BMW R18 First Edition เจ้าของค่าตัว 1.15 ล้านบาท
BMW Motorrad (บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย) เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู BMW R 18 First Edition (บีเอ็มดับเบิลยู อาร์18 เฟิร์ส เอดิชั่น) ครูสเซอร์พันธุ์แท้ที่มาพร้อมเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของบีเอ็มดับเบิลยู ผสมผสานประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยได้อย่างสมบูรณ์
เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยผลิตโดยบีเอ็มดับเบิลยู มอบประสบการณ์ในการขับขี่ทั้งในด้านสมรรถนะและสุนทรียภาพ ในดีไซน์ ที่หลอมรวมกลิ่นอายแบบย้อนยุคและร่วมสมัยเอาไว้อย่างลงตัว เรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยจิตวิญญาณแห่งความคลาสสิก ซึ่งถือเป็นรถครูสเซอร์รุ่นใหม่ที่น่าจับตามองอย่างมากในประเทศไทย
มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ความโดดเด่นของรถคันใหม่นี้ อยู่ที่ดีไซน์แบบเปลือยที่สะดุดตาด้วยรูปโฉมบีเอ็มดับเบิลยูถึงแก่นแท้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขนาดใหญ่ และถังน้ำมันทรงหยดน้ำอันเป็นเอกลักษณ์
BMW R18 First Edition เจ้าของค่าตัว 1.15 ล้านบาท
มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
ราคาจำหน่าย 2020 BMW R18 First Edition
บีเอ็มดับเบิลยู อาร์18
1.15 ล้านบาท
ปรับดีไซน์จากรถต้นแบบสู่คันจริง
ในปี 2562 ที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยูได้เปิดตัวรถจักรยายนต์ต้นแบบ BMW R18 (บีเอ็มดับเบิลยู อาร์18) และได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ ทั่วโลก และทีมออกแบบได้ทำการปรับรูปแบบของรถคันจริงออกมาด้วยการตอกย้ำความคลาสสิคของรถเอาไว้ และเพิ่มเครื่องยนต์อันยอดเยี่ยม รวมไปถึงเทคโนโลยีด้านการขับขี่มากมายที่ใส่เพิ่มเข้ามา
สะท้อนกลิ่นอายความคลาสสิกด้วยชิ้นส่วนแฮนด์เมดที่ตอกย้ำถึงความเรียบง่ายที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานในทุกองค์ประกอบ สัดส่วนที่ลงตัวของรถคันนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซค์คลาสสิกรุ่นพี่อย่าง BMW R5 (บีเอ็มดับเบิลยู อาร์5) มาพร้อมโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ และเพลาแบบเปิดเปลือย
เสริมลูกเล่นในการออกแบบ ด้วยการทำสีแบบลายเส้นบนตัวถัง สร้างเส้นสายที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่หน้ารถไปจนถึงซุ้มล้อหลังบนโครงสร้างเฟรมและถังน้ำมัน โครงสร้างทั้งหมดผลิตด้วยโลหะ ตามแบบฉบับมอเตอร์ไซค์คลาสสิก เรียกว่าให้ความสวยงามในทุกมุมมองของตัวรถทั้งยามจอดนิ่งและยามขับขี่บนท้องถนนอย่างคล่องแคล่ว
มาตรวัดคามเร็วทรงกลมสไตล์คลาสสิค
ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์สีแดงโดดเด่น
มาพร้อมมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกทรงกลม พร้อมจอแสดงสถานะการขับขี่ที่ปรากฎให้เห็นเฉพาะเวลาเปิดไฟ จอแสดงสถานะเกียร์และข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ไฟหน้าอแดปทีฟ แอลอีดี แบบใหม่ พร้อมระบบไฟส่องสว่างเวลากลางวันและเฮดไลท์ โปรในโคมโลหะคุณภาพสูง พร้อมไฟเลี้ยวแอลอีดีที่ออกแบบเป็นชิ้นเดียวกับไฟท้าย
BMW R 18 First Edition ที่เปิดตัวมาพร้อมในสีดำแบล็ก สตรอม เมทัลลิก ตัดกับลายเส้นสีขาวบนตัวถัง ชิ้นส่วนโครเมียม ลูกเล่นป้ายสลัก BMW บนเบาะที่นั่ง และป้ายสลักโครเมียม “First Edition” ข้างตัวถัง พร้อมกันนี้้ ยังมีการเปิดตัวเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์สำหรับการขับขี่ในคอลเลคชั่น Ride & Style เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้า
เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบ ขนาด 1,802 ซีซี.
ตัวถังสีดำคาดเส้นสีขาว ดูเด่นแบบย้อนยุค
เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบที่แรงที่สุดของค่าย
บีเอ็มดับเบิลยูนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเครื่องยนต์มาโดยตลอด จากจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน มาจนเกิดสินค้าใหม่มากมาย และในครูสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ พวกเขาได้เปิดตัวเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบขนาดใหญ่ ที่ได้รับกาพัฒนาต่อยอดมาจากเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิม
พวกเขาเคลมว่านี่คือเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาเครื่องยนต์ประเภทเดียวกันที่ทางค่ายเคยผลิตออกมา โดยเครื่องยนต์ขนาด 1,802 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 4,750 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาที สมรรถนะดุดันด้วยการส่งแรงบิดมากกว่า 150 นิวตันเมตรตลอดในระหว่าง 2,000-4,000 รอบต่อนาที
ระบบขับเคลื่อนมาในโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้นอันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู โดดเด่นด้วยมาตรฐานการผลิตคุณภาพสูง อาทิ การเชื่อมข้อต่อระหว่างโครงสร้างเหล็กและการขึ้นรูปชิ้นส่วนเหล็กหล่อต่าง ๆ นอกจากนี้ สวิงอาร์มหลังยังได้รับแรงบันดาลใจจากอาร์5 ด้วยการยึดต่อกับเพลาหลังด้วยข้อต่อสลักเกลียวแบบดั้งเดิม
ผลิตที่โรงงานเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ระบบช่วงล่างแบบเทเลสโคปิกแทนการควบคุมด้วยไฟฟ้า โดยมีคานรับน้ำหนักกลางที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ แกนโช้คหน้ามีเส้นผ่าศูนย์กลาง 49 มิลลิเมตร ระยะยุบตัวโช้คหน้า 120 มิลลิเมตร และระยะยุบตัวโช้คหลัง 90 มิลลิเมตร ดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง และคาลิปเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ
โหมดการขับขี่ที่เลือกได้ระหว่าง Rain, Roll และ Rock เสริมความปลอดภัยด้วยฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมระบบล๊อก ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลังจากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน ระบบเกียร์ถอยหลัง ระบบสัญญาณกันขโมย ระบบป้องกันรถกระชาก และระบบช่วยให้เบรคหลังทำงานได้ดียิ่งขึ้น
รายละเอียดทางเทคนิค BMW R18
เครื่องยนต์
บ็อกเซอร์ 2 สูบ
ความจุ
1,802 ซีซี.
กำลังสูงสุด
91 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด
158 นิวตันเมตร
ความเร็วสูงสุด
> 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อัตราสิ้นเปลือง
5.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
ปล่อยมลพิษ
122 กรัมต่อกิโลเมตร
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่เน้นสมรรถนะการขับขี่
มิเกลบอกข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับรถที่เปิดตัววันนี้ว่า บีเอ็มดับเบิลยู อาร์18 ใหม่นั้น จะเข้ามาเสริมทัพสินค้าของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้งานรถที่โดดเด่น ต้องการรถสมรรถนะสูงในการขับขี่และใช้งานทั่วไป ซึ่งเป็นการขยายสินค้าให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ จากที่ก่อนหน้านี้เปิดตัวมาแล้วหลายรุ่น
สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ระดับพรีเมียมที่ระดับราคามากกว่า 1 ล้านบาทนั้น เป็นตลาดที่มีขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็เป็นตลาดที่น่าสนใจ ไม่อยากให้มองว่าเป็นของเล่นของเศรษฐีแต่อย่างใด แต่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องของความปรารถนาในการขับขี่รถยนต์ที่มีสมรรถนะที่ดี และจากนี้ บริษัทก็มีแผนที่จะนำเข้ารถกลุ่มนี้มาทำตลาดเพิ่มเติมในอนาคต
สำหรับ BMW R18 First Edition เจ้าของค่าตัว 1.15 ล้านบาท เป็นการนำเข้ารถยนต์แบบสำเร็จรูปทั้งคันจากประเทศเยอรมนี ซึ่งยังไม่ได้มีการตัดสินใจว่าจะมีการผลิตรถรุ่นนี้ในประเทศไทยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม โรงงานบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทยเป็นฐานการมอเตอร์ราดที่สำคัญ โดยมีการผลิตรถในประเทศไทยมากถึง 9 รุ่น ในปัจจุบัน