หลังตจากเซ็นสัญญาจับมือร่วมกันระหว่างเจ้าพ่อรถปิกอัพอย่างอีซูซุ (Isuzu) และมาสด้า (Mazda) ในการพัฒนารถยนต์ปิกอัพ 1 ตันร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2016 จนกระทั่งการเปิดตัวของ All-New 2019 Isuzu D-Max ผ่านไป ทุกคนก็ยังไม่มีใครได้เห็นหน้าค่าตาของรถปิกอัพรุ่นใหม่จากมาสด้าอยู่ดี
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา มาสด้า คอร์ปอเรชั่น ได้เลือกประเทศออสเตรเลียเป็นสถานที่เผยโฉม All-New 2020 Mazda BT-50 อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก โดยเป็นการเปิดตัวรุ่นท็อปอย่างดับเบิลแค็บ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
กำหนดการเปิดตัวอย่างจริงจังและการวางขาย คาดการณ์กันว่าน่าจะเริ่มกันในช่วงปลายปี 2020 นี้ โดยน่าจะกลับมาเปิดตัวอีกครั้งอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ที่จะเป็นฐานการผลิตและการส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก โดยมีการย้ายโรงงานผลิตจากออโต้อัลลายแอนซ์มาไว้ที่โรงงานของตรีเพชรอีซูซุแทน
ดูจากหน้าตาที่ปรับมาใหม่ด้วยเอกลักษณ์ของมาสด้าแล้ว เมื่อได้ความน่าใช้งานของรถแบบอีซูซุเข้าไปเสริม คิดว่ารถคันนี้น่าจะเป็นผู้เล่นหลักในอนาคต ของตลาดรถปิกอัพในประเทศไทยแน่นอน
โครงสร้างและช่วงล่างที่พัฒนามาใหม่
มาสด้าระบุว่าแม้จะเป็นรถยนต์ที่พัฒนาร่วมกันกับอีซูซุ แต่พวกเขาก็ได้ใส่ความเป็นแบรนด์มาสด้า ที่เน้นความสนุกสนานในการขับขี่ และการออกแบบที่โดดเด่นเข้าไปในรถอย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้าของมาสด้ามั่นใจได้ว่าจะได้สัมผัสกับความเป็นมาสด้าในรถคันนี้อย่างเต็มรูปแบบ
พวกเขาได้ทำการพัฒนาโครงสร้างตัวถังและแชสซีส์ใหม่ทั้งหมด และเรียกว่าไดนามิก ไดร์ฟ แพลตฟอร์ม (Dynamic Drive Platform) มาพรอ้มโครงสร้างตัวถังเสริมเหล็ก ที่ให้ความแข็งแกร่งและทนทานกว่าโครงสร้างตัวถังแบบเหล็กธรรมดา
แชสซีส์ใหม่มีขนาดใหญ่และรองรับแรงบิดเพิ่มขึ้น 23% เพิ่มคานตัขวางเสริมความแกร่ง ช่วงล่างหน้าใหม่แบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง ช่วงล่างหลังเป็นแหนบยาวแบบ LONG SPAN โดยตัวรถออกแบบให้สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มิลลิเมตร
โคโดะดีไซน์ในรถปิกอัพครั้งแรก
ผู้บริหารของมาสด้ามักจะต้องตอบคำถามเสมอถึงเรื่องของการพัฒนารถปิกอัพด้วยการออกแบบโคโดะอันลือชื่อ และในครั้งนี้พวกเขาก็ทำสำเร็จ เมื่อสามารถพัฒนารถกระบะให้มีหน้าตาที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ในแบบของมาสด้าได้เสียที
การออกแบบด้านหน้าเหมือนยกเอารถยนต์นั่งหลาย ๆ รุ่นมาขยายออกในแนวกว้าง กรอบไฟหน้าทรงเรียวบาง รับกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ ล้อมกรอบด้วยโครเมียมในรุ่นท็อป เส้นสายของตัวถังเน้นความแข็งแกร่งบึกบึน แต่แฝงไว้ด้วยความหรูหราแบบลงตัว
สีที่เปิดตัวเป็นสีพิเศษโทนสีน้ำเงินที่มาสด้าเรียกว่าสี Gun Blue กระจังมองข้างแบบโครเมียม ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วสีทูโทนดำสลับโครเมียม ด้านหลังออกแบบอย่างเรียบง่าย ไฟท้ายแนวตั้ง มาพร้อมกับไฟเบรกดวงที่ 3 ด้านบนหลังคาตัวรถ
ห้องโดยสารเน้นหรู ชูอุปกรณ์เยอะ
ไม่ใช่แค่ภายนอกที่เปลี่ยนไปมาก แต่ภายในห้องโดยสารนั้นก็ได้รับอิทธิพลงานออกแบบของมาสด้ามาด้วยเช่นกัน ด้วยห้องโดยสารโทรขรึม ที่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน โดยโทนสีหลักจะเป็นสีน้ำตาลตัดกับโครเมียมและสีดำตามตำแหน่งต่าง ๆ
พวงมาลัยมัลติฟังชั่นส์ออกแบบอย่างสวยงามลงตัว ตกแต่งด้วยแถบโครเมียม พร้อมปุ่มควบคุมระบบต่าง ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถยนต์นั่ง ภายในห้องโดยสารบุด้วยวัสดุนุ่ม หนัง สลับกับชิ้นส่วนสีเมทัลลิก ให้ความรู้สึกหรูหราเต็มพิกัด
แนวคิดการออกแบบโดยเน้นไปที่ตัวผู้ใช้งานนำมาใช้ เห็นได้จากบรรดาอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ หน้าจอขนาดใหญ่ทำหน้าที่ในการควบคุมระบบต่าง ๆ ช่องแอร์ทรงสีเหลี่ยมมาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมสวิตช์ที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย
เครื่องยนต์ขอยืมมาจากอีซูซุ
แน่นอนว่าเมื่อพัฒนาร่วมกับอีซูซุ เครื่องยนต์ก็จำเป็นต้องใช้ของเขาเช่นกัน โดยรุ่นท๊อปที่เปิดตัวนั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
และก็คาดว่าเมื่อเปิดตัวจริง จะมาพร้อมเครื่องยนต์อีกรุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1.9 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 ต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที โดยจะมีเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะและอัตโนมัติ 6 จังหวะให้เลือกทั้ง 2 เครื่องยนต์
บีที-50 รุ่นท็อป มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ได้รับมาจากอีซูซุทั้งหมด แถมเพิ่มระบบช่วยเหลือการขับขี่เข้าไปมากมาย เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบเบรกอัตโนมัติ ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทาง ระบบเตือนจุดอับสายตาและระบบเตือนการชนด้านหลังเมื่อถอย
รายละเอียดทางเทคนิค All-New Mazda BT-50 Double Cab 3.0 4x4 |
มิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) (มิลลิเมตร) |
1,870x5,280x1,790 |
ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร) |
3,125 |
เครื่องยนต์ |
4JJ3-TCX |
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) |
2,999 |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
150/3,600 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) |
450/1,600-2,600 |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ 6 จังหวะ |
ระบบขับเคลื่อน |
ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
ช่วงล่างด้านหน้า |
อิสระปีกนกสองชั้น พร้อมคอยล์สปริง |
ช่วงล่างด้านหลัง |
แหนบยาวแบบ LONG SPAN |
ล้ออัลลอย (นิ้ว) |
18 พร้อมยาง 265/60 R18 |
ลุยน้ำได้สูงสุด (มิลลิเมตร) |
800 |
เปิดตัวพร้อมจำหน่ายก่อนสิ้นปีนี้
การตัดสัมพันธ์กับฟอร์ด (Ford) ทำให้มาสด้าเองต้องทนขายบีที-50 รุ่นเดิมของพวกเขามาอย่างยาวนาน และกว่าจะได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่นั้น ก็จะต้องรอให้พันธมิตรใหม่อย่างอีซูซุเปิดตัวดีแมคซ์ให้เรียบร้อยเสียก่อน ทำให้พวกเขาต้องปรับกำหนดการไปเปิดตัวกันในช่วงปลายปี 2020
ไม่ใช่แค่พันธมิตรที่เปลี่ยนไป แต่โรงงานผลิตของรถกระบะรุ่นใหม่จากมาสด้าก็ต้องเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน โดยโรงงานของอีซูซุที่สำโรง จะกลายเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก All-New 2020 Mazda BT-50 ออกไปจำหน่ายทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในออสเตรเลียที่เพิ่งเปิดตัวไปก็เช่นกัน
มาสด้านั้น ตั้งเป้าหมายค่อนข้างสูงกับการเปิดตัวบีที-50 รุ่นนี้ ด้วยพันธมิตรรายใหม่อย่างอีซูซุที่มีชื่อเสียงและฐานลูกค้าจำนวนมากในประเทศไทย ประกอบกับความเป็นมาสด้าที่มีภาพลักษณ์ของสินค้าที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็ต้องมาดูว่าหลังการเปิดตัวปลายปีนี้ พวกเขาจะทำได้ดีอย่างที่คาดหวังหรือไม่