Ford (ฟอร์ด) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาออกมาประกาศแนวทางในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง หลังประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดตัวรถปิกอัพไฟฟ้าครั้งแรกอย่าง Ford F-150 Lightning (ฟอร์ด เอฟ-150 ไลท์นิ่ง) ที่ผ่านมา
ทำให้มีรายงานเพิ่มเติมว่า พวกเขาเตรียมที่จะพัฒนารถยนต์หลากหลายรูปแบบที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น จากที่ในปัจจุบัน ฟอร์ดทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ 3 รุ่น ได้แก่ เอฟ-150 ที่บอก Ford Mustang Mach-E (ฟอร์ด มัสแตง มัค-อี) และ Ford E-Transit (ฟอร์ด อี-ทรานซิส)
แม้ผู้บริหารจะไม่ได้ประกาศระยะเวลาที่ชัดเจนสำหรับแผนการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด แต่แผนงานทั้งหมดของฟอร์ดจะเริ่มขึ้นในทวีปยุโรป ที่พวกเขาจะเริ่มทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังในปี 2569 ก่อนที่จะยกเลิกการทำตลาดเครื่องยนต์ธรรมดาในปี 2573
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
อเมริกาจะยกเลิกเครื่องยนต์สันดาปภายใน
คู่แข่งของฟอร์ดอย่างเจนเนอรัล มอเตอร์สนั้น ประกาศอย่างชัดเจนว่า พวกเขาพร้อมที่จะเดินหน้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบในปี 2578 ขณะที่ฟอร์ดเองแม้จะยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนออกมา แต่ก็ถือว่าพวกเขามีความพร้อมในการเดินหน้าอย่างแน่นอน
การเลือกเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มสินค้าหลัก ไม่ว่าจะเป็นรถปิกอัพรุ่นใหญ่ รถสปอร์ตขวัญใจประชาชน รวมไปถึงรถโดยสารขนาดใหญ่ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าไปสู่รถยนต์ที่หลากหลายรูปแบบขึ้นมาในอนาคต
นอกจากนี้ ฟอร์ดยังได้เดินหน้าในการจับมือกับผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่อย่าง SK Innovation ในการร่วมมือกันผลิตแบตเตอรี่เพื่อใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเอง เรียกว่าโปรเจคต์ BlueOvalSK (บลูโอวอลเอสเค) รวมถึงการทำวิจัยและพัฒนากับโครงการแบตเตอรี่ทั้งหมด
โครงการความร่วมมือกันนี้จะเริ่มจากการผลิตแบตเตอรี่ 60 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี และมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มตามแผน โดนฟอร์ดประเมินว่าพวกเขาต้องการกำลังไฟระดับ 140 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีสำหรับสหรัฐอเมริกาและ 240 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีทั่วโลกในปี 2573
แม้จะทำทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย แต่ผู้บริหารของฟอร์ดก็ยังไม่ตอบว่าพวกเขาจะปักหมุดตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในแต่ละแห่งเมื่อใดบ้าง แต่บอกว่าหากตลาดใดมีความชัดเจนเหมือนในยุโรป พวกเขาก็พร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งแน่นอนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า
ประเทศไทยต้องได้ใช้รถไฟฟ้าจากฟอร์ด
แน่นอนว่าแม้ฟอร์ดจะยังไม่ได้ระบุเป้าหมายในตลาดอื่น ๆ นอกเหนือไปจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่จากแผนงานของรัฐบาลในการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าในอีก 30 ปีข้างหน้า ก็ไม่มีข้อยกเว้นอะไรให้ฟอร์ดจะผ่านข้อกำหนดนี้ของประเทศไทยไปได้เช่นเดียวกัน
หากดูจากรถทั้งหมดที่ฟอร์ดทำตลาดอยู่ในประเทศไทย ก็ถือว่าไม่ได้ยากอะไรกับการเปลี่ยนมาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น Ford Mustang (ฟอร์ด มัสแตง) รวมไปถึงรถปิกอัพอย่าง Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ก็น่าจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาในอนาคต
อันนี้รวมไปถึง Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) ที่มีภาพสปายช็อตหลุดออกมาให้เห็นเป็นครั้งแรก แน่ล่ะว่าในโฉมนี้อาจจะยังต้องใช้เครื่องยนต์ดีเซลไปก่อน แต่เมื่อใดก็ตามที่เรนเจอร์ทำการปรับไปใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้า เอเวอเรสต์ก็พร้อมที่จะวิ่งด้วยแบตเตอรี่เช่นกัน
Pisan
หัวหน้าทีมบรรณาธิการ
Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่วโมง ที่้บ้านใช้งานรถหลายแบบ ตั้งแต่อีโคคาร์ เอ็มพีวีไปยันปิกอัพ อยู่ในวงการมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ทำมาแล้วทุกอย่างทั้งงานเปิดตัว ทดสอบรถ ผ่านการอบรมการขับขี่ตั้งแต่คอร์สเริ่มต้นไปจนแอดวานซ์จากค่ายรถมากมายทั้งในและต่างประเทศ ยังเชื่อว่ารถทุกคันทำมาสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม ถ้ามันไม่เหมาะกับคุณ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ดีสักหน่อยนะ...
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });