ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายกำลังทุ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และวางแผนที่จะหยุดการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่ BMW ได้เปิดเผยว่ากำลังพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปต่อไป แต่อำลา V12 เหลือแค่ 6 และ 8 สูบ
ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายกำลังทุ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และวางแผนที่จะหยุดการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่ BMW ได้เปิดเผยว่ากำลังพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปต่อไป แต่อำลา V12 เหลือแค่ 6 และ 8 สูบ
Frank Weber ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาของ BMW เปิดเผยขณะพูดคุยกับสื่อมวลชนในเยอรมัน โดยระบุว่าผู้ผลิตรถยนต์ต้องการ “เครื่องยนต์สันดาปที่ล้ำสมัยเป็นเวลา 2-3 ปีเพื่อลดการปล่อย CO2 ในประเภทรถยนต์นั่งทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นเป็นเหตุผลที่เรากำลังพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ทั้งแบบเบนซิน หรือดีเซล ขนาด 6 และ 8 สูบ” เขากล่าวเสริม “ด้วยการใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเพียงอย่างเดียว เรากำลังลดการปล่อย CO2 ได้มากกว่าการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์สันดาปในทุกสมัย”
BMW ต้องการประณีประนอมระหว่าง ข้อกำหนดการปล่อยมลพิษ และข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ โดยค่ายใบพัดนี้ได้พิจารณาระบบอัดอากาศมาใส่ในเครื่องทุกบล็อก ยืนยันโดยนาย Weber กล่าวเสริมว่า เครื่องยนต์รุ่นใหม่จะมี "สิ่งใหม่บนฝาสูบ" และเชื่อว่า "การลด CO2 โดยรวมมีความสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" ไม่ว่าจะทำได้โดยการใช้เครื่องยนต์สันดาป หรือระบบส่งกำลังไฟฟ้า การใช้เทอร์โบก็เป็นการช่วยลดคาร์บอนอย่างชัดเจนทางหนึ่ง
ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาของ BMW ยืนยันว่า จะไม่บังคับให้ลูกค้าเลือกระหว่างรถยนต์แบบเผาไหม้และแบบไฟฟ้า โดยยังจะทำ EV ควบคู่กันไป และกล่าวสมทบว่า “เป้าหมายของบริษัทคือการนำเสนอยานยนต์ที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ที่สุดเสมอ โดยไม่คำนึงถึงประเภทของระบบขับเคลื่อน” ตัวอย่างมีให้เห็นแล้วใน BMW iX3 (บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์3) กับ BMW X3 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3)
BMW กำลังเตรียมปลดประจำการเครื่อง V12 ในรถหรูรุ่น 7-series ที่เคยใช้มาตลอด 35 ปี มาสิ้นสุดในบล็อกเบนซิน ความจุ 6.6 ลิตร ติดเทอร์โบคู่ ให้กำลัง 609 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 3.6 วินาที ใส่ในรุ่น M760i ที่จะออกขายจำนวน 12 คันสุดท้ายในอเมริกา ขนาดทวีปที่กำลังซื้อสูงแบบนี้ ยังต้องยกเลิก V12 ดังนั้นคาดว่าในภูมิภาคอื่น ๆ ก็คงทะยอยปลดระวางบล็อกนี้ตามไปด้วย
อ่านเพิ่มเติม : พาชม 2022 BMW iX3 ราคา 3.399 ล้านบาท และ iX ราคา 5.999 ล้านบาท กับ 6 ฟังก์ชั่นที่โลกต้องจำ
ในขณะที่ BMW ยังคงลงทุนในเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่คู่แข่งเขาไปไกลแล้ว อย่างเช่น Audi (อาวดี้) กำลังใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป โดยเมื่อปีที่แล้วบริษัทยืนยันว่าจะเปิดตัว ICE รุ่นสุดท้ายที่พัฒนาขึ้นใหม่ในปี 2569 สั่งลาเครื่อง V10 ตัวปัจจุบัน ความจุ 5.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 540 แรงม้า ส่วนเอสยูวีรุ่น e-Tron ก็ไม่มีรุ่นเครื่องสันดาปให้เลือกเหมือนใน iX3 และอาวดี้ยืยันว่า ภายในปี 2576 จะกำจัดเครื่องยนต์สันดาปออกจากรายการผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
ขณะที่คู่แข่งอีกราย Mercedes-Benz (เมอเซเดส-เบนซ์) จะพัฒนาระบบขับเคลื่อน EV พร้อมเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องด้วยตัวเองทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2024 แต่ยังคงเครื่องยนต์สันดาปไว้ในรุ่นพลังแรงอย่าง AMG กับบล็อค V8 บางตระกูลเท่านั้น โดยหัวหน้าของ Mercedes-AMG กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อในสหรัฐฯ ว่า "ผมคิดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าเราจะได้เห็น V8 แน่นอน เรามีลูกค้าที่รักรถของพวกเขาจำนวนมาก และผมก็ยังคิดว่าเราจะเห็นคนซื้อรถใช้กันยาว ๆ อีกทั้งความต้องการเครื่องรุ่นนี้ยังสูงมากในทั่วโลก
อ่านเพิ่มเติม : Mercedes-AMG ยังทำเครื่อง V8 ใช้น้ำมันต่อไปอีก 10 ปีท่ามกลางกระแส EV
การไม่บังคับไปทางใดสุดโต่งนั้น ก็นับเป็นการไม่ผูกขาดทางการค้าอย่างหนึ่ง โลกนี้ไม่จำเป็นต้องผูกขาดด้วย EV และเครื่องสันดาปก็ไม่ควรครองโลกเช่นกัน อีกทั้งการผลิตเครื่องยนต์ที่ให้อิสระลูกค้าเลือกได้ว่าจะไปทางใดอย่าง จะช่วยลดความเสี่ยงการขาดแคลนชิ้นส่วนด้วย แล้วเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์เองว่าระบบใดยั่งยืนกว่ากันในระยะยาว
อ่านเพิ่มเติม : หลุด 2024 BMW 5-Series ล้ำสมัยขึ้น มีรุ่น EV ให้เลือก แต่ดีไซน์ไม่เหมือนเพื่อน ท้าชน E-Class
ขายรถคันเดิมเพื่อซื้อรถมือสองคุณภาพดีได้ง่ายและสะดวก
BMW 7-Series-Sedan 750e xDrive M Sport 2023
แลก
เพิ่มรถของคุณ