2021 BMW 4-Series Convertible (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4) รถสปอร์ตเปิดประทุนรุ่นใหม่ได้รับการเผยโฉมอย่างเป็นทางการ ต่อเนื่องจากการเปิดตัวรุ่นคูเป้ที่เรียกเสียงฮือฮาด้วยกระจังหน้าแบบโอเวอร์ไซส์

4-Series Convertible มีความแตกต่างจากรุ่นคูเป้ตรงที่ใช้แผงหลังคาผ้าใบซอฟท์ท็อปซึ่งช่วยลดน้ำหนักตัวรถ พร้อมกับมีการออกแบบอย่างพิถีพิถันที่ไม่ส่งผลต่อพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ โดยมีความจุอยู่ที่ 255 ลิตร มากกว่าเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า 34 ลิตร และยังช่วยให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลงจึงมีสมรรถนะการขับขี่ดีขึ้น

หลังคาผ้าใบของ 4-Series Convertible ยังมีการบุวัสดุกันเสียงหลายชั้นเพื่อความเงียบสงบขณะขับขี่ แผงหลังคามีทั้งสีดำมาตรฐานและสีดำมูนไลท์ (Moonlight) เป็นอ็อปชั่นเสริมซึ่งจะให้เฉดสีเมทัลลิกเมื่อมีแสงแดดตกกระทบ การเปิดหรือปิดหลังคาใช้เวลา 18 วินาทีที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม.ต่อชม.

รุ่นย่อยของ 4-Series Convertible เริ่มต้นที่ 430i และ 430i xDrive วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พละกำลัง 255 แรงม้าที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 295 ฟุตปอนด์ที่ 1,550 – 4,400 รอบต่อนาที ขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ

ส่วนรุ่นบนได้แก่ M440i และ M440i xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พละกำลัง 382 แรงม้า แรงบิด 369 ฟุตปอนด์ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อพร้อมเฟืองท้าย M Sport

กระจังหน้าโอเวอร์ไซส์ 2021 BMW 4-Series Convertible ขนาดใหญ่เกินควร?  

BMW ริเริ่มใช้กระจังหน้าไตคู่ (kidney grille) ครั้งแรกกับรถ BMW 303 ในปี 1933 ก่อนจะกลายเป็นเครื่องหมายการค้าที่มีผู้คนจดจำได้มากที่สุด เทียบเท่าได้กับโลโก้ M ทรงโค้งของยักษ์ใหญ่เชนฟาสต์ฟู๊ดอย่างแมคโดนัลด์ และขวดเครื่องดื่มน้ำอัดลมของโคคา-โคล่า

การออกแบบกระจังหน้ามีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทศวรรษ 1960 ซึ่งเป็นยุคที่ขนาดกระจังหน้าถูกย่อส่วนลง ก่อนที่จะเข้าสู่ยุค 1980 เป็นต้นมาที่ดีไซน์กระจังมีขนาดใหญ่ขึ้นและคงรูปโฉมเดิมอย่างไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักจนล่วงเลยผ่านถึงยุค 2000

จนมาถึงช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ BMW ทำการพลิกโฉมการออกแบบกระจังใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มต้นจากรถพรีเมียมรุ่นใหญ่ตระกูล 7-Series และ X7 ที่มาพร้อมกระจังไตคู่ทรงกว้าง มีขนาดใหญ่เตะตาจนแทบจะกินพื้นที่ตรงกลางทั้งหมดของด้านหน้าตัวรถ

กระทั่งล่าสุด BMW นำเสนอ G22 4-Series, G80 M3 และ G84 M4 ทั้งหมดมาพร้อมกระจังหน้าแบบโอเวอร์ไซส์ทรงตั้งคล้ายฟันหนู เรียกเสียงวิจารณ์ทั้งในด้านบวกที่แฟน ๆ มองว่าช่วยสร้างความสดใหม่และไม่เหมือนใคร และในด้านลบที่บางคนคิดว่ามันใหญ่เกินควร

อดีตหัวหน้าทีมดีไซเนอร์ BMW ไม่เห็นด้วยกับกระจังโอเวอร์ไซส์

แฟรงค์ สตีเฟนสัน อดีตหัวหน้าทีมนักออกแบบของ BMW ซึ่งเพิ่งเปิดช่องยูทูบของตนเอง เปิดเผยว่า เขาไม่ได้เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ชื่นชอบแนวทางการออกแบบใหม่ของ 4-Series อย่างแน่นอน

“การออกแบบกระจังหน้าขนาดใหญ่ไม่ใช่ทิศทางที่ดีนัก นั่นเป็นความเห็นส่วนตัวของผม” สตีเฟนสัน กล่าว พร้อมกับชี้ว่าการออกแบบกระจังหน้า BMW แบบดั้งเดิมอาจเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่ไม่จำเป็นต้องทำให้ใหญ่ขนาดนั้น ดีไซเนอร์อาจทำการใส่ความโค้งมน เพิ่มระยะห่างระหว่างกระจังหน้า หรือเปลี่ยนตำแหน่งป้ายทะเบียนใหม่ แทนที่จะใช้วิธีขยายขนาดอย่างเดียว

สุดท้าย แฟรงค์สตีเฟนสันให้คะแนนการออกแบบ 4-Series ใหม่อยู่ที่ 6 เต็ม 10 ถือว่าสอบผ่านฉิวเฉียด แต่ก็ไม่ได้ถือว่าดีเลิศเลออะไรมากนัก