2022 Mercedes-Benz CLS (2022 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอส) ได้รับการปรับโฉมใหม่แล้ว เตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า
CLS รุ่นไมเนอร์เชนจ์มาพร้อมแพ็คเกจชุดแต่ง AMG Line เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ทำให้รถซีดานสไตล์คูเป้รุ่นนี้มีความปราดเปรียวมากขึ้น เหมาะสำหรับลูกค้า Mercedes-Benz คนรุ่นใหม่ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ผสมผสานความสง่างามและความสปอร์ตอย่างลงตัว
ยังไม่มีการเปิดเผยราคาจำหน่ายของรุ่นปรับโฉมใหม่นี้ แต่คาดว่าจะไม่ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมมากนัก เรามาชมความโดดเด่นของทั้งภายนอกและภายในกันเลย
รูปลักษณ์คงสไตล์เดิม เพิ่มเติมความโฉบเฉี่ยว
รูปร่างหน้าตาของ CLS ปี 2022 ยังคงเอกลักษณ์แนวหลังคาลาดเอียงที่เห็นปุ๊ปก็รู้ชื่อรุ่นทันที ภายนอกได้รับการปรับดีไซน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพิ่มความสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าชุดใหม่แพทเทิร์นแบบสามมิติ ประทับตราดาวสามแฉกดึงดูดทุกสายตา แผงกันชนหน้ามีเส้นสายหวือหวามากขึ้น และตัวถังสีน้ำเงิน Starling Blue Metallic เป็นสีฮีโร่ใหม่ล่าสุด
ไฟหน้าของ CLS ไมเนอร์เชนจ์เปลี่ยนเป็นแบบโคมใสที่ส่วนมุม ขณะที่บั้นท้ายประดับตกแต่งด้วยโครเมียม ท่อไอเสียทรงเหลี่ยม และแผงดิฟฟิวเซอร์ชุดใหม่
ล้ออัลลอยของ CLS ใหม่มีทั้งลวดลายซี่ถี่ที่กำลังได้รับความนิยมขนาด 19 นิ้ว และล้อสีเทาหรือดำเงาแบบ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้วให้ลูกค้าได้เลือกสรร
ภายในห้องโดยสารมีการปรับดีไซน์พวงมาลัยหุ้มหนัง nappa ใหม่ที่มีเซ็นเซอร์รองรับการควบคุมสั่งการในตัวรถ การตกแต่งมีทั้งไม้วอลนัทโทนสีน้ำตาลและสีเทาพื้นผิวมันวาว นอกจากนี้ยังมีหนังสีดำหรือน้ำตาล รวมถึงสีเทาแบบทูโทน ทั้งหมดเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้ตัดสินใจตามรสนิยมของตนเอง
บนแดชบอร์ดมีจอคู่ 10.25 นิ้ว ประกอบด้วยมาตรวัดดิจิทัลและจออินโฟเทนเมนท์เชื่อมต่อเป็นแผ่นเดียวเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีจอคู่ขนาด 12.3 นิ้วเป็นอ็อปชั่นเสริม รองรับระบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานเพื่อตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายสูงสุด
ขุมพลังขับเคลื่อนยังมีทั้งเบนซินและดีเซล
มาดูกันที่เครื่องยนต์ดีเซลกันก่อน เริ่มจากบล็อก 4 สูบแถวเรียงในรุ่น CLS 220d และ CLS 300 d 4Matic ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงใน CLS 400 d 4Matic พละกำลังมีตั้งแต่ 194 – 330 แรงม้า และมีแรงบิดอยู่ระหว่าง 400 – 700 นิวตันเมตร
ตัวท็อป CLS 300 d 4Matic สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ได้ในเวลา 5.2 วินาที และมีท็อปสปีดอยู่ที่ 250 กม.ต่อชม.
ขณะที่เครื่องยนต์เบนซิน เริ่มต้นที่รุ่น CLS 350 วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ตามมาด้วย CLS 450 4Matic มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง และรหัสแรง CLS 53 4Matic+ ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง พละกำลังมีตั้งแต่ 299 – 435 แรงม้า และมีแรงบิด 400 – 520 นิวตันเมตร
แน่นอนว่า CLS 53 4Matic+ สามารถทำอัตราเร่งได้เร้าใจที่สุด ออกตัวจากหยุดนิ่งถึง 100 กม.ต่อชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุดล็อกไว้ที่ 250 กม.ต่อชม.
อัพเกรดระบบความปลอดภัย
CLS ใหม่ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ถูกอัพเกรดใหม่อย่างระบบ Active Brake Assist ที่ช่วยป้องกันการชนด้วยระบบเบรกอัตโนมัติและสามารถตรวจจับผู้ใช้ทางเท้าได้ และมีระบบ Active Speed Limit Assist ที่ช่วยตรวจจับการจำกัดความเร็วตามถนนแต่ละเส้นทาง
นอกจากนี้ยังมีระบบ Active Stop-and-Go Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและรักษาระยะห่างจากคันหน้าด้วยความเร็วสูงสุด 60 กม.ต่อชม. เหมาะสำหรับการขับขี่ท่ามกลางจราจรที่หนาแน่น รวมถึงระบบ Automatic Parking ที่ช่วยควบคุมตัวรถให้เข้าจอดในซองและออกจากช่องจอดได้โดยอัตโนมัติ