ตอนนี้รถยนต์พลังไฟฟ้ากำลังเป็นที่สนใจอย่างมาก คนใช้รถยนต์หลายคนอยากบอกลาปั๊มน้ำมัน แล้วหันไปใช้รถพลังไฟฟ้าแทน เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ลดการใช้น้ำมัน
ไม่กี่ปีก็มีรถพลังงานไฟฟ้าที่จำหน่ายในไทยไม่น้อย หนึ่งในรถพลังไฟฟ้าที่หลายคนกำลังให้ความสนใจจะต้องมี FOMM One (ฟอมม์ วัน) เป็นหนึ่งในนั้น และอีกรุ่นหนึ่งที่น่าจับตามองเช่นกัน นั่นก็คือ Mine SPA1 (มาย สปา วัน)
FOMM One เป็นรถพลังไฟฟ้าขนาดเล็ก เป็นผลงานพัฒนาจากทีมวิศวกรชาวญี่ปุ่น ที่ลงทุนผลิตในประเทศไทย โดยชูจุดเด่นที่เป็นทรงกะทัดรัด แต่มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง และสามารถลอยน้ำได้ ขณะที่ Mine SPA1 เป็นรถพลังงานไฟฟ้าสัญชาติไทย รถพลังไฟฟ้าที่คุ้มค่าสำหรับคนไทย ด้วยการใช้วัสดุตัวถังอะลูมิเนียมเสริมความแข็งแรง และเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักรถพลังไฟฟ้า 2 รุ่นนี้มากขึ้น AutoFun จึงขอนำเสนอ Fomm One เทียบกับ Mine SPA1
ราคา
เริ่มด้วย FOMM One รถพลังไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น ที่ออกสู่ท้องตลาดก่อน เริ่มต้นด้วยการจำหน่ายในราคา 664,000 บาท จากนั้นก็ลดราคามาจนถึงปัจจุบันเป็นครั้งที่ 3 เหลือเพียง 499,000 บาท ถือว่าเป็นรถยนต์พลังไฟฟ้าที่ถูกที่สุดในไทยเลยก็ว่าได้ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเหลือง สีแดง สีน้ำเงิน สีชมพูและสีเงิน
ขณะที่ Mine SPA1 รถพลังไฟฟ้าของไทย เพิ่งเปิดตัวให้จองเมื่อปีที่แล้วในงานมอเตอร์โชว์ 2019 โดยราคาอยู่ที่ 1,200,000 บาท มี 7 สีให้เลือกเช่นกัน ได้แก่ โซล่าเยลโล่ เจ้าพระยาบลู ไบโอแบล็ค อีเอสเอสเกรย์ พีซีเอ็มบราวน์ เทอร์บายซิลเวอร์ และมหานครไวท์
มิติตัวรถ
ตารางเปรียบเทียบ |
|
FOMM One
|
Mine SPA1
|
ความกว้าง(มม)
|
2,585
|
1,730
|
ความยาว(มม)
|
1,295
|
4,530
|
ความสูง (มม)
|
1,560
|
1,730
|
น้ำหนักรถ (กก)
|
445
|
1,400
|
การออกแบบภายนอก
FOMM One เป็นรถพลังไฟฟ้าออกแบบให้มีขนาดเล็ก กระทัดรัด หน้าตาของรถพลังไฟฟ้านี้เลยค่อนข้างออกไปทางน่ารักผสานกับความทันสมัย แตกต่างจากรถทั่วไปอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าใครเห็น FOMM One วิ่งบนท้องถนนเป็นต้องสะดุดตาแน่ อุปกรณ์พื้นฐานใน FOMM One ก็มีครบชุด ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟเลี้ยวด้านข้าว ที่ปัดน้ำฝนแบบก้านเดียว กระจกมองข้าง ไฟท้ายทรงกลมแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวและไฟถอยหลังให้ และ FOMM One ก็ยังมาพร้อมล้อขนาด 15 นิ้วด้วย
ส่วนด้าน Mine SPA1 ก็ดีไซน์เป็นรถยนต์ทั่วไป ที่ไม่ได้สะดุดตามากนัก แต่ก็ยังมีความโดดเด่นเฉพาะตัว Mine SPA1 มาพร้อมด้วยโคมไฟหน้าแบบ LED พร้อม LED Daytime Running Light (DTRL) ไฟ้หน้าปรับอัตโนมัติ ชุดไฟท้ายก็เป็น LED กระจกมองข้างปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED มีระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าและด้านหลัง
โดยรวมแล้วด้วยขนาดรูปทรงของ FOMM One ที่ดูกะทัดรัดกว่า Mine SPA1 น้ำหนักก็น้อยกว่า ก็เลยทำให้ FOMM One ดูมีความคล่องตัวสามารถเข้าซอกซอยได้ง่ายกว่า Mine SPA1 และถ้าใครชอบรูปทรงแปลกใหม่ FOMM One ก็ถือว่าตอบโจทย์
การตกแต่งภายใน
ภายในห้องโดยสารของ FOMM One ค่อนข้างเน้นความเรียบง่าย เบาะหน้าหุ้มด้วยผ้าสีดำ ฝั่งคนขับสามารถปรับเอนได้ ขณะที่เบาะหลังเป็นแบบเรียบ พร้อมพนักพิง 2 ตำแหน่ง ด้วยดีไซน์ทรงกล่องทำให้ภายใน FOMM One ดูไม่กว้างขวางมากนัก จุดได้ 4 ที่นั่งก็จริงแต่ก็ยังแคบอยู่ มีช่องวางของอเนกประสงค์มาให้ พวงมาลัยออกแบบคล้ายกับคันบังคับ แตกต่างจากพวงมาลัยทั่วไป จอเหนือแผงคอนโซลใช้บอกความเร็ว ตำแหน่งเกียร์ ปริมาณแบตเตอรี่ และสถานการณ์ทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น
ทางด้าน Mine SPA1 เป็นสไตล์สีดำเทา สามารถจุผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง วัสดุหุ้มเบาะเป็นหนังสังเคราะห์สีดำ พวงมาลัยสามารถปรับสูงต่ำได้ เบาะนั่งด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าสามารถปรับได้ เบาะหลังสามารถพับแบบ 60/40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ มีมิเตอร์แบบ Multi Information มาตรวัดแสดงระยะทาง กับระบบพลังงานไฟฟ้า มาตรวัดอุณหภูมิแบตเตอรี่ และมาตรวัด Drive Computer
ภายในของทั้ง FOMM One กับ Mine SPA1 ก็ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย FOMM One จะเน้นความเรียบง่ายแต่ก็ผสานกับดีไซน์ความทันสมัย ที่เห็นได้ชัดก็คือพวงมาลัยที่รูปทรงต่างจากที่อื่น ขณะที่ Mine SPA1 ก็ออกแบบตามสไตล์รถยนต์ทั่วไป ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานเยอะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
ด้วยการที่ FOMM One ถูกออกแบบให้เน้นความเรียบง่าย และการใช้งานที่คล่องตัว สิ่งอำนวยความสะดวกอาจไม่ครบครันเท่ารถยนต์ท้องตลาดทั่วไป ภายใน FOMM One มีคอพวงมาลัยติดตั้งก้านเปิดปิดไฟหน้าไฟเลี้ยว ปุ่มควบคุมระบบน้ำฝนปรับได้แค่ 2 ระดับคือช้าและเร็ว และฟังก์ชั่นฉีดน้ำล้างกระจกเท่านั้น มีปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศที่ทำได้เพียงปรับความแรงลมเท่านั้น ไม่สามารถปรับอุณหภูมิได้ นอกจากนี้ยังมีช่องจ่ายไฟ 12 Volt ให้สำหรับชาร์จ
ส่วนภายใน Mine SPA1 ค่อนข้างครบครันกว่า FOMM One มีไฟส่องสว่างภายในเป็น LED ระบบปรับแอร์ด้วยรีโมท มีปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบบจอควบคุมส่วนกลางอัจฉริยะ (AM/FM, MP3) พร้อมระบบเชื่อมต่อ AUX-in/USB/Bluetooth ขนาด 12.1 นิ้ว มีระบบนำทาง Navigator อีกทั้งยังมีระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สายแบบ Bluetooth บนพวงมาลัย
สำหรับภายในของ FOMM One กับ Mine SPA1 ก็ขึ้นอยู่กับว่าการใช้งานมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากต้องการความเรียบง่ายและการใช้งานทั่วไป FOMM One ก็พอรับได้ แต่หากเป็น Mine SPA1 ก็จะมีความเป็นรถยนต์มากกว่า
ระบบความปลอดภัย
สำหรับระบบความปลอดภัยของ FOMM One นี้ค่อนข้างน้อย ไม่มีระบบความปลอดภัยในแบบที่ทุกคนคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย ระบบเบรกทั้งหลาย มีเพียงระบบพื้นฐานอย่าง เข็มขัดนิรภัย ที่ดันใส่มาให้ครบ 4 ที่นั่งเท่านั้น แต่ FOMM One ก็ชูจุดเด่นด้วยความสามารถในการลอยน้ำ ซึ่งช่างเหมาะกับบ้านเราเหลือเกิน
ส่วน Mine SPA1 ก็มีระบบความปลอดภัยใกล้เคียงรถทั่วไป อย่างเช่น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันเบรก (ABS) เทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) ระบบช่วยเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ด้านคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้า กล้องมองหลัง เทคโนโลยีบันทึกภาพการขับขี่ เทคโนโลยีบันทึกภาพภายในรถ ทั้งยังมีเบรกมือไฟฟ้า (E-PKB) เสริมความปลอดภัยด้วย
เมื่อเทียบระบบความปลอดภัยแล้ว Mine SPA1 เรียกได้ว่าเหนือกว่า FOMM One ด้วยการมาพร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่ควรจะมี ซึ่งต่างจาก FOMM One
สมรรถนะ
ขุมพลังของ FOMM One เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบติดตั้งควบรวมกับล้อหรือ In Wheel Motor ทำงานคู่เกียร์ D, N และ R แต่ไม่มีตำแหน่งเกียร์ P ให้กำลังสูงสุด 13.4 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แบตเตอรี่เป็น Li-ion ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ใช้เวลาในการชาร์จไฟครั้งละประมาณ 6 ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 160 กิโลเมตร ใช้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนทางด้าน Mine SPA1 ใช้มอเตอร์ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร (PMSM) หากชาร์จเต็มจะวิ่งได้ 200 กิโลเมตร ให้กำลังสูงสุด 127 แรงม้า ระบบส่งกำลังเป็น Single Speed Reduction Transmission การชาร์จแบตเตอรี่มีระบบควิกชาร์จที่ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที
ถ้าหากถามการประหยัดน้ำมันแล้ว ทั้ง FOMM One และ Mine SPA1 ก็ตอบโจทย์ทั้งคู่ เพราะเป็นรถพลังไฟฟ้า 100% แต่การใช้งาน Mine SPA1 จะได้ระยะทางมากกว่า FOMM One
สรุป
ในตัวของ FOMM One เป็นรถที่มีความคล่อยตัวสูง ขนาดกระทัดรัด เรื่องประหยัดน้ำมันไม่ต้องพูดถึงเพราะออกแบบมาเป็นรถพลังไฟฟ้า อัตราเร่งดี สามารถบรรทุกของได้ และจุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือสามารถลอยน้ำได้ แต่ระบบความปลอดภัยมีให้น้อย และวัสดุต่างๆก็ไม่ค่อยโอเค รู้สึกว่ายังไม่ค่อยสมราคาเท่าไหร่
ขณะที่ Mine SPA1 ออกแบบคล้ายรถยนต์ทั่วไปตามท้องตลาด ดีไซน์ ระบบความปลอดภัยต่างๆก็ดูมาตรฐานกว่า แต่ราคาก็สูงกว่า FOMM One ด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น AutoFun เพียงแค่นำเสนอเทียบ หากใครสนใจค่ายไหนรุ่นไหน AutoFun แนะนำให้ไปสัมผัสเองที่โชว์รูมจะดีกว่า