เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แบรต์ญี่ปุ่นอย่าง Nissan (นิสสัน) ได้เปิดตัว 2021 Nissan Navara รถปิกอัพตัวเด่นของค่ายนิสสัน ด้วยดีไซน์ใหม่ เพิ่มความดุดัน มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.3 ลิตร Twin Turbo โดยโฉมนี้ติดตั้ง Nissan Intelligent Mobility เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะแบบเต็มรูปแบบ และใส่ฟีเจอร์ระบบความปลอดภัยมาให้มากกว่าเดิม Nissan Navara เปิดตัวตั้งแต่ปี 1997 และทำการตลาดในกลุ่มรถปิกอัพมานาน ซึ่งได้มีการพัฒนาปรับปรุงมาเรื่อย และยังคงความนิยมจนถึงปัจจุบัน

สำหรับ 2021 Nissan Navara ที่เปิดตัวใหม่นี้ จะมีความสามารถแย่งส่วนแบ่งการตลาดรถปิกอัพจากคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux Revo ได้หรือไม่ แต่ก่อนจะไปวิเคราะห์กัน AutoFun จะพาไปทำความรู้จัก Nissan Navara ตั้งแต่อดีตจนถึงรุ่นล่าสุด 2021 Nissan Navara ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

1997 Nissan Navara

Nissan Navara  เป็นรถกระบะขนาดกลางหรือรถปิกอัพที่ผลิตโดยนิสสัน ค่ายรถจากญี่ปุ่น ที่ขณะนั้นผลิตมาเพื่อทดแทนรุ่นเก่า Nissan Big-M โดยรุ่นแรกของ Nissan Navara นี้เริ่มวางจำหน่ายเมื่อปี 1997-2004 แต่ในประเทศไทยเริ่มผลิตและวางจำหน่ายในปี 1998 จนถึงปี 2007 โดยใช้รหัสเครื่องยนต์ D22 ซึ่งมีเครื่องยนต์ให้เลือก 6 ขนาด ได้แก่ 2.4 ,2.5 ,2.7 ,3.0 ,3.2 และ 3.3 ลิตร ซึ่งในประเทศไทยมีวางจำหน่ายแค่เฉพาะรุ่น 2.7 และ 3.0 ลิตรเท่านั้น เกียร์ก็มีให้เลือก 3 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 4 สปีด เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

สำหรับประเทศไทย ก่อนที่จะเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ เคยใช้ชื่อว่า Nissan Bin-M Frontier (นิสสัน บิ๊กเอ็ม ฟรอนเทียร์) หลังจากไมเนอร์เชนจ์แล้วก็ได้ใช้ชื่อว่า Nissan Frontier (นิสสัน ฟรอนเทียร์) แม้ว่าตลาดโลกจะผลิตและจำหน่ายในช่วงปี 1997 แต่ในไทยนั้นเป็นปี 1998 ส่วนรูปลักษณ์ก็ออกแนวบึกบึน ทนทานต่อการใช้งานหนัก ด้านท้ายเพิ่มพื้นที่ทำให้มีการขนของได้มากขึ้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนั้นได้ดีเลยทีเดียว

2004 Nissan Navara

รุ่นที่ 2 ของ Nissa Navara เป็นรุ่นผลิตในช่วงปี 2004 แต่สำหรับในประเทศไทยนั้นผลิตในระหว่างปี 2007 โดยใช้เครื่องยนต์รหัส D40 มี 3 ขนาด ได้แก่ 2.5 ,3.0 และ 4.0 ลิตร โดยในไทยมีจำหน่ายเฉพาะรุ่น 2.5 ลิตร ส่วนเกียร์มี 3 แบบให้เลือก คือ เกียร์ธรรมดา 5 สปีด เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด 2004 Nissa Navara นี้มีตัวถังที่ออกแบบให้ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิมที่เป็นรุ่นรหัส D22 และเมื่อปี 2011 ก็ได้มีการปรับโฉมใหม่ ไมเนอร์เชนจ์ เพื่อให้ตอบโจทย์มากขึ้น

Nissan Navara รุ่น 2 ของตลาดโลกผลิตและจำหน่ายเมื่อปี 2004 แต่สำหรับประเทศไทยผลิตหลังตลาดโลก 3 ปีคือปี 2007 นั่นเป็นเพราะความขัดแย้งของทางสยามกลการที่เป็นผู้แทนจำหน่ายและนิสสันที่เป็นผู้ผลิต ซึ่งนิสสันก็ได้เข้ามาซื้อหุ้นและลงทุนเอง และในปี 2014 ก็ได้เตรียมปรับโฉมใหม่ โดยเคยมีกระแสข่าวว่านิสสันกับมิตซูบิชิค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นเช่นกัน จะพัฒนาปรับปรุงรถกระบะด้วยกัน แต่ทว่าก็ยุติความร่วมมือในการพัฒนารถกระบะ เหลือเพียงความร่วมมือในการผลิตรถ K-Car มีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า Keijidōsha ซึ่งมีความหมายว่ารถขนาดเล็ก เป็นการแบ่งกลุ่มของรถที่มีเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และการร่วมมือการผลิตรถซีดานขนาดใหญ่สำหรับตลาดญี่ปุ่นเท่านั้น

2014 Nissan Navara

Nissan Navara รุ่นที่ 3 นี้เปิดตัวเมื่อ 6 มิถุนายน 2014 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ NP300 Navara (เอ็นพี300 นาวารา) โดยใช้เครื่องยนต์รหัสตัวถัง D23 โฉมนี้เป็นโฉมที่มีสายผลิตในไทย ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนหน้าที่มีสายผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสายผลิตในประเทศไทยนี้เป็นโรงงานในจังหวัดสมุทรปราการที่เริ่มผลิตในเดือนกรกฎาคม 2014 และเริ่มส่งมอบในเดือนสิงหาคม ซึ่งโฆษกของทางนิสสันทางฝั่งอเมริกาเหนือได้กล่าวว่ารุ่นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนโฉมใหม่ Frontier รุ่น D40 ที่สหรัฐอเมริกา ขณะที่ทางด้านยุโรปใช้เครื่องยนต์ 2.3 ลิตรจาก Nissan NV400 (นิสสัน เอ็นวี400)

การออกแบบทันสมัยมากขึ้น ดูเท่และมีความดุดันตามแบบฉบับของปิกอัพ Nissan รูปทรงที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ไฟมีการดีไซน์ปรับปรุงให้ทันสมัย มีโครงเหล็กให้ข้างหลัง ทำให้ดูเป็นกระบะที่แกร่งขึ้น จากนั้นในปี 2016 ทาง Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ได้ร่วมมือกับนิสสัน เผยโฉมกระบะต้นแบบ 2 คันที่ชื่อว่า X-Class โดยเป็นการใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Nissan Navara โฉมรุ่น 3 นี้ และมีสายผลิตในบาเซโลน่า ประเทศสเปน และคอร์โดบาในประเทศอาร์เจนติน่า แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ารุ่นที่ทำร่วมกับ Mercedes-Benz ไม่มีการทำการตลาดในประเทศไทย

2021 Nissan Navara

การออกแบบภายนอก

Nissan Navara โฉมใหม่ล่าสุดนี้เป็นรุ่นที่ 4 ที่เพิ่งเปิดตัวในไทยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน โดยดีไซน์ก็ยังมีความแข็งแกร่ง โดยเป็นคอนเซ็ปต์ “Unbreakable” ที่มีดุดัน และเน้นสปอร์ตมากขึ้น กระจังหน้าใหม่แบบ Interlock โคมไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED Projectors Quad-eyed รูปตัว C ใช้วัสดุคุณภาพสูง 4 ดวง พร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน Daytime Running Light ขณะที่ด้านหลังเสริมด้วยไฟท้าย LED แบบชิ้นเดียว พร้อมกรอบโครเมียม ด้านล่างเป็นล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมซุ้มล้อขนาดใหญ่

ส่วนของด้านท้ายกระบะ ทาง Nissan Navara ได้เพิ่มด้านท้ายรถเพื่อความสะดวกในการใช้งาน พร้อมติดตั้งกล้องมองหลังอยู่ในบริเวณมือจับี่เปิดฝาท้าย อีกทั้งยังมีการติดตั้งบันไดด้านข้างที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ด้วยการออกแบบให้ลดเสียงลมขณะขับขี่ และมีส่วนช่วยในการประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกด้วย

การออกแบบภายใน

ภายในห้องโดยสารเน้นความเงียบ ตัดเสียงรบกวนภายนอกด้วยการใช้กระจก Noise-reducing acoustic glass และกระจกตอนหลังกรองแสงสีชา เพื่อความสบายตา ภายในตกแต่งด้วยหนังแท้โทนสีดำรอบห้องโดยสาร  เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Zero Gravity สามารถปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ที่นั่งด้านหลังนั่งสบาย ที่ออกแบบด้วยดีไซน์ใหม่ (Comfort rear seating cushions) มีที่พักแขนตรงกลาง พร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง

Nissan Navara รุ่นใหม่นี้ก็ได้ติดตั้งเทคโนโลยีมาให้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมีแผงหน้าจอกลางแสดงผลข้อมูลและความบันเทิงระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงหรือ Voice Recognition Nissan Navara รุ่นล่าสุดนี้ยังมีหน้าจอสีแสดงผลเป็นหน้าจอสีแบบสามมิติ TFT ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ด้วยการผ่านเทคโนโลยี Nissan Connect ทั้งระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งระบบนำทาง (Navigation system) หรือแอปพลิเคชันความบันเทิงต่างๆ อีกทั้งยังมีพอร์ต USB Type C บริเวณคอนโซลกลางที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์

Nissan Navara โฉมใหม่ล่าสุดนี้ มีเครื่องยนต์ 3 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ ทวินเทอร์โบ คู่เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร เครื่องยนต์ YS23DDT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบแปรผันแบบ VGS คู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร  และเครื่องยนต์ YD25DDTTi ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผันแบบ VGS ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร

นอกจากเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงแล้ว ก็ยังมาพร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อน 4 ล้อที่ช่วยให้สามารถลุยได้ทุกที่ และยังเพิ่มการขับขี่ให้มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยอย่างระบบป้องกันการลื่นไถล (Brake Limited Slip Differential: B-LSD) ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า (Electronic Rear Locking Differential)  ระบบเตือนเมื่ออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning) ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) ที่เสริมฟังก์ชัน Off-Road Meter เมื่ออยู่ในโหมด 4L ทำให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

2021 Nissan Navara นั้นมีให้เลือกหลากหลายรุ่น ได้แก่ รุ่น King Cab เริ่มต้นที่ 599,000 บาท รุ่น Double Cab เริ่มต้นที่ 849,000 บาท และรุ่นที่เพิ่มเติมมาคือรุ่น New PRO-4X ราคา 1,149,000 บาท และ New PRO-2X ราคา 999,000 บาท แต่อาจเสียเปรียบอยู่บ้างเมื่อเทียบกับคู่แข่งผู้นำตลาดอย่าง Toyota Hilux Revo ที่เริ่มต้น 544,000 บาท แต่ด้วยรถรุ่นที่มีให้เลือกมากกว่าก็ถือเป็นจุดเด่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่ารถรุ่นไหนตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากกว่ากัน