BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) เผยผลลัพธ์การผลิตรถครั้งใหญ่ โดยผู้บริหารฝ่ายการผลิต ให้สัมภาษณ์ว่า บีเอ็มฯ จะมีต้นทุนลดลง 25% ภายในปี 2025 จึงเกิดคำถามว่า จะเป็นไปได้ยังไง ที่รถหรูขึ้นชื่อคุณภาพดี จะหันมาลดต้นทุนโดยไม่กระทบคุณภาพ
BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) เผยผลลัพธ์การผลิตรถครั้งใหญ่ โดยผู้บริหารฝ่ายการผลิต ให้สัมภาษณ์ว่า บีเอ็มฯ จะมีต้นทุนลดลง 25% ภายในปี 2025 จึงเกิดคำถามว่า จะเป็นไปได้ยังไง ที่รถหรูขึ้นชื่อคุณภาพดี จะหันมาลดต้นทุนโดยไม่กระทบคุณภาพ
ผู้บริหารฝ่ายการผลิต Milan Nedeljkovic ให้สัมภาษณ์ออกสื่อหนังสือพิมพ์เยอรมัน Handelsblatt อธิบายความไว้ว่า “ในปี 2025 พวกเรา(บีเอ็มดับเบิ้ลยู) สามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้ 25% เมื่อเทียบกับต้นทุนในปี 2019” นั่นหมายความว่า ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา รถยนต์ BMW ถูกผลิตด้วยต้นทุนที่ต่ำลง โดยที่เราไม่สังเกตถึงความแตกต่างด้านคุณภาพเลย
สาเหตุที่สามารถลดต้นทุนลงได้ เป็นเพราะการรีไซเคิลแร่ธาตุโลหะต่าง ๆ ที่ทาง BMW ร่วมมือกับโรงงานเพื่อแยกแร่ให้โดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น แร่ทังสเตน ที่เคยเป็นโลหะหายาก มีราคาแพงมาก เพราะการทนความร้อนสูง มีความแข็งแรงยิ่งกว่าเหล็ก ปัจจุบันนี้ถูกนำกลับมาใช้ซ้ำจากชิ้นส่วนรถเก่า และอุปกรณ์ไฮเทคที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนในปีที่ผ่านมา สามารถลดการถลุงแร่แพงนี้ลงไปได้ 7 ตัน/ปี
แม้การผลิตจะลดลงไปเรื่อย ๆ ในทุกปีจนถึง 25% ในปี 2025 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าราคารถ BMW จะถูกลงตามไปด้วย เพราะในตอนนี้มีสถานการณ์ชิปขาดตลาด เพราะหลายโรงงานปิดโควิด บางแห่งเกิดไฟไหม้ซ้ำ ส่งผลให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ อาจจะขึ้นราคาตามความต้องการที่มากขึ้น
รถยนต์ไฟฟ้าร่นลาสุดอย่าง 2021 BMW iX และ 2021 BMW iX3 (2021 บีเอ็ม ไอเอ็กซ์ และ 2021 บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์3) ก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน
การลดต้นทุนการผลิตลงครั้งนี้ จะไม่ส่งผลถึงคุณภาพวัสดุหรือฟังก์ชั่นต่าง ๆ เพราะ BMW แถลงออกมาแล้วว่า ยังตั้งเป้าหมายไปแข่งขันกับ Mercedes-Benz, Tesla และรถในเครือ Volkswagen ทั้งหลายเช่นเดิม
อ่านเพิ่มเติม : พาชม BMW 220i Gran coupe ราคา 1.999 ล้านบาท
ขายรถเก่า-ซื้อคันใหม่ ไม่ยุ่งยาก ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
BMW iX xDrive40 Sport 2023
แลก
เพิ่มรถของคุณ