เป็นไปได้อย่างไรที่ ชายคนนี้ถูกจับข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนดถึง 2 ครั้งภายใน 2 นาที?

ชายคนหนึ่งถูกจับด้วยข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนด ซึ่งเราอาจมองว่าเป็นการทำผิดทั่ว ๆ ไป แต่เขาถูกจับด้วยข้อหาขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดถึง 2 ครั้งใน 2 นาทีเท่านั้นในลาส เวกัส เขาสามารถทำแบบนี้ได้อย่างไรกันนะ

• ครั้งแรกยังได้ใจ
• ครั้งต่อไปโดนเต็ม ๆ
• เกิดขึ้นเพราะ การร่วมมือของตำรวจระหว่างเขต

การขับรถเร็วเกินกำหนดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรง และเป็นสาเหตุสำคัญที่เหล่าผู้รักษากฎหมายทั่วโลกต้องการปราบปรามการขับรถเร็วนี้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ได้แก่ ใบสั่ง ค่าปรับ และอีกมากมาย 

ผู้ขับขี่หลายคนเชื่อว่าการขับรถเร็วนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แม้รถจะเร็ว แต่พวกเขาเชื่อว่าเขาควบคมรถได้ และค่าปรับจากใบสั่งก็ไม่ได้มากมายนัก แต่บางครั้งตำรวจอาจจะยึดรถไปจนถึงควบคุมตัวเราหากการขับขี่นั้นอันตรายต่อผู้อื่นเกินไป

อ่านเพิ่มเติม : ชายถูกยึดรถ Saab ที่ความเร็ว 182 กม./ชม.พร้อมปรับ 32,000 บาท เกินกว่าเหตุไหม

ครั้งแรกยังได้ใจ

Jeffrey Hair และ Chevy Camaro SS ของเขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ NLVPD หยุดในครั้งแรกที่ Lake Mead Boulevard ในลาส เวกัส หลังจากที่ขับด้วยความเร็ว 73 ไมล์/ชม. (117 กม./ชม.) ในโซน 35 ไมล์/ชม. (56 กม./ชม.) หลังจากเสียค่าปรับแล้ว ก็ไม่ได้ทำให้เขาเข็ดหลาบหรือฉุกคิดขึ้นมา และยังคิดว่าโอกาสที่จะถูกจับครั้งต่อไปทันทีนั้นคงเป็นไปไม่ได้

ครั้งต่อไปโดนเต็ม ๆ

แต่ในความจริงแล้ว ไม่มีอะไรเป็นประกันแก่เราว่าสิ่งนั้นจะเกิดกับเราซ้ำหรือไม่ ในอีก 2 นาทีถัดมา ที่ 5th Street ทางตอนใต้ของถนน Brooks การถูกจับครั้งที่สองนี้เขาไม่ได้ขับรถเร็วเท่านั้น แต่ยังขับเร็วขึ้นอีกด้วย ที่ 106 ไมล์/ชม. (170 กม./ชม.) ในโซน 35 ไมล์/ชม. ในครั้งนี้เขาไม่ได้รับเพียงใบสั่ง แต่เขาถูกตำรวจจับด้วยข้อหาขับรถโดยประมาทและรถของเขาก็ถูกยึดไปด้วย

เกิดขึ้นเพราะ การร่วมมือของตำรวจระหว่างเขต

ความโชคร้ายของเขาคือ “การร่วมมือกันระหว่างหลายเขตอำนาจศาล” ระหว่างหน่วยงานตำรวจในลาส เวกัส หลายแห่งที่มุ่งเป้าไปที่การปราบปรามผู้ขับขี่ที่ขับเร็ว 

แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็สามารถเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้ ให้เราจำไว้ว่า การขับรถเร็วอาจจบลงที่แย่ยิ่งกว่าการติดคุก เนื่องจากมีคนหลายพันคนสูญเสียชีวิตทุกปีจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับความเร็ว

อ่านเพิ่มเติม : เขาว่า "รถติด วิ่งเร็วไม่ได้ ไม่เกิดอุบัติเหตุ" นั้นจริงหรือไม่?

(ขอขอบคุณภาพจาก NLVPD)