คำว่า German engineering หรือวิศวกรรมเยอรมันสร้างชื่อเสียงยาวนานหลายทศวรรษ แต่ที่น่าจับตามองก็คือวิศวกรรมจีนที่กำลังมาแรงแซงโค้ง
ล่าสุด Nio (นีโอ) ประกาศว่า ET7 (นีโอ อีที7) รถซีดานระดับแฟล็กชิพสัญชาติจีนมาพร้อมค่าแรงเสียดทานอากาศหรือ Cd ต่ำเพียง 0.208 เท่านั้น ซึ่งถือว่ามีความลู่ลมอย่างมากและใกล้เคียงกับคู่แข่งระดับพรีเมียมในระดับเดียวกัน
หากเทียบกันให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น Mercedes-Benz EQS (เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวเอส) มีค่า Cd อยู่ที่ 0.200 และ Tesla Model S (เทสล่า โมเดล เอส) มีค่า Cd อยู่ที่ 0.208
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างเข้มข้น
Nio เคยคาดการณ์ไว้ว่าค่าแรงเสียดทานอากาศของ ET7 จะอยู่ที่ 0.23 แต่ด้วยการพัฒนาตัวรถด้วยเทคโนโลยีพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ (CFD) มากกว่า 800 รูปแบบ และการทดสอบในอุโมงค์ลมนานกว่า 120 ชั่วโมง จึงสามารถยกระดับความลู่ลมได้เทียบเท่ายนตรกรรมระดับเวิลด์คลาส
“Nio มีทีมงานฝ่ายแอโรไดนามิกโดยเฉพาะซึ่งทำงานร่วมกับฝ่ายออกแบบและฝ่ายวิศวกรรมอย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่เริ่มต้น” Nio ระบุ “ET7 มีมุมองศาการลาดเอียงที่ยอดเยี่ยมเชื่อมต่อไปจนถึงแนวหลังคาและสปอยเลอร์หลังที่ทำให้ตัวรถแหวกอากาศได้ดี”
ขณะเดียวกัน การออกแบบเลย์เอาท์เซ็นเซอร์ Watchtower บนหลังคายังมีมุมมองที่เหมาะสมเพื่อการทำงานของ LiDAR ความละเอียดสูงและกล้อง 8 เมกะพิกเซล แต่กระนั้น ทีมนักออกแบบก็ต้องทำให้ทุกองค์ประกอบเข้ากันอย่างลงตัว
นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นปิดกระจัง active grill shutter (AGS) ช่วงล่างถุงลม และแผงปิดใต้ท้องรถที่ทำจากวัสดุน้ำหนักเบายังช่วยเพิ่มความแอโรให้แก่ตัวรถ สมบูรณ์แบบทั้งความสวยงามและความลู่ลม
Nio คาดการณ์ไว้ว่าการสร้างรถที่อากาศสามารถไหลผ่านตัวถังได้ดีบวกกับการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 150 กิโลวัตต์จะทำให้ตัวรถสามารถโลดแล่นได้ไกลกว่า 1,000 กม.ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC เหนือกว่ารถยนต์ไฟฟ้าเกือบทุกรุ่นในตลาดเวลานี้
ด้วยการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่งของ ET7 ยังโหดเหี้ยมสไตล์รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม พุ่งทะยานออกตัวจาก 0-100 กม.ต่อชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาทีเท่านั้น ส่วนการเบรกจาก 100-0 กม.ต่อชม. อยู่ที่ 33.5 เมตร
นอกจากนี้ Nio ยังทำการทดสอบระบบการจัดการความร้อนของ ET7 ในเมืองซินเจียงและฉงชิ่งของจีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าระบบขับเคลื่อนรองรับการใช้งานได้อย่างมีเสถียรภาพในทุกสภาพอากาศ หลังจากก่อนหน้านี้ พวกเขาทำการทดสอบในอากาศหนาวจัดที่ประเทศนิวซีแลนด์ไปแล้ว
Nio ET7 จะเปิดตัวออกทำตลาดจีนภายในไตรมาสแรกของปีหน้า ก่อนลุยตลาดยุโรปในช่วงครึ่งหลังของปรีเดียวกัน ราคาจำหน่ายจะได้รับการประกาศอีกครั้ง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });