครั้งหรือไม่ เพราะฟากผู้ประกอบการก็มีการเตรียมตัวเอาไว้หลายรูปแบบและช่องทาง เพื่อรับมือหากเกิดสถานการณ์ทั้งหมดขึ้นจริง ซึ่งก็ต้องมาติดตามกันว่า การเตรียมความพร้อมของภาครัฐและผู้ประกอบการนั้น จะเพียงพอหรือไม่
GolF ก็ว่า... การแข่งขันที่ดุเดือดในไตรมาสสุดท้าย
เดิมที หากไม่มีเรื่องของโคโรน่าไวรัสเข้ามาเป็นปัจจัยเพิ่ม การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไทยในไตรมาสสุดท้ายก็น่าจะถึงขีดสุดของปรอทอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดงานแสดงรถยนต์อีก 2 งานที่จะเกิดขึ้น การเปิดตัวรถยนต์ใหม่ที่น่าจะมีไม่น้อยกว่า 5 รุ่น ที่จะส่งผลกระทบต่อการทำตลาดรถยนต์อีกหลากหลายรุ่นในวงกว้าง
การประกาศลดราคา พร้อมด้วยการอัดแคมเปญโปรโมชั่นอย่างรุนแรงของค่ายรถหลายราย ในรถยนต์หลากหลายรุ่น พอจะแสดงให้เห็นสัญญานการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ที่ผู้ประกอบการทุกรายพร้อมจะกระโจนเข้าแย่งชิงยอดขายและส่วนแบ่งตลาดในช่วงที่เหลือของปีนี้กันอย่างคึกคัก
นับตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป จะมีรถยนต์ใหม่เปิดตัวอีกหลายรุ่น เอาแค่เดือนนี้ ก็จะมี MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) และ Isuzu MU-X (อีซูซุ มิวเอ็กซ์) รวมถึงมีรถรุ่นใหม่จ่อคิวอีกหลายรุ่นในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งน่าจะทำให้การแข่งขันนั้นทวีความรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน หากสถานการณ์ภาพรวมไม่มีอะไรเป็นปัจจัยลบไปมากกว่านี้
เป็นความหวังเล็ก ๆ ของผู้ประกอบการทุกรายในประเทศไทยในช่วงที่เหลือของปีเลยทีเดียว!!!