ไฟตัดหมอกที่ติดรถมาในกันชนหน้า-หลัง หลายคนเข้าใจว่าเป็นหลอดไฟเพิ่มความสว่าง จึงใช้ร่วมกับการเปิดไฟหน้า เพราะคิดไปเองว่ามันช่วยให้มองถนนเห็นชัดขึ้น แต่การใช้ไฟตัดหมอกอย่างผิด ๆ ทั้งมาจากความตั้งใจ หรือเผลอเปิดเอง มันสร้างผลเสียทำให้แยงตาคนขับรถร่วมทางกันอย่างมาก บทความนี้จะมาแก้ไขความเข้าใจผิดให้ถูกต้อง พร้อมบอกข้อกฎหมายให้ปฏิบัติตามชัดเจน ซึ่งเป็นวิธีทำตามง่าย ๆ จะไม่โดนตำรวจจับปรับ
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ไฟตัดหมอก ไม่ช่วยให้ทางสว่าง
ไฟตัดหมอกมีหลักการทำงานง่าย ๆ ด้วยการเป็นโคมที่กระจายแสงออกไปในแนวตรง ทำหน้าที่สะท้อนวัตถุได้ในระยะไกลมาก ๆ ให้เราได้เห็น และบ่งบอกตำแหน่งรถตนเองให้รถคันหลังสังเกตได้ง่าย โดยมุมการสะท้อนของลำแสง จะพุ่งออกไปทั้งซ้ายขวาและบนล่าง อย่างเท่ากัน ต่างจากไฟหน้าที่เน้นกดลำแสงพุ่งลงพื้นถนนมากกว่า ดังนั้นไฟตัดหมอก จึงแทบไม่ช่วยให้พื้นถนนสว่างขึ้น เป็นเพียงแค่ทำให้เรามองวัตถุด้านหน้าได้ในระยะไกลขึ้น
ไฟตัดหมอกอย่าใช้ตอนฟ้าเปิด
ในสภาพอากาศเปิดโล่งปกติ การเปิดกับไม่เปิดไฟตัดหมอก แทบไม่มีความแตกต่างอย่างสังเกตได้ เพราะแสงไฟตัดหมอกจะพุ่งเข้าสู่ความมืด โดยไม่ได้สะท้อนแสงวัตถุใด ๆ กลับมา ดังนั้นหากขับรถในที่มีความมืดมาก ๆ เช่น ไฟถนนขาดช่วง ซอยเปลี่ยน หรือทางกันดาร ให้ใช้ไฟสูงก็เพียงพอแล้ว หรือแม้แต่ตอนฝนตกธรรมดาก็ยังไม่จำเป็นต้องเปิดไฟตัดหมอก ยกเว้นแต่ว่าฝนตกหนักมากระดับพายุ จนมองไม่เห็นวัตถุหน้ารถในระยะใกล้ได้
เปิดไฟตัดหมอกแล้วมีแต่คนด่า
เนื่องจากไฟตัดหมอกไปแยงตาคนบนถนนอื่น ๆ ที่อยู่ในระยะใกลเคียง จากหลักการทำงานที่สะท้อนแสงเข้มข้นไปทุกทิศทาง ไม่ได้กดต่ำลงถนน ทำให้คนที่ขับรถสวนเลนมา หรือคนที่ใช้ถนนร่วมกัน ถูกแสงไฟตัดหมอกส่องทำให้ตาพร่า หรือรูม่านตาหดตัวไม่ทัน จึงมีโอกาสถูกคนอื่นด่าในใจ หรือด่าลับหลังว่าไม่มีมารยาทในการใช้ถนนร่วมกัน ของแบบนี้ถ้าไม่สนิทหรือรักกันจริง คงไม่มีใครมาเตือนกันต่อหน้าหรอกครับ
โดนด่าแล้วยังโดนปรับด้วย
นอกจากโดนคนอื่นด่าลับหลังแล้ว กฎหมายก็ยังระบุให้ตำรวจที่พบเห็นสามารถจับปรับได้ทันที เพราะพรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 11 ข้อ 3 (ทวิ) มีบอกไว้ว่า “ในกรณีที่รถมีโคมไฟเพื่อใช้ตัดหมอก จะเปิดไฟหรือใช้แสงสว่างได้เฉพาะในทางที่จะขับรถผ่านมีหมอก ควัน หรือฝุ่นละอองจนเป็นอุปสรรคอันอาจเกิดอันตรายในขณะขับรถ และเมื่อไม่มีรถอยู่ด้านหน้าหรือสวนมาในระยะของแสงไฟ” หากเปิดพร่ำเพรื่อ โดยไม่อยู่ในสถานการณ์ที่กำหนด มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
ไฟตัดหมอก ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่ามีหน้าที่ทะลวงหมอกควัน ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยตอนที่สุดวิสัยจริง ๆ ที่มองทางได้ไกลถึง 150 เมตรตามกฎหมาย ซึ่งในประเทศไทยนั้นแทบจะไม่ต้องใช้เลย นอกจากว่าคุณอยู่ในพื้นที่ดอยสูงที่มีหมอกหรือไฟป่าอยู่บ่อย ๆ และไม่ว่าจะเปิดใช้ตอนไหนก็ตาม เมื่อมีรถสวนผ่านมาหรือมีรถขับตามหลังมา ต้องปิดไฟตัดหมอกหน้า-หลังทุกครั้ง เพื่อไม่รบกวนสายตาคนใช้ถนนร่วมกัน ถือเป็นมารยาทที่คนมีตังค์ซื้อรถควรจะมีติดตัวไว้โดยอัตโนมัติ
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });