Ford (ฟอร์ด) ประกาศเตรียมพร้อมเปิดตัว 2022 Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ในประเทศไทยปีหน้า แม้ยอดขายรุ่นปัจจุบันยังเติบโตกินส่วนแบ่งตลาด 8% ในช่วงที่ผ่านมา ครองอันดับ 3 ในตลาดปิกอัพ ออกแพคเกจใหม่เอาใจลูกค้า ประเมินตลาดปีนี้ 7.5 แสนคัน
วิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า ฟอร์ดมีความพร้อมที่จะเปิดตัวรถปิกอัพรุ่นใหม่อย่างฟอร์ด เรนเจอร์ ในช่วงปี 2565 ในช่วงไตรมาส 1-2 ซึ่งฟอร์ดคาดหวังว่าจะทำให้มียอดจำหน่ายในตลาดปิกอัพเติบโตแบบก้าวกระโดด
อย่างไรก็ตาม ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นปัจจุบันก็มียอดจำหน่ายที่ดีอยู่ เห็นได้จากการจำหน่ายไปถึง 17,374 คัน เติบโต 30% ทำให้ฟอร์ดมีส่วนแบ่งตลาดปิกอัพเพิ่มเป็น 8% รักษาผู้นำตลาดอันดับ 3 เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง และจะพยายามรักษาส่วนแบ่งนี้เอาไว้ให้ได้ทั้งปี
"เป้าหมายเราสำหรับเรนเจอร์ก็คือการรักษาสัดส่วนของเราเอาไว้ตลอดปีนี้ให้ได้ ซึ่งเราก็ต้องบริหารจัดการสินค้ารุ่นปัจจุบันให้เหมาะสมกับสินค้าใหม่ที่จะเข้าเปิดตัว ซึ่งจากวีดีโอทีเซอร์ที่ปล่อยกันออกมา ก็พอจะเห็นกันแล้วว่าฟอร์ดพร้อมที่จะเปิดตัวรถใหม่เต็มที่"
ในส่วนของ Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) นั้น ในปีนี้ ฟอร์ดมีส่วนแบ่งตลาดที่ลดลงจากการที่ตลาดเติบโตมาเพราะการเปิดตัวสินค้าใหม่ของคู่แข่ง ทำให้ฟอร์ดมียอดขาย 3,055 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9% ซึ่งจะต้องพยายามรักษายอดขายและส่วนแบ่งเอาไว้ให้ได้ปีนี้
ชี้ตลาดรวม 7.5 แสนคัน พร้อมอัดแคมเปญบริการมัดใจลูกค้า
สำหรับภาพรวมของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปีนี้ จะพบว่ามีการผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจอย่างมาก โดยในเดือนสิงหาคมตลาดรถยนต์หดตัวเหลื 4 หมื่นคันทำให้ตลาด 8 เดือนแรกอยู่ที่ 4.67 แสนคัน แต่ในเดือนกันยายนกลับมาอยู่ที่ระดับ 5 หมื่นคันอีกครั้ง
ทั้งนี้ หากมองภาพรวมของยอดจำหน่ายรถยนต์ในไตรมาส 4 พบว่าอาจจะมียอดขายรวมระดับ 2 แสนคัน ซึ่งจะทำให้ตลาดรถยนต์รวมในปีนี้ อาจจะไปปิดได้ที่ 7.5 แสนคัน แต่ทั้งนี้ ต้องไม่มีปัจจัยลบมากระทบเพิ่ม เช่น การเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 5 เป็นต้น
"สิ่งที่เรามองมาโดยตลอดในฐานะฟอร์ด ก็คือเราจะเติบโตในทุกเซกเมนต์ของตลาดได้อย่างไร ทำให้เราเปิดตัวสินค้าใหม่ในทุกกลุ่มในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ เราจะแนะนำบริการใหม่ Ford Care ที่ทำให้เราสามารถดูแลลูกค้าและเติบโตได้ในระยะยาวต่อไป"
โปรแกรม Ford Care ใหม่จะเป็นโปรแกรมรูปแบบของสมาชิก ที่มอบการดูแลและคุ้มครองแบบครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการ พร้อมให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้า ลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และมอบความอุ่นใจในการถือครองรถระยะยาว
ประกอบไปด้วย แพคเกจโกลด์ ครอบคลุม 13 กลุ่มอะไหล่ 1000 รายการ รวมถึงอินโฟเทนเมนต์ เครื่องเสียง ไฮเทคโนโลยีและเคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และไดร์ฟไลน์แพคเกจ คุ้มครองเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง โดยมีราคาเริ่มต้นแพคเกจที่ 7,085-25,000 บาท
ทั้งนี้ เจ้าของรถใหม่ที่มีระยะการรับประกันเหลืออยู่ สามารถซื้อแพคเกจได้เพิ่ม พร้อมรับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงตามแพคเกจที่ซื้อ ส่วนลด 15% ซื้อโปรแกรมน้ำมันเครื่องและบำรุงรักษาตามระยะ สามารถยอดรวมผ่อนกับรถ หรือผ่อน 0% นาน 10 เดือน
วิชิตกล่าวว่าหากตลาดรถยนต์กลับมาเติบโตอีกครั้งในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ฟอร์ดก็จะต้องเดินหน้าจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งออนไลน์และออฟไลน์ต่อไป รวมถึงเรื่องการเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาสู่ตลาดในอนาคค หากตลาดมีความต้องการและความพร้อม
เทคโนโลยีอีวีพร้อม ส่วนชิปกระทบไม่มาก
มีคำถามว่าฟอร์ด ประเทศไทย พร้อมที่จะเดินหน้าทำตลาดสินค้ากลุ่มยานยนต์อีวีหรือไม่ วิชิตกล่าวว่าหากมองในเชิงของเทคโนโลยี ก็จะพบว่าฟอร์ดนั้นมีทั้ง Ford Mustang Mach-E (ฟอร์ด มัสแตง มัค-อี) และ Ford F-150 Lightning (ฟอร์ด เอฟ-150 ไลท์นิ่ง) อยู่แล้ว
"หากมองในเชิงของเทคโนโลยีนั้น เราถือว่ามีความพร้อม ซึ่งรถไฟฟ้านั้นอยู่ในทุกความคิดของบริษัทอยู่แล้ว แต่เรามองว่าหากมีความต้องการและตลาดมีความพร้อมจริง ๆ เราก็จะเดินหน้าทันที อันนี้รวมถึงฟอร์ด เรนเจอร์ ถ้าทุกอย่างลงตัว เราก็พร้อมทำตลาด"
สำหรับปัญหาการขาดแคลนชิปเพื่อการผลิตรถยนต์นั้น ประเทศไทยได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก และถือว่ามีการบริหารจัดการเรื่องตลาดในประเทศและการส่งออกได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่มีปัญหาต้องหยุดผลิตระยะยาวหรือมีผลกระทบอย่างรุนแรงมาถึงปัจจุบัน