แฟน ๆ กระบะ Toyota (โตโยต้า) เตรียมเงินในกระเป๋าให้ดี สื่อจากญี่ปุ่นรายงานว่า 2022 Toyota Hilux GR Sport (โตโยต้า ไฮลักซ์ จีอาร์ สปอร์ต) ชุดแต่งพันธ์แรงจากโตโยต้ากำลังจะออกมาให้เห็นกันได้เดือนตุลาคมนี้ หลังวางขายไปแล้วในบราซิล
ซึ่งตัวนี้จะเป็น "Global Releae" หรือจำหน่ายทั่วโลก จึงอาจได้เห็นในไทยแน่นอน ว่ากันว่าจะมาแทนที่ Revo Rocco เดิม จูนช่วงล่างเพื่อเน้นการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ จูนโดยแผนก Gazoo Racing
สิ่งที่เพิ่มเข้ามา
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในชุดแต่ง GR Sport นี้ โดยหลักคือกระจังหน้าแบบใหม่พร้อมสัญลักษณ์ TOYOTA ขนาใหญ่ ให้ความดุดันและเรโทร ยังมีกระจังหน้าและกรอบไฟตัดหมอกใหม่ รวมถึงหุ้มกระจกมองข้างด้วยสีดำ
นอกจากนี้ เบรกและคาลิปเปอร์ยังเป็นของ GR Sport โดยเฉพาะ และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้วใส่ยางขนาด 265 / 60R18
ภายในของ Hilux GR Sport ได้เบาะปรับไฟฟ้า ตกแต่งด้วยสีแดง-เงิน, แพดเดิลชิฟท์, ปุ่ม Push Start ตรา GR, เกียร์ เบรกมือ แป้นเหยียบได้รับการตกแต่งพิเศษเช่นกัน
เครื่องยนต์เหมือนเดิม
สำหรับเครื่องยนต์ยังใช้เป็นแบบเดิมอยู่คือเครื่อง 2.8 ลิตรเทอร์โบ กำลังสูดสุด 204 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร แต่จะได้รับการจูนช่วงล่างแบบใหม่ ที่เหมาะกับการออฟโร้ด แต่ก็ยังสะดวกสบายบนถนน
แต่สำหรับใครที่อยากได้เครื่องแรงกว่านี้ ก็อาจจะต้องอดใจรอ Toyota GR Hilux ตัวแรงที่อาจออกมาในปี 2023 โดยจะได้รับเครื่องยนต์เดียวกับ Toyota LandCruiser ซึ่งเป็นเครื่อง V6 3.3 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลัง 300 แรงม้าและแรงบิด 700 นิวตันเมตร
สู้เอกซ์ซีรียส์ได้ไหม
ซึ่งคู่แข่งตัวแต่งของกระบะก็มีมากมาย ที่โดดเด่นที่สุดคือ Isuzu D-Max X-Series (อีซูซุ ดีแมกซ์ เอกซ์ซีรียส์) ที่มีให้เลือกทั้งชุด Speed และ Hi-Lander ของทั้ง 2 ตัวถังแคปและ 4 ประตู
ซึ่งจะต้องเทียบกับรุ่น Hi-Lander 4 ประตู ที่ได้กระจังหน้าสีดำ Glossy Black สัญลักษณ์ ISUZU สีแดง สเกิร์ตหน้า ตกแต่งด้วยขอบสีเงิน สติ๊กเกอร์ หน้า-หลังสีเงิน สัญลักษณ์ X สีแดงด้านข้างตัวรถ
มาพร้อมบันไดข้าง สปอร์ตบาร์ สีเดียวกับตัวรถ ล้ออัลลอย สีดำ Glossy Black พร้อมโลโก้สีแดง ขนาด 18 นิ้ว
แผงประตูตกแต่ง สีดำ Piano Black เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ เดินตะเข็บด้ายสีแดง พร้อมปักสัญลักษณ์ X พวงมาลัยหุ้มหนัง เดินตะเข็บด้ายสีแดง ถุงเกียร์-เบรกมือ หุ้มหนัง เดินตะเข็บด้ายสีแดง หุ้มด้วยหนัง เดินตะเข็บด้ายสีแดง
ใช้เครื่องยนต์ ดีเซล 1.9 ลิตร Turbo 4 สูบ และ Intercooler กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที และไฮ-แลนเดอร์มีทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
ซึ่งถ้าเข้าไทยก็ต้องบอกว่าขายได้แน่นอน สิ่งที่ผมเองชอบที่สุดคือกระจังหน้าพร้อมคำว่า TOYOTA ที่ทำให้รถดูย้อนยุค แต่ก็ยังมีความใหม่ ก่อนเปลี่ยนเป็นโลโก้สามห่วงที่เราเห็นในปัจจุบัน
แต่ก็ต้องรอดูราคาด้วยว่าจะทำตลาดที่เท่าไร ถ้าจะมาแทนที่ Revo Rocco จริงก็อาจจะแตะล้านนิด ๆ ก็ได้ครับ