All-New 2020 Toyota Corolla Cross (2020 โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) เปิดตัวครั้งแรกของโลกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นทางเลือกในตลาดครอสโอเวอร์ เอสยูวี ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์ในกลุ่มดังกล่าว จากเดิมที่โตโยต้าทำตลาดด้วย Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เอชอาร์) เพียงรุ่นเดียว

รถยนต์รุ่นใหม่ของพวกเขามาพร้อมการพัฒนาที่เป็นคู่ขนานของซี-เอชอาร์ ด้วยแพลตฟอร์ม TNGA (Toyota New Global Architecture) เครื่องยนต์ที่ใช้เหมือนกันทุกประการ บนรูปร่างหน้าตาที่ดูจับกลุ่มลูกค้าทั่วไปมากกว่า และห้องโดยสารที่กว้างขวางเต็มไปด้วยอรรถประโยชน์

โตโยต้ามองว่าพวกเขาต้องการจับกลุ่มลูกค้าครอบครัวยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น ทำให้มีการปรับเพิ่มอุปกรณ์สำหรับการใช้งานมาอย่างเต็มพิกัดสำหรับรถรุ่นนี้ ซึ่งก็รวมไปถึงระบบความปลอดภัยรุ่นใหม่ และอุปกรณ์ที่ปรับมาให้น่าใช้งานมากขึ้นอย่างครบครัน พร้อมท้าชนคู่แข่งทุกราย

ราคาพิเศษ 9.59 แสนบาทจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563

ภายนอกดูลงตัวสำหรับครอบครัว

การออกแบบภายนอกให้ดูโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียวและมีความแข็งแกร่ง มาพร้อมฟังชั่นส์และอุปกรณ์สำหรับใช้งานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแอลอีดี โปรเจคเตอร์แบบไฮบริด มาพร้อมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างเวลาเดินทางกลางวันแอลอีดีแบบ Light Guiding 

ระบบไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow-Me-Home ไฟตัดหมอกหน้าแบบแอลอีดี ไฟท้ายแบบแอลอีดี Light Guiding มาพร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบแอลอีดี กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยว พร้อมระบบ Reverse Link มาพร้อมฟังชั่นส์การใช้งานเต็มรูปแบบ

เสาอากาศแบบครีบฉลาม เพิ่มความปราดเปรียวให้กับตัวรถด้วยหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคาสีดำพร้อมใช้งาน ล้ออัลลอยขนาด 17 หรือ 18 นิ้วตามแต่ละรุ่น ประตูบานหลังเปิดปิดด้วยไฟฟ้าและเปิดได้ด้วยการเตะเข้าใต้กันชน และมาพร้อมระบบเปิดประตูอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์

การออกแบบภายในโอ่อ่าเน้นใช้งาน

ห้องโดยสารออกแบบมาอย่างโอ่อ่าลงตัวสำหรับการใช้งาน มาพร้อมห้องโดยสารภายในสีแดงใหม่ Terra Rossa พร้อมเบาะหนังและเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้ามัลติฟังชั่นส์ พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว ให้ข้อมูลการขับขี่ครบครัน

หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ บลูทูธและยูเอสบี มาพร้อมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ดูอัลโซน แยกปรับอุณหภูมิด้านซ้าย – ขวาอย่างอิสระ พร้อมช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง สะดวกสบายสำหรับการใช้งานทุกตำแหน่งที่นั่ง

พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พร้อมเบาะนั่งด้านหลังที่แยกพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายได้มากสุดถึง 487 ลิตร มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย พนักวางแขนด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ และช่องต่อยูเอสยีสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

เครื่องยนต์รุ่นเดิมดีอยู่แล้ว

แน่นอนว่าเมื่อพัฒนาเคียงข้างกันมากับซี-เอชอาร์ ทางเลือกของเครื่องยนต์นั้นก็เลยไม่ได้แตกต่างกัน โตโยต้ายังเลือกใช้เครื่องยต์เบนซินและเครื่องยนต์ไฮบริดที่ขึ้นชื่อเรื่องสมรรถนะที่โดดเด่น การตอบสนองที่ยอดเยี่ยม รวมถึงการประหยัดน้ำมันและการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมาใช้งาน

ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน มาพร้อมเครื่องยนต์ 2ZR-FBE แบบ 4 สูบแถวเรียง ปริมาตรกระบอกสูบ 1,798 ซีซี. ที่ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติซีวีที ส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้าลงสู่ถนน

รุ่นไฮบริดนั้นเป็นการผสานกำลังกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1,798 ซีซี. ที่ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร ให้กำลังรวม 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติอี-ซีวีที

อุปกรณ์และการออกแบบที่ใช้งานได้จริง

โครงสร้างตัวถังทีเอ็นจีเอมีข้อดีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความมั่นคงของรถจากโครงสร้างเหล็กที่แข็งแรง การตอบสนองของพวงมาลัยที่แม่นยำ จุดศูนย์ถ่วงตัวรถต่ำ ลดอาการโคลงของตัวรถ และยังออกแบบตัวรถให้เหมาะกับสรีระผู้ขับขี่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย ลดจุดอับสายตา

โตโยต้าได้ทำการติดตั้งระบบที-คอนเนคต์ ที่เชื่อมต่อการใช้งานระหว่างรถยนต์และผู้ขับขี่ โดยมีฟังชั่นส์ที่สำคัญ ได้แก่ การตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์ได้ตลอดเวลา พร้อมตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรมและประสานความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบด้านการให้บริการไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเข้าศูนย์บริการ พร้อมประสานงานนัดหมาย บริการแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อใกล้ถึงเวลาต่อทะเบียนรถประจำปี ประกันภัยจ่ายตามพฤติกรรมการขับขี่ รวมถึงบริการผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมดูแลตลอดการเดินทาง

ระบบความปลอดภัยครบครัน

ระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) ได้รับการติดตั้งมาในรุ่นท็อปของโคโรลล่า ครอส ประสานการทำงานของระบบความปลอดภัยก่อนการชน ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ พร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน และระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ เข้าด้วยกัน

นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังมีถุงลมนิรภัย SRS มาให้ถึง 7 ตำแหน่ง พร้อมด้วยระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในประเทศไทย พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยพื้นฐานต่าง ๆ มากมาย อาทิ ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง และระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ

ติดตั้งกล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกระทันหัน ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบควบคุมการทรงตัว และระบบป้องกันล้อล็อก ซึ่งทำให้รถคันนี้เป็นรถที่มีระบบด้านความปลอดภัยแบบครบครันที่สุดรุ่นหนึ่ง

โตโยต้านำเสนอ 2020 Toyota Corolla Cross ใน 4 รุ่นย่อย สีตัวถังภายนอก 7 สี ด้วยราคาจำหน่ายตั้งแต่ 9.89 แสนบาท - 1.199 ล้านบาท พร้อมข้อเสนอดอกเบี้ย 1.85% ฟรีประกันภัยชั้น 1 และขยายระยะเวลารับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือ 1.5 แสนกิโลเมต ฟรีค่าแรงเช็กระยะจนถึง 1 แสนกิโลเมตร โดยสามารถสัมผัสรถคันจริงได้ในงานมอเตอร์โชว์สัปดาห์หน้า

THE RIVAL - Honda HR-V ราคาจำหน่าย 9.49 แสน - 1.119 ล้านบาท

ฮอนด้า เอชอาร์-วี มาพร้อมขนาดตัวถังกว้างสุด 1,790 มิลลิเมตร ยาวสุด 4,346 มิลลิเมตร สูงสุด 1,605 มิลลิเมตรในรุ่นอาร์เอส พร้อมระยะฐานล้อยาว 2,610 มิลลิเมตร และมีความสูงใต้ท้องรถ 170 มิลลิเมตร

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว  ความจุ 1,799 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 172 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติซีวีที ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับแก๊สโซฮอล์ อี85

THE RIVAL - Nissan Kicks ราคาจำหน่าย 8.89 แสน - 1.049 ล้านบาท

นิสสัน คิกส์ มาพร้อมขนาดตัวถังกว้าง 1,760 มิลลิเมตร ยาว 4,290 มิลลิเมตร สูง 1,615 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อยาว 2,615 มิลลิเมตร และมีความสูงใต้ท้องรถ 175 มิลลิเมตร

เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1,198 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน ปั่นไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตรที่ 500-3,008 รอบต่อนาที

THE RIVAL - Mazda CX-30 ราคาจำหน่าย 9.89 แสน - 1.189 ล้านบาท

มาสด้า ซีเอ็กซ์-30 มาพร้อมขนาดตัวถังกว้าง 1,795 มิลลิเมตร ยาว 4,395 มิลลิเมตร สูง 1,540 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อยาว 2,655 มิลลิเมตร และมีความสูงใต้ท้องรถ 175 มิลลิเมตร

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1,998 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับแก๊สโซฮอล์ อี85

THE RIVAL - Subaru XV ราคาจำหน่าย 1.159 - 1.259 ล้านบาท

ซูบารุ เอ็กซ์วี มาพร้อมขนาดตัวถังกว้าง 1,800 มิลลิเมตร ยาว 4,465 มิลลิเมตร สูง 1,615 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อยาว 2,665 มิลลิเมตร และมีความสูงใต้ท้องรถ 220 มิลลิเมตร

เครื่องยนต์เบนซินบอกเซอร์ 4 สูบ ความจุ 1,995 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติลิเนียร์ทรอนิก ซีวีที มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

THE RIVAL - Toyota C-HR ราคาจำหน่าย 9.79 แสน - 1.159 ล้านบาท

โตโยต้า ซี-เอชอาร์ มาพร้อมขนาดตัวถังกว้าง 1,795 มิลลิเมตร ยาว 4,360 มิลลิเมตร สูง 1,565 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อยาว 2,640 มิลลิเมตร และมีความสูงใต้ท้องรถ 154 มิลลิเมตร

เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 140 แรงม้า 175 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติซีวีที ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับแก๊สโซฮอล์ อี85 และเครื่องยนต์ 1.8 ไฮบริด ที่มีกำลังรวม 122 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติอี-ซีวีที รองรับแก๊สโซฮอล์ อี20