All-New 2021 Porsche Taycan Cross Turismo (2021 ปอร์เช่ ไทคานน์ ครอส ทัวริสโม) เผยโฉมอย่างเป็นทางการด้วยสัดส่วนทรวดทรงที่ตระการตาอย่างมาก
2021 Taycan Cross Turismo ถูกพัฒนาต่อยอดจากรถต้นแบบ Mission E Cross Turismo ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2018 รูปลักษณ์ภายนอกแทบจะไม่แตกต่างกันเลย นั่นหมายถึง Porsche สามารถถ่ายทอดแนวทางสุดล้ำของคอนเซปต์คาร์มาไว้ในรถโปรดักชั่นคาร์ได้อย่างแนบเนียน
Porsche ระบุว่า 2021 Taycan Cross Turismo รุ่นใหม่นี้ขึ้นสายการผลิตอย่างเป็นทางการแล้ว และจะเปิดตัวออกจำหน่ายใน 5 ตลาดสำคัญก่อนใครเพื่อน ได้แก่สหรัฐอเมริกา อังกฤษ นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ส่วนตลาดอื่น ๆ ต้องรอกันไปก่อน
สปอร์ตปราดเปรียว อเนกประสงค์แฝงความบึกบึน
ไฮไลท์ของรูปลักษณ์ภายนอกอยู่ที่แนวหลังคาที่ดีไซเนอร์ Porsche เรียกว่า flyline เทลาดอย่างละมุนละม่อมมาถึงบั้นท้ายซึ่งไม่เพียงโดดเด่นสะดุดตาแต่ยังช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะในห้องโดยสารและเนื้อที่จัดเก็บสัมภาระที่ส่วนท้ายรถ
ถ้าต้องการความบึกบึนมากขึ้น Porsche นำเสนอแพ็คเกจ Off-Road Design ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำกันกระแทกที่กันชนหน้าและหลัง รวมถึงด้านข้าง นอกจากนี้ยังมีราวหลังคาสำหรับติดตั้งจักรยานเพิ่มเติมนอกเหนือจากการแขวนที่แร็กท้ายรถ ส่วนล้ออัลลอยมีให้เลือกกัน 3 รูปแบบ ขนาด 20 – 21 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารยกมาจาก Taycan รุ่นสแตนดาร์ด มีจอแสดงผล 3 ตัวทั้งมาตรวัด อินโฟเทนเมนท์ และระบบปรับอากาศ พร้อมกับมีอ็อปชั่นเสริมเป็นจอตัวที่ 4 ที่ฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า ส่วนถ้าเลือกแพ็คเกจ Off-Road Design ก็จะมีเข็มทิศติดตั้งมาให้ด้วย
การออกแบบแนวหลังคาที่คำนวณมาอย่างดีทำให้พื้นที่เหนือศีรษะเพิ่มขึ้น 47 มม. ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระที่ส่วนท้ายอยู่ที่ 446 ลิตรหรือเพิ่มขึ้น 40 ลิตรเมื่อเทียบกับ Taycan สแตนดาร์ด หากพับเบาะแถวหลังแบบแยกส่วน 60:40 พื้นที่จะขยายเป็น 1,212 ลิตร ส่วนช่องเก็บของด้านหน้าอยู่ที่ 84 ลิตร
ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งหลากหลายรูปแบบ ทั้งการใช้วัสดุหนังทั้งหมดหรือหนังบางส่วน ลูกค้ายังสามารถอัพเกรดเป็นหนังแบบคลาสสิกเรียกว่า Club Leather OLEA ใช้ใบมะกอกในการสร้างสีน้ำตาลหรือจะเลือกตกแต่งด้วยวัสดุประเภทอื่นที่ไม่ใช่หนังก็สามารถทำได้ อาทิ ไมโครไฟเบอร์ Race-Tex ที่ปล่อยมลพิษต่ำกว่าวัสดุดั้งเดิมถึง 80%
มีจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่นย่อย
2021 Taycan Cross Turismo มีให้ลูกค้าเลือกจับจองทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ทั้งหมดมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนช่วงล่างเป็นแบบถุงลมยึดเกาะถนนยอดเยี่ยมและนุ่มนวลตามสไตล์ Porsche
รุ่นเริ่มต้นมีพละกำลัง 380 แรงม้า (476 แรงม้าในโหมดโอเวอร์บูสต์) แรงบิด 500 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ภายใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม.ต่อชม. มีระยะทางขับขี่อยู่ที่ 389 – 456 กม. ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
ถัดมาคือรุ่น Taycan 4S Cross Turismo มีพละกำลัง 490 แรงม้า (571 แรงม้าในโหมดโอเวอร์บูสต์) แรงบิด 650 นิวตันเมตร เร่งออกตัวจาก 0-100 กม.ต่อชม. ภายใน 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม.ต่อชม. มีระยะทางขับขี่ 388 – 452 กม. ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
รุ่นรองท็อปคือ Taycan Turbo Cross Turismo พละกำลัง 625 แรงม้า (680 แรงม้าในโหมดโอเวอร์บูสต์) แรงบิด 850 นิวตันเมตร ออกตัวจากหยุดนิ่งถึง 100 กม.ต่อชม. ใน 3.3 วินาที ท็อปสปีดจำกัดไว้ที่ 250 กม.ต่อชม. ขับขี่ได้ไกล 395 – 452 กม.ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
สำหรับรุ่นท็อป Taycan Turbo S Cross Turismo รีดพลัง 625 แรงม้า (761 แรงม้าในโหมดโอเวอร์บูสต์) และมีแรงบิดกระฉูดแตก 1,050 นิวตันเมตร เพียงพอที่จะกระชากตัวถังหนัก 2,230 กก. จาก 0-100 กม.ต่อชม. ภายใน 2.9 วินาทีเท่านั้น ระยะทางขับเคลื่อน 388 – 419 กม. ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมแบตเตอรี่ Performance Battery Plus แบบสองชั้นขนาด 93.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยสามารถชาร์จไฟออนบอร์ด 11 กิโลวัตต์ใช้เวลา 9 ชั่วโมง หรือ 50 กิโลวัตต์ใช้เวลา 30 นาทีจะวิ่งได้ 100 กม. ขณะที่การชาร์จไฟด่วน 270 กิโลวัตต์ ใช้เวลาเติมพลังงาน 5 – 80% ในเวลาไม่ถึง 23 นาที
โหมดการขับขี่ Gravel
อีกหนึ่งความพิเศษของ 2021 Taycan Cross Turismo คือการเพิ่มโหมดการขับขี่ลำดับที่ 5 นั่นคือ Gravel ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่บนเส้นทางขรุขระหรือทางออฟโรดแบบเบาะ ๆ การถ่ายทอดกำลังจะทำผ่านระบบเกียร์ 2 สปีดที่กระจายแรงบิดอย่างเหมาะสม
ส่วนอีก 4 โหมดการขับขี่ได้แก่ Range, Normal, Sport และ Sport Plus เหมือนกับที่ติดตั้งอยู่ใน Taycan รุ่นมาตรฐาน
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ครบครันตามสไตล์รถพลังงานไฟฟ้าซูเปอร์พรีเมียมภายใต้แพ็คเกจ Porsche InnoDrive ทั้งระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบล็อกความเร็วแปรผัน ระบบป้องกันการออกนอกเลน และระบบแจ้งเตือนเมื่อขับขี่ผ่านทางแยกเป็นต้น
ราคาจำหน่ายของ 2021 Porsche Taycan Cross Turismo เริ่มต้นที่ 90,900 เหรียญสหรัฐ