2021 Toyota Hilux REVO GR Sport (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต) เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกในเอเชีย ต่อจากการเปิดตัวในประเทศบราซิล และจากนั้น ประเทศญี่ปุ่นก็เตรียมที่จะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้
แม้จะเป็นจีอาร์ สปอร์ต เหมือนกัน แต่ Toyota (โตโยต้า) ไม่ได้วางตลาดด้วยอุปกรณ์ที่เหมือนกันไปทั้งหมด แและที่น่าสนใจก็คือ มีรายงานจากสื่อญี่ปุ่นแล้วว่า รถรุ่นนี้จะเปิดตัวด้วยราคาจำหน่ายย่อมเยากว่าในประเทศไทย แม้จะมีอุปกรณ์บางรายการเหนือกว่า
แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะไม่แตกต่างและมีอุปกรณ์ที่คล้าย ๆ กันเกือบทั้งหมด แต่ญี่ปุ่นน่าจะเป็นประเทศแรกที่ไฮลักซ์ จีอาร์ สปอร์ต มาพร้อมกับระบบ Panoramic View Monitior (PVM) หรือที่รู้จักกันในชื่อของกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศานั่นเอง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
แถมราคาจำหน่ายก็ถูกกว่ากันอีกด้วย
สื่อญี่ปุ่นรายงานว่าราคาจำหน่ายของ Toyota Hilux REVO GR Sport รุ่นท็อปในประเทศญี่ปุ่น ที่มาพร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มากกว่า จะมีราคาเมื่อรวมภาษี 10% เรียบร้อยแล้วอยู่ที่ 4.312 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทยก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 1.277 ล้านบาทเท่านั้น
เมื่อเทียบกับในประเทศไทย ที่มีราคาจำหน่ายของรุ่นท็อปสุด ๆ ก็จะอยู่ที่ 1.299 ล้านบาท หรือคิดกลับไปเป็นเงินญี่ปุ่นก็จะอยู่ที่ 4.36 ล้านเยน ซึ่งเป็นอีกครั้งที่รถยนต์ที่ประกอบในประเทศไทยเอง เมื่อถูกส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศแล้วมีราคาที่ถูกกว่า
สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานเมื่อจำหน่ายในญี่ปุ่น นอกจาก PVM แล้ว ก็จะได้ชุดช่วงล่างแบบสปอร์ต พร้อมการตกแต่งภายในทั้งหมดของ GR Sport ล้ออัลลอย 18 นิ้ว เบาะที่นั่งฝั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้าได้ แป้นแพดเดิลชิฟท์ รวมไปถึงเสาอากาศแบบครีบฉลาม
มีคอมเมนต์ที่น่าสนใจเพิ่มเติมอยู่นะ
มีการวิพากษ์วิจารณ์ที่น่าสนใจหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรถรุ่นนี้ ที่เรารู้อยู่แล้วว่ามีเปิดตัวในประเทศไทย 2 รุ่น ได้แก่รุ่นท็อป ขับเคลื่อนสี่ล้อ และรุ่นตัวเตี้ยแต่งโหด ซึ่งในเรื่องของเครื่องยนต์ ทุกคนคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา และมีสมรรถนะที่ดีมากอยู่แล้ว
ชุดแต่งรอบคันโดยเฉพาะล้ออัลลอย 18 นิ้วนั้นถูกออกแบบให้รถดูมีสมรรถนะสูงมากขึ้นกว่าเดิม ขณะที่การเลือกใช้โช๊คอัพแบบโมโนทูปที่ด้านหลังและแหนบแบบ 5 ชั้น ก็น่าจะเป็นการเซตอัพที่เหมาะสมกับการใช้งานบนถนนรวมถึงทางออฟโรดของไทย
ในรุ่นตัวเตี้ยนั้น เหมือนจะพัฒนาขึ้นมาเพื่อเน้นสมรรถนะการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก และมีการติดตั้งชุดแต่งที่สวยงามมากขึ้นแล้ว ติดปัญหาอยู่เรื่องเดียวก็คือ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วที่ดูเล็กเกินไปสำหรับรถในกลุ่มไฮลักศ์ ซึ่งถ้าให้ล้อ 18 นิ้วมาก็น่าจะดีกว่านี้
นอกจากนี้ ยังมีการชื่นชมการออกแบบห้องโดยสารภายในของรถให้มีความแตกต่างและโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นเบาะที่นั่งหนังซูเอดแบบเจาะรูรูปทรงสปอร์ตที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมเบาะรองศีรษะที่มาพร้อมโลโก้ GR Sport เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ติดตั้งแป้นอลูมิเนียมในตำแหน่งต่าง ๆ พวงมาลัยเดินด้ายสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ของจีอาร์ สปอร์ต ตามตำแหน่งต่าง ๆ ทั่วคันรถ รวมไปถึงปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ซึ่งทำให้แตกต่างจากรุ่นมาตรฐาน รวมถึงหน้าจอแสดงผลข้อมูลก็มีความชัดเจนและสวยงามดี
ถือเป็นคอมเมนต์ที่ทำให้โตโยต้าชื่นใจได้เลยจริง ๆ นะ...
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });