แม้จะเปิดตัวมาได้สักระยะ แต่ 2019 Ford Ranger Double Cab 2.0 Bi-Turbo Wildtrak กระบะสุดโหดรุ่นท๊อปจากค่ายฟอร์ด (Ford) กระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง ก็ยังเป็นรองก็เพียงแค่ตัวแต่งสุดโหดอย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ (Ford Ranger Raptor) เท่านั้น ในเรื่องของราคาและสมรรถนะ

 ด้วยสนนราคาค่าตัวระดับ 1.265 ล้านบาท ทำให้รถกระบะรุ่นนี้กลายเป็นรถกระบะที่แพงที่สุดในประเทศไทยไม่นับรุ่นตกแต่งพิเศษ ซึ่งเป็นการรักษากลุ่มตลาดลูกค้าระดับพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ฟอร์ดเปิดตัวรถกระบะราคามากกว่า 1 ล้านบาทเป็นครั้งแรกของประเทศไทย

แน่นอนว่ากลุ่มลูกค้ารถกระบะระดับพรีเมียมกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีผู้สนใจเข้ามาร่วมในตลาดรถกระบะราคาแพงกว่า 1 ล้านบาทเพิ่มมากขึ้น และนี่คือเรื่องที่น่าสนใจหากคุณจะตัดสินใจเลือกเป็นเจ้าของฟอร์ด เรนเจอร์ ดับเบิลแค็บ ไวล์ดแทร็คกับเขาสักคัน

1.รถกระบะรุ่นมาตรฐานที่แพงที่สุดในประเทศไทย

แน่นอนว่าฟอร์ดคือผู้ผลิตรถกระบะรายแรกของประเทศไทยที่ตั้งราคารถรุ่นมาตรฐานตัวท๊อปของพวกเขาเอาไว้แพงกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งก็ต้องนับย้อนไปถึงการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทร็ค รุ่นแรกที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร กับค่าตัว 1.099 ล้านบาทเลยทีเดียว

เมื่อได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี เนื่องจากการประเมินว่าตลาดปิกอัพที่ดีและไม่ต้องไปเสียเวลาแต่งเพิ่มนั้นมีความต้องการอยู่มากในระดับหนึ่ง ฟอร์ดเดินหน้าอัดอุปกรณ์เพิ่มให้กับเรนเจอร์ทุกรุ่นอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าหากเปรียบเทียบตัวต่อตัว รถของฟอร์ดจะแพงกว่า แต่ของเล่นก็เยอะกว่าเช่นเดียวกัน

และรุ่น 4 ประตู ตัวท๊อปที่เรากำลังกล่าวถึง ก็มาพร้อมค่าตัวระดับ 1.265 ล้านบาท ปรับเพิ่มมาจากรุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตรตัวท๊อปก่อนหน้าอีก 6.6 หมื่นบาท รักษาการเป็นรถปิกอัพรุ่นมาตรฐานที่ราคาจำหน่ายแพงที่สุดของประเทศไทยเอาไว้ได้ต่อไป

2.เจ้าตลาดรถปิกอัพระดับพรีเมียม

มีคำถามว่าเมื่อฟอร์ดตั้งราคารถรุ่นท๊อปของพวกเขาแพงขนาดนี้แล้ว และคู่แข่งทุกรายต่างก็พยายามปรับปรุงและพัฒนารถที่ระดับราคาใกล้เคียงกันขึ้นมา มันส่งผลกระทบต่อการทำตลาดของเรนเจอร์ ไวล์ดแทร็คหรือไม่ ก็คงต้องกลับไปดูที่ยอดจำหน่ายของรถปิกอัพราคามากกว่า 1 ล้านบาท

แน่นอนว่าฟอร์ด เรนเจอร์ ที่มีรถในกลุ่มราคาเกินกว่า 1 ล้านบาท จำนวน 3 รุ่น มียอดจำหน่ายเหนือกว่ารถกระบะในระดับราคาเดียวกันของคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด โดยฟอร์ดเคยระบุว่า รถปิกอัพกลุ่มนี้ทำยอดขายให้กับฟอร์ดมากกว่า 20% ของยอดจำหน่ายกระบะของฟอร์ดเลยทีเดียว

นอกจากรูปร่างหน้าตาที่ดุดัน ชุดแต่งที่ให้มาครบครันแบบไม่ต้องไปแต่งอะไรเพิ่มเติม เครื่องยนต์สมรรถนะสูง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เต็มพิกัด ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทร็ค คือไอคอนของวงการรถปิกอัพแต่งจากผู้ผลิต ที่ใครที่อยากจะเข้ามาในตลาดนี้ จะต้องหวังท้าชิงตลาดกันให้ได้สักตั้ง

3.เครื่องยนต์เทอร์โบคู่สมรรถนะสูงสุดของตลาด

ฟอร์ดเลือกใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่อย่างเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ 10 สปีด มาแทนการใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดในรุ่นก่อนหน้า

แม้จะลดเครื่องยนต์ลงมาพร้อมเพิ่มสมรรถนะด้วยเทอร์โบ แต่ตัวเลขทางเทคนิคที่ได้ก็ยังเหนือกว่ารุ่นเดิมและคู่แข่งในท้องตลาด ด้วยตัวเลขพละกำลัง 213 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุดระดับ 500 นิวตันเมตรที่รอบต่ำตั้งแต่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที

ถ้าถามว่าฟอร์ดเองมั่นใจกับเครื่องยนต์รุ่นนี้ขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าฟอร์ดใช้เครื่องยนต์และชุดเกียร์นี้กับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พี่ใหญ่แห่งวงการปิกอัพเจ้าของค่าตัว 1.699 ล้านบาท และทำการปรับแต่งแต่ช่วงล่างและชุดแต่งของรถเท่านั้น แสดงว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้นั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

4.อุปกรณ์ภายในที่ครบครันและใช้งานสะดวก

ไม่ใช่และรูปร่างหน้าตาและสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่โดดเด่น แต่ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นท๊อปนี้ ยังมาพร้อมอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่เหนือชั้น เรียกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งก็ไม่มีทางที่จะมีใครเอาชนะได้ง่าย ๆ เพราะฟอร์ดเองเลือกใช้อุปกรณ์เหล่านี้มาในเรนเจอร์แล้วหลายรุ่น

ไฟหน้าแอลอีดีแบบโปรเจกเตอร์ ไฟวิ่งกลางวันแบบแอลอีดี ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กุญแจรีโมทพร้อมปุ่มสตาร์ทรถ ที่ทำความเย็นในกล่องคอนโซล หน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ 4.2 นิ้ว จำนวน 2 จอ เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน

ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ ระบบช่วยจอด ระบบเตือนการชนด้านหน้า พร้อมระบบช่วยเบรกที่มาพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน รวมถึงระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง เรียกได้ว่าซื้อรถกระบะคันนี้ไป ได้ระบบที่มากกว่าระบบในรถหรูหราที่ราคาแพงกว่านี้เสียอีก

5.การให้บริการด้วยแพคเกจที่เหนือชั้น

แม้ว่าฟอร์ดในประเทศไทยจะมีปัญหาในเรื่องของการให้บริการลูกค้ามากพอสมควร แต่กับรถกระบะแล้ว พวกเขาถือว่ามีรูปแบบการให้บริการที่โดดเด่น และมีเสียงต่อว่าจากลูกค้ากลุ่มนี้น้อยมาก หากเทียบกับสินค้าประเภทอื่น ๆ ในค่าย

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ฟอร์ดนั้นมีแพคเกจการให้บริการที่หลากหลายสำหรับรถกระบะ โดยเฉพาะแพคเกจการให้บริการที่รวบรวมค่าใช้จ่ายเอาไว้อย่างเห็นได้ชัดเจน ลูกค้าสามารถชำระเงินเพียงครั้งเดียว แล้วนำรถเข้าศูนย์บริการได้อย่างสบายใจไร้กังวล

การให้บริการผ่านระบบออนไลน์สำหรับการให้บริการนั้นถือว่าไร้ที่ติ หากคุณต้องการเปลี่ยนศูนย์บริการก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย และศูนย์บริการของฟอร์ดเองนั้น ก็ไม่ได้หนาแน่นขนาดต้องจองคิวกันยาวนาน เรื่องแบบนี้มีแต่ลูกค้าฟอร์ดเท่านั้นล่ะ ที่มีประสบการณ์โดยตรง