แม้จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมอย่าง Tesla Model 3 (เทสล่า โมเดล 3) และ Tesla Model Y (เทสล่า โมเดล วาย) ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autopilot) แบบเรดาร์มานาน แต่เหมือนเทสล่าเองกำลังปรับไปสู่อีกขั้นของเทคโนโลยี
เพราะมีรายงานข่าวออกมาแล้วว่า พวกเขาเตรียมที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติใหม่ โดยหันมาใช้ระบบกล้องและอัลตร้าโซนิคในการควบคุมรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และจะเริ่มจากตลาดสหรัฐอเมริกาเหนือในทันที
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของโลก ที่หันมาใช้ระบบกล้องติดตั้งที่รถ ในการควบคุมระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ รวมถึงการขับเคลื่อนด้วยตัวเองแบบ 100%
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
แก้ไขปัญหาเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น
ในช่วงหลัง ๆ นั้น เทสล่ามักจะประสบปัญหาในเรื่องของระบบขับขี่ที่ประสบอุบัติหตุหลาายต่อหลายครั้ง เป็นเหตุให้มีการตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในการใช้งานระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ว่ามีความปลอดภัยในการใช้งานจริง ๆ หรือไม่
การถอดเอาเรดาร์เซนเซอร์จากรถยนต์รุ่นยอดนิยมแล้วเปลี่ยนมาใช้ระบบกล้องถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากการที่ค่ายรถยนต์หลายแห่งยังเชื่อในประสิทธิภาพของเรดาห์ในการมองเห็นที่ระดับความเร็วและทัศนวิสัยที่แตกต่างกันไป
แต่กับเทสล่าแล้ว มีการเปิดเผยว่าซีอีโอของพวกเขานั้นมีความนิยมชมชอบในระบบที่สามารถมองเห็นได้มากกว่าสำหรับการใช้งานในรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ นั่นก็หมายถึงการทำงานร่วมกันของระบบกล้องมองภาพและอัลตร้าโซนิคนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่าในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านไปใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อาจจะบางฟังชั่นส์ที่ถูกจำกัดการใช้งานที่ความเร็วที่กำหนดเอาไว้ รวมถึงอาจจะมีบางฟังชั่นส์ที่หยุดการทำงานระหว่างการใช้งานระบบนั้น ๆ ได้เหมือนกัน
ปัญหาดังกล่าวอยู่ระหว่างการแก้ไข และจะได้รับการอัพเดตแบบไร้สายในเร็ววัน และลูกค้าที่สั่งจองรถทั้ง 2 รุ่นจะได้รับการแจ้งเตือนก่อนรับรถ ซึ่งการเลือก 2 รุ่นนี้มาทำตลาดก่อน ก็เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลและนำมาปรับปรุงได้อย่างรวดเร็ว
ระบบที่ปลอดภัยภายใต้การดูแลของมนุษย์
เทสล่าเลือกรถที่ขายดีที่สุดของพวกเขา 2 รุ่นมาทำการทดลองจริงบนท้องถนน เพื่อให้ได้ข้อมูลการใช้งานจริงที่มาพอในเวลาที่รวดเร็วที่สุด และหากทุกอย่างมีความพร้อมในอนาคต เทสล่าก็พร้อมที่จะขยายระบบดังกล่าวไปยังรถทุกรุ่นทันที
อย่างไรก็ตาม เทสล่าได้ออกคำเตือนอย่างเป็นทางการว่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ รวมไปถึงระบบขับขี่ด้วยตัวเองนั้น ยังต้องการการเอาใจใส่อย่างเข้มงวดอย่างมากจากเข้าของรถ ที่อาจคิดว่าพวกเขาปลอดภัยในรถที่แล่นไปด้วยตัวเองทั้งหมด
ปัญหาเรื่องของความปลอดภัยในระบบการขับขี่อัตโนมัติยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่มาก ว่ามีความพร้อมเพียงใดในการใช้งานจริง หรือแม้แต่ระบบพื้นฐานของรถหลายค่ายก็ยังถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายอยู่ ส่วนหนึ่งก็มาจากผู้บริโภคใช้งานไม่เป็นนั่นล่ะ
Pisan
หัวหน้าทีมบรรณาธิการ
Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่วโมง ที่้บ้านใช้งานรถหลายแบบ ตั้งแต่อีโคคาร์ เอ็มพีวีไปยันปิกอัพ อยู่ในวงการมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ทำมาแล้วทุกอย่างทั้งงานเปิดตัว ทดสอบรถ ผ่านการอบรมการขับขี่ตั้งแต่คอร์สเริ่มต้นไปจนแอดวานซ์จากค่ายรถมากมายทั้งในและต่างประเทศ ยังเชื่อว่ารถทุกคันทำมาสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม ถ้ามันไม่เหมาะกับคุณ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ดีสักหน่อยนะ...
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });