Mitsubishi i-MiEV (มิตซูบิชิ ไอ-มีฟ) รถยนต์นั่งไฟฟ้าที่ทำการผลิตเพื่อจำหน่ายในวงกว้างรุ่นแรกของโลก เตรียมที่จะปิดฉากตัวเองอย่างเป็นทางการ เมื่อมีรายงานข่าวว่า Mitsubishi Motors Corporation (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น) ประกาศยุติสายการผลิตรถรุ่นนี้
แผนการยุติการผลิตจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีธุรกิจ 2654 ตามการรายงานของนิกเกอิ เอเชีย ที่สัมภาษณ์ผู้บริหารของมิตซูบิชิแบบไม่เปิดเผยที่มาของแหล่งข่าว โดยระบุว่าสาเหตุของการยุติการผลิตนั้น เป็นผลมาจากยอดจำหน่ายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในหลายตลาด
รวมไปถึงการขาดความสามารถในการแข่งขันเมื่อเทียบกับคู่แข่งในเรื่องของการพัฒนาสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปลักษณ์ของรถ หรือการพัฒนาระยะการขับขี่ให้เพิ่มขึ้นในรถรุ่นใหม่ ซึ่งทำให้ไอ-มีฟนั้น ไม่สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นได้ และต้องปิดตัวในท้ายที่สุด
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ไอ-มีฟ มันดูแย่ขนาดนั้นเลยหรือ
หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2552 พร้อมความตื่นเต้นในการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตเพื่อจำหน่ายแบบแมสรุ่นแรกของโลก มิตซูบิชิ ไอ-มีฟ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฟฟ้า มอเตอร์เดี่ยว ที่ส่งกำลังไปที่ล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 63 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 16 กิโลวัตต์ชั่วโมง พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติจังหวะเดียว ที่ให้ระยะการขับเคลื่อนต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งที่ 160 กิโลเมตรเท่านั้น และนี่คือปัญหา เพราะมิตซูบิชิไม่ได้ทำการอัพเกรดใดใดให้กับรถไฟฟ้าของพวกเขาเลยนับตั้งแต่เปิดขายในช่วงนั้น
มองไปที่คู่แข่งอย่าง Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ) ที่เปิดตัวในช่วงปี 2553 แต่ก็มีระยะทางวิ่งที่มากกว่าที่ 200 กว่ากิโลเมตร และอัพเกรดทั้งหน้าตาและระยะทางวิ่งไปมากกว่า 400 กิโลเมตรในปัจจุบัน หรือหากมองไปที่ยืนหนึ่งรถไฟฟ้าอย่าง Tesla (เทสล่า) ก็วิ่งได้ไกลกว่าเช่นกัน
ยอดขายก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกัน
ไม่ใช่แค่เรื่องสเปกรถที่เป็นรองคู่แข่งอย่างออกนอกหน้า ไอ-มีฟนั้นถือเป็นสินค้าที่มียอดจำหน่ายน้อยมากเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าของคู่แข่ง ตลอดระยะเวลาในการทำตลาดนานนับทศวรรษในมากกว่า 50 ประเทศ มีรายงานว่าพวกเขามียอดขายรถรุ่นนี้ไป 3.2 หมื่นคันเท่านั้น
มองไปที่คู่แข่งตัวหลังอย่างนิสสัน ลีฟเล่า พวกเขามียอดขายมากกว่า 5 แสนคัน นับตั้งแต่การเปิดตัว หรือแม้แต่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ของคู่แข่งอย่างเทสล่าก็มียอดจองที่มหาศาลกว่า เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกที่หากผู้บริหารของมิตซูบิชิจะถอดใจกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้
"เราไม่มีเงินเหลือพอหรือแม้แต่บุคลากรในการเดินหน้าลงทุนพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทอีกต่อไปแล้ว" ผู้บริหารรายหนึ่งของมิตซูบิชิกล่าวกับนิกเกอิ และทำให้หลาย ๆ คนที่เฝ้ารอว่าค่ายทรีไดมอนต์จะฮึดสู้กับค่ายรถอื่น ๆ ในตลาดนี้หรือไม่ ก็คงไม่ต้องรอกันอีกต่อไป
เดินหน้าปลั๊กอินไฮบริด พัฒนารถไฟฟ้าร่วมพันธมิตร
แต่ก็ไม่ใช่ว่ามิตซูบิชิจะยอมถอดใจกับตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปแต่อย่างใด เพราะพวกเขานั้นมีการทำตลาดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอย่าง Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) ที่แม้จะเริ่มชะลอตัวตามแผนการลดบทบาทในตลาดยุโรปลงตามแผนงาน
แต่รถรุ่นนี้กำลังจะเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน โดยคาดการณ์กันว่าจะเปิดตัวด้วยราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น และแน่นอนว่ารถรุ่นนี้จะเป็นหัวหอกสำคัญในการทำตลาดหลายประเทศ เมื่อมีการเปิดสายการผลิตเพื่อส่งออกจากประเทศไทยในอนาคตอันใกล้
ขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้านั้น พวกเขาก็ไม่ได้ละทิ้งไปทั้งหมดแต่อย่างใด เพราะมีรายงานว่าพวกเขาจะจับมือกับพันธมิตรอย่างนิสสัน ในการเดินหน้าพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเร็วที่สุดก็ปี 2546 เป็นต้นไป ใครที่สนใจก็เก็บเงินรอกันตั้งแต่ตอนนี้ได้เลย
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });