หลังจากปล่อยให้ BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) เปิดตัว BMW 5 Series (บีเอ็มดับเบิ้ลยู 5 ซีรี่ยส์) ในไทย ไปเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปรับโฉมเสริมหล่อเพิ่มออพชั่นจัดเต็ม
ทาง Mercedes Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) เองก็ใกล้จะเปิดตัว Mercedes-Benz E-Class (เมอร์เซเดส เบนซ์ อี คลาส) ใหม่ในไทยกันแล้วในเดือนกุมภาพันธ์นี้เอง
อีกทั้งยังมีคู่แข่งอย่าง Volvo (วอลโว่) จากสวีเดน ที่มาพร้อมกับ Volvo S90 (วอลโว่ เอส90) ที่เป็นไฮบริด แต่แพคความแรงมากถึง 407 ม้า โดยเรามาดูกันว่า ทั้งสามคัน คันไหนน่าใช้ คันไหนน่าโดนกันครับ
ดีไซน์ภายนอก
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่สะดุดตา มาพร้อมกระจังหน้าทรงแปดเหลี่ยมแบบใหม่ ล้อมรอบด้วยกรอบที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียวมีกันชนทรงใหม่
ออกแบบช่องดักอากาศแนวตั้งที่มุมทั้งสองข้าง เปลี่ยนไฟหน้ามีขอบล่างหยักขั้นบันไดที่เล็กลง บไฟท้าย LED มาในรูปแบบสามมิติทรงตัว L ล้อแม็กซ์ในรุ่น 520d M Sport เป็นลาย Double-spoke ขนาด 18 นิ้ว
เมอร์เซเดส เบนซ์ อี คลาส มาพร้อมหน้าใหม่ ภายใต้ความหรูหรา ดีไซน์กระจังหน้าพร้อมโลโก้ดาวสามแฉกขนาดใหญ่ ไฟหน้า MULTIBEAM LED โคมใหม่ พร้อม ไฟ daytime แบบ LED รูปตัว L
รวมถึงกันชนหน้าใหม่ลงตัวสปอร์ตมากขึ้น พร้อมไฟท้ายใหม่แบบ LED ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 245/45 R18
เอส90 มาด้วยกระจังหน้าลายใหม่แบบตาข่าย เส้นโครเมียมกันชนแบบตรง ไฟท้ายเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย สปอยเลอร์ขนาดเล็กในตัว และได้ซ่อนปลายท่อไอเสีย ทำให้มีความเรียบหรู
ล้ออัลลอยลายใหม่ 8 ก้านคู่ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 255/40 R19 ไฟท้าย LED ใหม่ รวมถึงกันชนหลังใหม่แนบด้วยคิ้วโครเมี่ยมแนวนอนแบบเดียวกับด้านหน้า
ห้องโดยสารภายใน
ซีรี่ยส์ 5 มีสามรุ่นมาพร้อมเบาะหนังแท้ Dakota ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e M Sport ตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย Rhombicle Smoke Grey พร้อมแถบโครเมี่่ยม ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู 530e Elite ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาพร้อมแถบโครเมียม
พิเศษในรุ่น 520d M Sport และ 530e M Sport มีคอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec และมาพร้อมจอ BMW Head-up Display กับระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฎิบัติการ BMW Operating System 7
อี คลาส ภายในตกแต่งใหม่แต่ความรู้สึกยังหรูหราเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์ใหม่สปอร์ตแบบ 3 ก้าน มาตรวัดขนาดใหญ่พร้อมจอสัมผัสในชุดเดียวกัน 12.3 นิ้วพร้อม MBUX (Mercedes-Benz User Experience)
รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto สามารถเสริมด้วยลำโพงรอบทิศทาง Burmester เบาะนวด และ Wireless Charging
วอลโว่ห้องโดยสารเดิมที่เรียบหรูอยู่แล้ว ก็แทบจะไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรไปจากรุ่นก่อนหน้า มีระบบการเชื่อมต่อรูปแบบใหม่ที่รองรับแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายมากขึ้น หน้าจอสัมผัสเพื่อการใช้งานได้อย่างง่ายดาย
แผงหน้าปัดที่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ระบบฟอกอากาศอัจฉริยะพร้อมเซ็นเซอร์วัดค่า PM2.5 และ Clean Zone ดักละอองฝุ่น เกสรดอกไม้ ระบบเสียงขั้นเทพของ Bowers & Wilkins พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น และ การสั่งการด้วยเสียง Voice Control ของผู้ขับขี่ แสดงข้อมูลบนหน้าจอแสดงผลขนาด 9.0 นิ้ว
เครื่องยนต์น่าใช้
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ มีทั้งเครื่องดีเซลและไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ใหม่ล่าสุด ขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้นกับสเปคทั้งสองดังนี้
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ มีพละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม.
ในรุ่นปลั๊กอินไฮบริด ทำงานทั้งเครื่องเบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 292 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 420 นิวตันเมตร พร้อมระบบ XtraBoost เพิ่มกำลังมากถึง 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาที วิ่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 235 กม./ชม. ขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน ทำได้ระยะทาง 52 กิโลเมตร
เบนซ์สำหรับเมืองไทยน่าจะมีขุมพลังให้เลือกถึง 3 รูปแบบตั้งแต่ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Plug-In Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะได้แรงม้าสูงสุด 320 แรงม้าที่ 4,500-5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงถึง 700 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9 G-Tronic วิ่งในโหมดไฟฟ้าได้ไกลสูงสุดถึง 50 กิโลเมตร
ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9 G-Tronic พร้อมแพดเดิลชิฟท์
ปิดท้ายด้วยความแรงจาก Mercedes-AMG E53 ด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่แบบ 6 สูบเรียง รหัส M256 3.0 ลิตร สามารถให้กำลังมากถึง 435 แรงม้าที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิด 520 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,800 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 4.5 วินาที พร้อมระบบ EQ Boost ที่สามารถเสริมกำลังเครื่องยนต์ได้ ถึง 22 แรงม้า
Volvo S90 T8 ยังใช้เครื่องยนต์ไดร์ฟ-อี ปลั๊กอินไฮบริด ทวินเอนจิน พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยพละกำลัง407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Geartronic
นอกจากจะให้พละกำลังที่ล้นเหลือแล้ว เครื่องยนต์รุ่นนี้ยังปล่อยไอพิษในระดับต่ำมาก สามารถวิ่งได้ด้วยระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวมากกว่า 40 กิโลเมตร
ระบบความปลอดภัยครบ
เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ในบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ รุ่นย่อย 520d M Sport และ 530e M Sport มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) ดังนี้
- ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (Active cruise control with Stop & Go function) ในบีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport
- ระบบควบคุุมความเร็วคงที่่ พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว (Cruise Control with braking function) ในบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e Elite
- สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ยังมาพร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) และระบบช่วยนำรถเข้าที่่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus)
สำหรับอี คลาสเอง ระบบหลักที่มีมาให้ เพิ่มจากของเดิมที่ค่อยข้างขาดออพชั่นความปลอดภัย คือ
- ระบบเบรกอัตโนมัติ
- Blind-spot monitoring
- Adaptive cruise control พร้อม stop-and-go
- Lane-departure warning และ lane-keeping assist
วอลโว่ เอส90 จัดเต็มกับระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานความเป็นวอลโว่ ที่ทุกคนให้ความไว้ใจกันอย่างยาวนาน
- ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ (Pilot Assist) ทีความเร็ว 130 กม./ชม.
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้างขณะถอยหลังจากที่จอดพร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Cross Traffic Alert with Auto Brake)
- ระบบถุงลมกันสะเทือน 4 ทิศทาง Four-C Air Suspension ทำหน้าที่ปรับแต่งค่าต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับโหมดการขับขี่ที่เลือก
- กล้องแบบ 360°
ราคาทั้ง 3 คัน
สำหรับ BMW จะมี 3 รุ่นย่อยให้เลือก คือ
BMW 5 Series |
530e Elite |
2,999,000 |
520d M Sport |
3,599,000 |
530e M Sport |
3,739,000 |
ส่วน Benz จะมีมากถึง 13 รุ่นย่อย รวมกัย AMG และโมเดลต่าง ๆ อย่าง Sedan, Coupe, และ Cabriolet ในออสเตรเลีย ต้องรอลุ้นกันว่า ในประเทศไทยจะมีรุ่นไหนมาบ้าง แต่จากการคาดการณ์น่าจะมีเป็นแค่ E200 และ E300 ในแบบซีดานก่อน
Mercedes Ben E Class |
E200 |
2,255,000 |
E300 |
2,744,000 |
Volvo จะมีรุ่น และเครื่องแบบเดียวให้เลือก หลังจากที่ลดราคาลงมาจาก 3,790,000 บาท
Volvo S90 Recharge |
T8 |
3,290,000 |
หากจะดูแล้วก็ต้องบอกได้ว่ากินกันยากมากว่าคันไหนน่าใช้กว่า เพราะว่าทั้ง 3 คัน ให้ออพชั่นต่าง ๆ ที่คล้ายกัน เครื่องยนต์ก็ดีพอกันทั้ง แต่ราคาสำหรับ 2021 Mercedes Benz E Class อาจจะต้องราคาอย่างเป็นทางการเสียก่อน ว่าจะแพงหรือถูกกว่า คนอื่น ๆ หรือไม่
สำหรับค่ายสวีดิช ก็มีราคาที่ถูกกว่าเจ้าอื่นเมื่อเทียบกันแล้ว นอกจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละท่าน ว่าจะมีใจให้ค่ายใบพัดสีฟ้า หรือค่ายดาวสามแฉก เพราะว่าเบนซ์เอง ก็ได้มีการเพิ่มออพชั่นที่สมราคามากกว่ารุ่นที่แล้ว ก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจครับ