HERE คว้าอันดับที่ 1
Google ได้คะแนนจากความครอบคลุม
TomTom ดีกว่า Google ในบางเรื่อง
Google Maps อาจถือว่าเป็นแอพนำทางที่คนนิยมมากที่สุด เพราะมันถูกพัฒนาจนตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ได้ทั้งหมดแล้ว
ทั้งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สามารถใช้ได้ทุกแพลทฟอร์ม ทั้ง iOS และ Android มีคุณสมบัติช่วยเหลือเราเมื่อยามจำเป็นอีกมากมาย และยังใช้แผนที่ได้แม้ตอนไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต
แม้จะดีขนาดนี้ แต่ Google Maps ก็ไม่ใช่ที่ 1 ในตลาด…
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
HERE คว้าอันดับที่ 1
จากการวิเคราะห์โดย Counterpoint Research พิจารณาจากแอพนำทางและที่เกี่ยวข้องกับแผนที่และตำแหน่ง โดยจะใช้เกณฑ์ทั้งหมด 7 อย่างที่จะบอกว่าแต่ละแอพนั้นทำงานได้ดีหรือไม่ เช่น ข้อมูลของแผนที่ ความแม่นยำของตำแหน่ง ระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา(developer ecosystem) หรือความสามารถในการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ
ด้วยเกณฑ์เหล่านี้ ทำให้ในภาพรวม แอพที่ชื่อว่า HERE คว้าอันดับที่ 1 ไป นอกจากเหตุผลในด้านของซอฟท์แวร์แล้ว ยังเป็นเรื่องของการขยายพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่องและการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทั่วโลกที่มากกว่าอันดับอื่น ๆ
Google สามารถบอกเส้นทางและตัวเลือกอื่น ๆ ได้
Google ได้คะแนนจากความครอบคลุม
จากผลการวิจัยนี้ทำให้ Google กลายเป็นอันดับ 2 เนื่องจากทาง Counterpoint กล่าวว่ากูเกิลทำคะแนนได้ดีในหลายหมวดหมู่ ได้แก่ ความครอบคลุมของแผนที่ ความสดใหม่ของข้อมูลแผนที่ และการผลักดันเทคโนโลยี AR
สามารถบอกได้ถึงความสูงจากระดับน้ำทะเล ?
TomTom แม้ได้อันดับ 3 แต่ดีกว่า Google ในบางเรื่อง
แต่ในทางกลับกัน เมื่อมาในเรื่องของระบบนำทาง ความครอบคลุมของแผนที่ออฟไลน์ และส่วนอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อผู้ขับขี่ในยุคนี้แล้ว TomTom ถือว่าเป็นผู้นำ
โดย Counterpoint ให้เหตุผลว่า TomTom มาในทิศทางที่ถูกต้อง เพราะบริษัทขยายตัวอย่างมากในด้านความช่วยเหลือแก่ผู้ผลิตรถยนต์ในการเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ใหญ่ ๆ ในอุตสาหกรรม (ในระบบปฏิบัติการ IndiGO)
ระบบปฎิบัติการของ Google ใน Volvo
Google จะทำ Android Auto ให้บูมให้ได้
Google ก็ทำงานอย่างหนักเพื่อเป็นผู้ให้บริการซอฟท์แวร์ในอุตสาหกรรมยานยนต์เช่นกัน ด้วยการที่พยายามโน้มน้าวให้ผู้ผลิตรถยนต์ใส่ Android Automotive เข้าไปในระบบ infotainment ของรถยนต์
เซิร์จเอนจิ้นยักษ์ใหญ่ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายรายแล้ว เช่น Volvo , Renault และอีกหลายราย โดยการนำ Android Auto มาใช้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
และ Android Auto สามารถติดตั้งมาให้จากโรงงาน ซึ่งจะทำให้ได้รับประสบการณ์การขับขี่ จากบริการของกูเกิลอย่างเต็มรูปแบบ โดยอนุญาตให้บริการ เช่น Google Assistant และ Google Maps นำข้อมูลจากตัวรถมาใช้ได้
ดูจากความทุ่มเทในการพัฒนาแอพนำทางของแต่ละค่ายแล้วก็พอมั่นใจในระดับหนึ่งว่า ในอนาคตแอพนำทางเหล่านี้จะไม่พาเราหลงไปไหนแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม : Volvo จะพลิกโฉมหน้าความบันเทิงในรถยนต์ ด้วยความร่วมมือกับ Google แต่ไทยจะได้ใช้ไหม?
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });