หลังจากห่างหายจากการทำตลาดในประเทศมาเลเซียไปร่วม ๆ 5 ปีได้ Suzuki (ซูซูกิ) เตรียมที่จะกลับไปบุกประเทศเพื่อนบ้านเราอีกครั้ง พร้อมกับการเปิดตัวดิสทริบิวเตอร์รายใหม่ และแน่นอนว่าพวกเขาจะเดินหน้าทำตลาดทันทีด้วยรถยนต์รุ่นนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น
แน่นอนว่าโครงสร้างภาษีรถยนต์นำเข้าของมาเลเซียนั้นอาจจะไม่ได้ดุเดือดเหมือนในบ้านเรา แต่ก็ไม่ได้ถูกเสียจนจะไปแข่งกับรถที่ผลิตในประเทศได้ เพราะฉะนั้นดิสทริบิวเตอร์รายใหม่จึงเลือกนำสินค้าที่อยากทำตลาดเข้ามาเอาใจลูกค้าในประเทศที่เฝ้ารอกันอยู่อย่างเต็มที่
โดย Naza (นาซ่า) ผู้เข้ายึดครองการจำหน่ายรถยนต์ซูซูกิในมาเลเซีย เตรียมที่จะนำเข้าเวอร์ชั่นตัวแรงของอีโคคาร์ในไทยอย่าง Suzuki Swift Sport (ซูซูกิ สวิฟท์ สปอร์ต) เข้ามาจำหน่ายเป็นรุ่นแรก และอีกรุ่นที่คาดการณ์กันเอาไว้ก็คือ Suzuki Jimny (ซูซูกิ จิมนี่) ที่คิวยาวเหยียดนั่นเอง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
รู้จักกับ Suzuki Swift Sport
ผลงานการพัฒนารถยนต์นั่งขนาดเล็กของทีมงานจากประเทศญี่ปุ่น และใช้โรงงานที่ซาการะเป็นฐานการผลิต ปกติแล้วเครื่องยนต์เวอร์ชั่นญี่ปุ่นกับยุโรปจะแตกต่างกันเล็กน้อย โดยในเวอร์ชั่นยุโรปจะมีการติดตั้งระบบไมล์ดไฮบริดเพื่อช่วยเหลือด้านการขับขี่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แต่ในเวอร์ชั่นที่เปิดรับจองในประเทศมาเลเซีย จะเป็นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จรหัส K14C ที่ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร และจะมาพร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น ซึ่งคนในท้องที่ก็กำลังโอดโอยกันอยู่ว่าอยากได้เกียร์ธรรมดา
ถามว่าเครื่องแรงขนาดไหน เอาให้เห็นภาพชัดก็คงต้องเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นอีโคคาร์ที่จำหน่ายอยู่ในประเทศไทย เครื่องยนต์ K12M นั้นให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที เรียกว่าสเปกนั้นแตกต่างอย่างเห็น ๆ
ซูซูกิ มาเลเซีย ประกาศรับจองซูซูกิ สวิฟท์ สปอร์ตอย่างเป็นทางการ โดยกำหนดการส่งมอบนั้นยังไม่เปิดเผย แต่ระบุว่าลูกค้าอาจจะต้องรอรถถึง 2 เดือน โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1.45 แสนริงกิต (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) ตามการเปิดเผยของเวบไซต์พี่น้องของเราอย่าง Wapcar.my
นอกเหนือไปจากสวิฟท์ สปอร์ตแล้ว รถอีกรุ่นที่มีรายงานว่าพวกเขาจะเดินหน้าทำตลาดก็คือเอสยูวีไซส์เล็กอย่างซูซูกิ จิมนี่ ที่มีข่าวลือทั้งรุ่นฐานล้อยาวและ 5 ประตูอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเปิดรับจองวันนี้ พอถึงเวลาส่งมอบจะได้รุ่นไหน เพราะเท่าที่รู้มาคือแบ็คออเดอร์ทั่วโลกยังยาวเหยียดอยู่
ประเทศไทยมีโอกาสได้ใช้รถรุ่นนี้ไหม
เอาจริง ๆ AutoFun Thailand มองว่าหากซูซูกิ ประเทศไทย กล้าที่จะนำเข้ารถรุ่นนี้มาจำหน่ายแบบลิมิเต็ด เอดิชั่น ก็คิดว่าน่าจะพอมีกลุ่มลูกค้าที่พร้อมจ่ายอยู่บ้างเหมือนกัน เหมือนกับตอนที่พวกเขาเปิดจองจิมนี่นั่นล่ะ ที่ใช้เวลาแค่แวบเดียว โควต้า 90 คันที่ได้มาก็หมดเกลี้ยงเหมือนกัน
คำถามคือซูซูกิ ประเทศไทย พร้อมที่จะดูแลลูกค้ากลุ่มนี้หรือเปล่าในอนาคต อีกอย่างที่ต้องคิดก็คือ สวิฟท์นั้นถูกวางตำแหน่งสินค้าในประเทศไทยเป็นรถยนต์อีโคคาร์ ที่เน้นเรื่องการใช้งานในเมืองและประหยัดน้ำมันเป็นหลักมานับตั้งแต่เปิดตัวก่อนเป็นอีโคคาร์ในรุ่นที่ 2 เสียอีก
ถามว่าตลาดน่าสนใจไหม ก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน แต่ถามว่ามีความเสี่ยงในการเอาเข้ามาไหม ก็เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้กับลูกค้าบางกลุ่ม มองไปแล้วก็อาจจะไม่คุ้มเสีย แม้ว่าในใจจะแอบลุ้นลึก ๆ ให้ซูซูกิ ประเทศไทยลองกับสวิฟท์ สปอร์ต เหมือนกับที่ทำกับจิมนี่มาก่อนก็ตาม
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });