2021 Nissan Navara (นิสสัน นาวาร่า) เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการไปในตลาดโลกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ด้วยรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ดุดัน เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาแฟนรถปิกอัพ ที่คาดหวังว่าการมาถึงของรถรุ่นใหม่ จะทำให้พวกเขานั้นสามารถครอบครองรถคันนี้ได้ด้วยความภาคภูมิใจมากขึ้น ไม่ได้มีไว้ขนของหรือย้ายบ้านแต่เพียงอย่างเดียว
เดิมทีนั้น นิสสัน นาวาร่า ไม่ได้เป็นรถปิกอัพระดับเมนสตรีมของประเทศไทย ด้วยรูปลักษณ์แบบธรรมดาเกินไปเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เครื่องยนต์แบบกลาง ๆ แม้จะมีเรื่องให้คุยบ้างในเรื่องระบบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ให้มามากกว่า แต่ก็ดูเหมือนไม่โดนใจผู้บริโภคชาวไทย ที่เน้นการซื้อรถที่ราคาน่าคบหา หน้าตามีเสน่ห์มากกว่าเรื่องอื่น ๆ
แต่ก็มีกลุ่มลูกค้าที่มองเห็นคุณค่าของรถหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการบรรทุกสินค้า หรือเครื่องยนต์ที่ทนทานไว้ใจได้แบบไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมากนัก ทำให้ยอดขายของนาวาร่าก็ยังพอจะมีอยู่ได้บ้างแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ในอันดับ 5 ของตลาดปิกอัพในประเทศไทย ตามหลังอยู่ในระดับที่ทีมงานคงไม่ยอมพอใจกันง่าย ๆ
ด้วยรูปลักษณ์หน้าตาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากที่เราเห็นกันในทีเซอร์เมื่อเปิดตัวใหญ่ทั่วโลกไปแล้ว หลาย ๆ คนถึงกับแอบจุ๊ปากว่านี่ล่ะ นิสสัน นาวาร่า แบบที่ควรจะเป็น เพราะไม่ว่าจะหน้าตาดุดัน การตกแต่งที่เอาใจแฟน ๆ มากขึ้น รวมถึงทีเซอร์เครื่องยนต์ อุปกรณ์ ออพชั่นมากมาย ที่เรียกว่ามีแต่คนรอให้เปิดตัวในประเทศไทยเสียที
และวันนี้ช่วงเย็น ๆ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ก็เตรียมพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวรถรุ่นนี้ พร้อมออพชั่น รายละเอียดและราคาจำหน่ายสำหรับประเทศไทย ก่อนที่จะไปพบกับรายละเอียดทั้งหมด มาลองดูกันว่า มีเรื่องอะไรที่เรารู้เกี่ยวกับรถคันนี้บ้าง และมันน่าสนใจเพียงใดที่จะทำให้พวกเขาขึ้นมาลุ้นตำแหน่งท็อปทรีของตลาดปิกอัพในประเทศไทยได้หรือยัง
รุ่นตกแต่งใหม่พิเศษสวยสุดเร้าใจทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ
ในการเปิดตัวนิสสัน นาวาร่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นิสสันได้โชว์รุ่นตกแต่งพิเศษที่มีชื่อว่า Nissan Navara Pro4X (นิสสัน นาวาร่า โปร4เอ็กซ์) ซึ่งจะมาเป็นรุ่นย่อยตัวท็อปที่มาพร้อมชุดแต่งมากมายหลายอย่างและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่เราสืบทราบมาว่า พวกเขาจะมีรถรุ่นตกแต่งพิเศษที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ในชื่อ Pro2X (โปร2เอ็กซ์) เช่นกัน
แน่นอนว่าระบบความปลอดภัยหลายประการจะหายไปพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่ก็จะได้กระจังหน้าดำ พร้อมโลโก้ตัดตัวหนังสือสีแดงเหมือนกัน ล้อแมกซ์สีดำเหมือนกัน แต่จะไม่ได้สีพิเศษอย่างสีเทานม ซึ่งเป็นสีเฉพาะของรุ่นท็อปเท่านั้น เรียกว่าใครต้องการความเท่แต่ไม่ได้เน้นลุยจริง ก็เลือกหาซื้อได้ในราคาที่ย่อมเยากว่าเล็กน้อย
รุ่นย่อยอื่น ๆ ก็ปรับโฉมมาสวยงามมากขึ้นเช่นกัน
ยังไม่มีการยืนยันว่านิสสัน นาวาร่า ในประเทศไทยจะเปิดตัวในกี่รุ่นย่อย แต่ที่แน่ ๆ ก็คือน่าจะมาครบกับตัวถังทุกรูปแบบ ในรุ่นย่อยที่ประกอบไปด้วย VL (วีแอล) ซึ่งเป็นตัวท็อปและรุ่นรองลงไปก็ยังใช้รหัส V (วี) เหมือนเดิม โดยรูปลักษณ์การตกแต่งในรุ่นท็อปจะมาพร้อมความสปอร์ตหรู แต่ไม่เน้นความดุดันเหมือนกับรุ่นพี่อย่างรุ่นโปรทั้ง 2 รุ่น
รุ่นท็อปตัวธรรมดาอย่างวีแอลจะมาพร้อมกระจังหน้าสีดำตัดด้วยกรอบโครเมียม พร้อมโลโก้นิสสันแบบมาตรฐานตัดโครเมียม ล้ออัลลอยขนาดเล็กกว่า แต่ได้ลายใหม่แบบทูโทนสวยงามขึ้น ชุดโคมไฟหน้ารูปตัวซีพร้อมไฟแอลอีดีแบบใหม่ ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และรุ่นย่อยอื่น ๆ ก็จะตกแต่งหลดหลั่นกันลงไปตามราคาจำหน่าย
งานออกแบบด้านหน้าที่งามหยดย้อย
ทีมออกแบบของนิสสันนั้น ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงด้านหน้าของรถคือสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่ถ่ายทอดพันธุกรรมความแข็งแกร่งบึกบึนมาจากรุ่นพี่อย่าง Nissan Titan (นิสสัน ไททัน) รถปิกอัพขนาด 1 ตันครึ่งในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ชุดกรอบโคมไฟหน้าก็คือสิ่งที่พวกเขาภาคภูมิใจว่าได้ออกแบบอย่างสวยงาม
กรอบโคมไฟหน้าที่เป็นการรวมตัวกันของกรอบไฟแอลอีดีรูปตัว C ซึ่งน่าจะเป็นตำแหน่งของไฟส่องสว่างเวลาวิ่งกลางวัน ภายในเป็นชุดโคมไฟแอลอีดี ที่ประกอบด้วยโปรเจคเตอร์ขนาดเล็ก 4 ตัว ที่นิสสันเรียกว่า Ice cube (ก้อนน้ำแข็ง) ให้ความส่องสว่างอย่างสวยงามและแน่นอว่าเป็นจุดเด่นที่ทำให้ด้านหน้าของตัวรถนั้นน่าสนใจขึ้นมามาก
ด้านหลังของรุ่นโปร4เอ็กซ์ก็ได้รับการออกแบบมาใหม่เช่นเดียวกัน เพื่อให้ได้รถที่มีขนาดใหญ่ บึกบึนขึ้น ทีมงานได้ยกด้านหลังของตัวรถขึ้นเล็กน้อย พร้อมดีไซน์ฝาปิดกระโปรงท้ายใหม่ ด้วยการใส่รายละเอียดเข้าไป รวมถึงวิธีการยอดฮิตด้วยการเจาะชื่อรุ่นประทับไว้บนฝากระโปรงท้ายด้านล่าง สร้างจุดสนใจเพิ่มเติมสำหรับประตูท้ายและด้านหลัง
เครื่องยนต์ 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ ทางเลือกใหม่เสริมจี๊ดจ๊าด
ไม่น่าจะมีเซอร์ไพร์สอะไรกับการเพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ยกไปจาก Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) อย่างเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบคู่ รหัส YS23DDTT ขนาด 2,298 ซีซี. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ในรุ่นล่างให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที ขณะที่รุ่นท็อปมาพร้อมกำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที
อย่างไรก็ตาม นิสสันยังไม่ได้ทิ้งเครื่องยนต์เดิมอย่างเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง รหัส YD25DDTi ขนาด 2,488 ซีซี. พร้อมเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ที่รุ่นล่างให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที และรุ่นท็อปให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที
ระบบความปลอดภัยครบครัน ขาดแค่ Adaptive Cruise Control
ในการเปิดตัวนาวาร่าในตลาดโลก ได้มีการแสดงให้เห็นว่ารถกระบะรุ่นใหม่ของพวกเขานั้นเป็นกระบะแห่งความปลอดภัย ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ ๆ เข้าไปมากมายหลายรายการ ทำให้มีคำถามทันทีว่า เมื่อเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยนั้น จะมีอุปกรณ์อะไรที่หายไปบ้าง เพราะหลาย ๆ ค่ายก็ชอบตัดอุปกรณ์สำคัญ ๆ ทิ้ง เวลาเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย
จากการแอบสอบถามมาแบบคร่าว ๆ มีการยืนยันมาแล้วว่านิสสัน ประเทศไทย ก็เตรียมอัดอุปกรณ์และระบบด้านความปลอดภัยให้รถของพวกเขาเช่นกัน โดยอุปกรณ์ที่ได้นั้นจะเกือบเทียบเท่ากับรุ่นท็อปที่เปิดตัวในต่างประเทศ ขาดไปเพียงแค่ระบบควบคุมความเร็วของรถอัตโนมัติแบบแปรผัน หรือ Adaptive Cruise Control เพียงเท่านั้น
ระบบการช่วยเหลือยังนำมาโดดเด่นด้วยระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ถุงลมนิรภัย 6 ใบ ที่คู่หน้า ด้านข้างและม่านนิรภัย ระบบเตือนการชนด้านหน้า พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ช่วยเหลือด้านการขับขี่ด้วยระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง รวมถึงระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง
นอกจากนี้ก็มีระบบอื่น ๆ อีกมากมาย ในรุ่นท็อป ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง ระบบควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทาง ระบบเตือนจุดอับสายตา ระบบเตือนเมื่อมีวัตถุตัดผ่านขณะถอยรถ ไฟสูงอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบควบคุมเสถียรภาพของรถขณะลากจูง รวมถึงระบบลดการโยนตัวบนทางขรุขระ
ระบบต่าง ๆ นั้นจะมีมาให้อย่างสมบูรณ์ครบครันในรุ่นวีแอลขึ้นไปถึงโปร4เอ็กซ์ ขณะที่รุ่นล่าง ๆ ก็จะได้อุปกรณ์ที่ลดหลั่นกันลงไปตามระดับราคา อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นครั้งแรกที่นิสสันหันมาเอาจริงกับการใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยลงไป เพื่อสู่กับคู่แข่งที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้า รวมถึงเพื่อรับมือคู่แข่งที่จะเปิดตัวตามมาในอนาคต
ราคาจำหน่ายที่ปรับขึ้นแน่ แต่ไม่มากนัก
คำถามคือเมื่อมีการปรับทุกอย่างมาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แน่นอนว่าราคาจำหน่ายของ Nissan Navara 2021 ก็ต้องปรับขึ้นด้วยเช่นกัน ในรุ่นที่ทำตลาดอยู่นั้น นิสสัน นาวาร่า ทำราคาจำหน่ายอยู่ตั้งแต่ 5.595 แสนบาทในรุ่นซิงเกิลแค็บ ไปจนถึง 1.179 ล้านบาทในรุ่นตกแต่งพิเศษอย่างเอ็น-เทร็ค วอริเออร์ ซึ่งถือว่าโหดร้ายเอาเรื่อง
อย่างไรก็ตาม นิสสันนั้นน่าจะพอเข้าใจการวางระดับราคาจำหน่ายสินค้าของตัวเองอยู่แล้ว ว่าพวกเขาไม่น่าจะห้าวหาญขนาดปรับราคาจนเหนือกว่าคู่แข่ง โดยรุ่นท็อปของกระบะรุ่นตกแต่งพิเศษของตลาดนั้นวางราคาอยู่ที่ 1.265 ล้านบาท ขณะที่หนึ่งในผู้นำตลาดนั้น วางราคาจำหน่ายที่ 1.239 ล้านบาทเท่านั้น
ต้องมาวัดใจกันอีกครั้งว่านิสสันจะกล้าขยับขึ้นไปจนเหนือกว่าราคาคู่แข่งหรือไม่ หรือจะสามารถทำราคาได้น่าสนใจและดึงดูดเพียงใด เพราะการออกแบบใหม่ การใช้เครื่องยนต์ใหม่ รวมถึงระบบอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้ามา ทำให้ต้องทำใจเลยว่าราคาไม่ถูกอย่างแน่นอน แต่หากพวกเขาต้องการท้าทายท็อปทรีของตลาด ก็มีทางเลือกเรื่องนี้ไม่มากนัก
อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้ารู้กันว่างานนี้ นิสสันจะพร้อมขนาดไหน แล้วค่อยมาคาดการณ์อนาคตของพวกเขาอีกที!!!