All-New 2020 Nissan Ariya (2020 นิสสัน อารียะ) รถยนต์เอนกประสงค์พลังงานไฟฟ้าจากค่ายนิสสัน เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในตลาดโลก ด้วยภาพลักษณ์อันโฉบเฉี่ยว เน้นความไดนามิกของเส้นสายรอบตัวถัง และถือเป็นการเปิดตัวแนวทางในการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ของค่ายนิสสันอีกด้วย
รูปร่างหน้าตาของตัวรถนั้นพัฒนามาจากรถต้นแบบที่เปิดตัวก่อนหน้านี้แบบเหมือนกันเกือบ 100% พร้อมทางเลือกใหม่ของเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายถึง 4 รุ่นย่อย และมาพร้อมเครื่องยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่ให้ทั้งสมรรถนะและความสามารถในการขับขี่ทางไกลอย่างเหนือชั้น
นิสสัน อารียะจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในตลาดโลกตั้งแต่ช่วงปี 2564 เป็นต้นไป โดยจะเริ่มทำตลาดที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นที่แรกของโลก สำหรับสนนราคานั้น แม้จะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ทีมงานของนิสสันก็คาดการณ์ว่าราคาน่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 5 ล้านเยน (ประมาณ 1.48 ล้านบาท) เท่านั้น
ไฮไลท์สำหรับ 2020 Nissan Ariya
- รถรุ่นแรกที่มาพร้อมแนวทางการออกแบบใหม่
- การออกแบบภายในที่กว้างขวางน่าใช้งาน
- เครื่องยนต์สมรรถนะสูงสุด 389 แรงม้า
- รองรับการวิ่งระยะทางสูงสุด 610 กิโลเมตร
- ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ญี่ปุ่นประมาณ 1.5 ล้านบาท
การออกแบบภายนอกล้ำสมัย
อารียะมาพร้อมแนวคิดในการออกแบบรถยนต์ยุคใหม่ ที่เน้นความเรียบง่าย โฉบเฉี่ยวสะดุดสายตา และถือเป็นแนวทางในการออกแบบรถยนต์เอนกประสงค์ยุคถัดไปของนิสสันเสียด้วย และแน่นอนว่านี่คือรถยนต์รุ่นแรกที่ได้รับการติดตั้งโลโก้ใหม่ของนิสสัน ที่ออกแบบมาอย่างมินิมอล เน้นความเรียบง่ายเช่นกัน
ตัวรถถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ที่เป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับรถไฟฟ้ากับพันธมิตร มาพร้อมการออกแบบที่สุดขีดของจินตนาการ เพื่อให้ได้รถที่มาพร้อมความสวยงามที่เป็นหนึ่งเดียวกับฟังชั่นส์การใช้งานที่โดดเด่น ด้วยด้านหน้าของตัวรถที่ดูสง่างามในทุกชิ้นส่วนที่มาประกอบกัน
กระจังหน้าที่ออกแบบมาคล้ายโล่ห์ขนาดใหญ่สำหรับรถอีวียุคใหม่ ด้วยรูปทรงแบบสามมิติที่ฝังอยู่ในพื้นผิวเรียบมัน ซ่อนเซนเซอร์สำหรับระบบโปรไพลอต (ProPilot) และระบบกุญแจอัจฉริยะไว้ข้างใต้ ตรงกลางกระจังหน้าติดโลโก้แบบใหม่ที่ส่องแสงแวววาวด้วยหลอดไฟแอลอีดี 20 ดวง
กรอบโคมไฟแถบยาวที่ออกแบบอย่างสวยงามจะเรืองแสงเมื่อมีการใช้งานรถยนต์ โคมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ขนาดเล็ก 4 โคมวางเรียงกัน เป็นที่รวมของไฟส่องสว่างและไฟเลี้ยว ตัวรถออกแบบมาลู่ลม แต่ดูสปอร์ต ด้วยล้ออัลลอย 19 นิ้วเป็นมาตรฐานและเลือกเพิ่มเป็น 20 นิ้วได้ตามต้องการ
การออกแบบห้องโดยสารตอนหลังมีการทำเสาซีแบบลาดยาวไปที่ด้านท้าย ชุดโคมไฟทั้งหมดถูกซ่อนเอาไว้ในแถบโคมไฟขนาดใหญ่ ตัวที่นำมาจัดแสดงครั้งแรกเป็นสีทูโทน ทองแดง-ดำ และอารียะจะมีตัวถังสีทูโทนให้เลือก 9 สี พร้อมด้วยสีตัวถังแบบปกติ 5 สี ให้เลือกเมื่อวางจำหน่าย
ห้องโดยสารเรียบหรูเปี่ยมฟังชั่นส์
ห้องโดยสารภายในของอารียะได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพที่ผนวกกับความสบายอย่างสูงสุด ด้วยการออกแบบให้เหมือนกับนั่งอยู่ในคาเฟ่บนยานอวกาศ มากกว่าการนั่งอยู่ในห้องโดยสารของรถยนต์ทั่วไป ซึ่งก็รวมถึงห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในคลาสเช่นกัน
ด้วยขนาดของเครื่องยนต์ที่เล็กและมีจำนวนชิ้นขององค์ประกอบน้อยกว่า ทำให้ทีมวิศวกรของนิสสันสามารถจัดตำแหร่งของระบบควบคุมอากาศไว้ใต้ฝากระโปรงได้ ทำให้พวกเขาจัดการความยาวของห้องโดยสารได้โดยไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นระบบส่งกำลังหรืออะไรอื่น ๆ ที่มักต้องวางใต้แผงด้านหน้า
ห้องโดยสารแบบแบนราบ ทำให้สามารถวางตำแหน่งของแบตเตอรี่ที่ฐานแชสซี การจัดวางตำแหน่งเก้าอี้ที่เพิ่มพื้นที่วางขาและให้ความสะดวกในการสื่อสารระหว่างเก้าอี้ผู้โดยสาร เครื่องยนต์ที่เงียบและการติดตั้งวัสดุดูดซับเสียง ทำให้ได้ห้องโดยสารที่เงียบสงบเป็นพิเศษ เพื่อความผ่อนคลายอย่างเต็มที่
ระบบควบคุมอากาศทั้งหมดถูกฝังเอาไว้ที่แผงแดชบอร์ดด้านหน้าที่ทำจากไม้ แผงคอนโซลกลางสามารถปรับเลื่อนตำแหน่งได้เพื่อความเหมาะสมในการใช้งานของผู้ขับขี่ การจัดวางตำแหน่งวัสดุและการออกแบบทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างสะดวกและง่ายดายในโหมดการขับขี่ต่าง ๆ
ห้องโดยสารตอนหลังออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารสูงสุด พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่มากถึง 466 ลิตร สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อและ 408 ลิตร สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งถือเป็นงานออกแบบภายในห้องโดยสารที่เรียบหรู แต่ดูมีความโดดเด่นมากที่สุดอีกคันหนึ่งจากนิสสัน
เครื่องยนต์ 4 แบบ เลือกตามการใช้งาน
อารียะมาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลายแตกต่างกันไป 4 ระดับความแรง เริ่มต้นที่รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้า 215 แรงม้า (160 กิโลวัตต์) พร้อมแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่วิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 7.5 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลสุด 450 กิโลเมตร
รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ 239 แรงม้า (178 กิโลวัตต์) พร้อมแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่วิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 7.6 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลสุด 610 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นรุ่นที่สามารถวิ่งได้ไกลที่สุดต่อการชาร์จไฟเต็มที่
มาต่อกันที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นเล็ก มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าความแรง 335 แรงม้า (250 กิโดวัตต์) พร้อมแรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร สามารถวิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 5.4 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารวิ่งได้ไกลสุด 430 กิโลเมตร
ขณะที่รุ่นท็อปของอารียะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้า 389 แรงม้า (290 กิโดวัตต์) พร้อมแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร วิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 5.1 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลสุด 580 กิโลเมตร ถือว่าสมรรถนะไม่ธรรมดา
รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมระบบการชาร์จไฟแบบความเร็วสูง สามารถชาร์จไฟ 30 นาที เพื่อกลับมาวิ่งได้ 375 กิโลเมตร โดยทีมวิศวกรของนิสสันระบุว่ารถของพวกเขาไม่ได้มีดีแค่ความแรงเท่านั้น แต่ยังมีความเหมาะสมที่จะใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในเมืองหรือบุกป่าฝ่าดง ลุยหิมะ ก็ทำได้ดีไม่แพ้ใคร
ระบบเพื่อการขับขี่ที่หลากหลาย
นอกเหนือจากการติดตั้งโหมดการขับขี่หลากหลายรูปแบบ นิสสันยังมาพร้อมระบบโปรไพลอต 2.0 ที่ผสานการทำงานของกล้อง 7 ตัว ระบบเรดาห์และเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค 12 ตำแหน่งในการดูแล ควบคุมและบริหารจัดการรถเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่บนท้องถนนทุกแห่ง
ระบบแผนที่แบบ 3 มิติความละเอียดสูง มาพร้อมระบบตรวจสอบผู้ขับขี่ และระบบควบคุมความเร็วรถแบบอัตโนมัติ และยังช่วยเหลือผู้ขับขี่ด้วยระบบโปรไพลอค พาร์ค ระบบช่วยจอดรถแบบอัจฉริยะ ที่มีเฉพาะในตลาดประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น สามารถจอดรถได้อย่างง่ายดายเพียง 3 ขั้นตอน
อารียะยังมาพร้อมระบบนวัตกรรมด้านความปลอดภัย 360 องศาของนิสสัน เซฟตี้ ชิลด์ ที่เป็นการทำงานร่วมกันของจอแสดงภาพรอบคัน ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ และระบบช่วยเบรกด้านหลังอัตโนมัติ มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถรุ่นใหม่คันนี้ในทุกรุ่นย่อย
นิสสันเตรียมผลิตและวางจำหน่าย 2020 Nissan Ariya ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นแห่งแรกในช่วงกลางปี 2564 และยังไม่ได้มีการเปิดเผยวาจะทำตลาดที่ใดอีกบ้าง สำหรับประเทศไทยนั้น อาจจะเป็นการยากเหมือนกันที่จะได้เห็นรถคันนี้มาทำตลาด แต่หากรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่านี้ ก็ไม่แน่เหมือนกันนะ