Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคาน) เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคที่ดีเป็นอย่างมาก ด้วยยอดขายในปีนี้ที่แซงรุ่นพี่อย่าง 911 รวมถึงรถสปอร์ตทุกคันในค่าย สาเหตุอาจมาจากความนิยมในรถยนต์ไฟฟ้าและนโยบายลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากรัฐบาลของแต่ละประเทศ
Porsche (ปอร์เช่) ได้เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ GTS ให้กับ Taycan ทั้งสองตัวถัง (Taycan และ Taycan Cross Turismo) แต่จะเป็นชุดแต่งแบบสปอร์ต ไม่มีตัวถังวากอนแบบลุย ๆ อีกต่อไป
จึงกลายเป็น Porsche Taycan GTS (ปอร์เช่ ไทคาน จีทีเอส) ในตัวถังซีดาน และตัวถังวากอน Porsche Taycan GTS ‘Sport’ Turismo (ปอร์เช่ ไทคาน จีทีเอส สปอร์ต ทัวริสโม) ที่ไม่มี ‘Cross’ แล้ว โดยทั้งสองโมเดลจะเริ่มเปิดขายในปีหน้า
การผสมผสานที่ลงตัว
ทางปอร์เช่ให้นิยามรุ่นย่อย GTS ว่าเป็นการ “ผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะและความหรูหรา” ซึ่ง Taycan GTS ทั้งสองตัวถังจะถูกวางอยู่กึ่งกลางระหว่าง Taycan Turbo รุ่นบนสุดและ Taycan 4S
Taycan Turbo มีกำลังสูงสุด 670 แรงม้า และ 4S มีกำลังสูงสุด 462 แรงม้า ดังนั้น Taycan GTS ทั้งสองตัวถังจึงถูกวางให้มีกำลังสูงสุด 590 แรงม้า ถ้าใช้ระบบ Launch Control และตัวเลข 0-60 ไมล์/ชม. (96.5 กม./ชม.) อยู่ที่ 3.5 วินาที
พละกำลังที่ล้นเหลือนั้นมาจากแบตเตอรี่ Performance Battery Plus ขนาด 93.4 kWh ซึ่งมีกำลังไฟ 800 โวลต์ ซึ่งสามารถรองรับความร้อนในเวลาที่เราซิ่งอย่างต่อเนื่องได้ สามารถรองรับการชาร์จที่ความเร็วสูงสุด 270 kW ซึ่งทั้งสองตัวถังสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 5-80% ในเวลา 22.5 นาที
ช่วงล่างและอุปกรณ์ต่าง ๆ นำมาจาก Taycan Turbo เป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าการปรับแต่งแบบ GTS จะเป็นแบบใหม่ทั้งหมด โดยมี ช่วงล่างแบบถุงลม adaptive air suspension, ระบบ smart lift และช่วงล่างที่ปรับตามสภาพถนนอัตโนมัติ
ระบบ Porsche Torque Vectoring(PVT) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมด้วย Sport Chrono Package และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ GT
อ่านเพิ่มเติม : Porsche Taycan โชว์เหนือ Tesla Model S ด้วยการชาร์จไร้สาย 0-80% ใน 10 นาที
ระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรคทั้ง 4 ล้อ โดยล้อคู่หน้าจะเป็นขนาด 6 พอท และคู่หลัง 4 พอท ซึ่งนำมาจาก Taycan 4S แต่จานเบรคด้านหน้าจะใหญ่กว่า 4S(360 มม.) 30 มม. เป็น 390 มม. และเพิ่มประสิทธิภาพจากเดิมด้วยการเคลือบ tungsten carbide และสามารถติดตั้ง Porsche’s Ceramic Composite Brakes (PCCB) เป็นออพชั่นเสริม
แนวคิดการตกแต่งจากรุ่นพี่
Taycan GTS ทั้งสองตัวถังจะมีแพ็คเกจการตกแต่งภายในด้วย Race-Tex เส้นใยไมโครไฟเบอร์ ที่นำมาจาก GTS รุ่นพี่ในค่าย เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 18 ทิศทาง พร้อมโลโก้ GTS บนหมอนรองศีรษะทั้งเบาะหน้าและหลัง
เราสามารถมี GTS Interior Package เป็นออพชั่นเสริม ซึ่งจะเพิ่มเติมตะเข็บสีแดง Carmine red หรือสีขาว Chalk ภายในรถ ในแพ็คเกจนี้ยังมี Sport Chrono instrument dial และโลโก้ปอร์เช่ที่พรมของรถ รวมถึงการตกแต่งบนพวงมาลัย คอนโซลกลาง และแผงประตู ที่เป็นคาร์บอนแบบด้านทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน ภายนอก ด้านหน้าเพิ่มความดุดันจากเดิมด้วยชุดแต่ง SportDesign และรวมไปถึงด้านข้างด้วย โลโก้ GTS ที่สเกิร์ตด้านข้าง การตกแต่งที่ขอบหน้าต่างเป็นสีดำเงาทั้งหมด ด้านหลังติดตั้งดิฟฟิวเซอร์แบบพิเศษ และโลโก้บอกชื่อรุ่นสีดำด้าน
ล้ออัลลอย 20 นิ้วจาก Taycan Turbo S ลาย Aero Design พ่นในสีพิเศษ Satin Black เฉพาะรุ่นนี้ และสามารถเพิ่มออพชั่นเป็นล้ออัลลอย 21 นิ้ว ลาย RS Spyder Design ในสีเดียวกันได้ ไฟหน้าแบบ Matrix PDLS Plus แบบรมดำ และกระจกข้างที่ด้านล่างเป็นสีดำตัดกับสีของตัวรถ
ตัวถังวากอนที่ไม่มี ‘Cross’
Taycan GTS Sport Turismo จะเป็นรถวากอนที่มีพื้นฐานจาก Cross Turismo แต่จะเน้นการตกแต่งสำหรับการขับขี่บนถนนเป็นหลัก ซึ่งจะนำการตกแต่งที่ดูลุย ๆ ออก เช่น สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถ และไม่มีชิ้นส่วนสีดำบริเวณโป่งล้อ ด้านการปรับความสูงจะใช้ร่วมกับ Taycan ตัวถังซีดานเพื่อลดจุด CG ให้ต่ำลง
แต่อย่างไรก็ตาม พื้นที่เก็บของจะเท่ากับรุ่นปกติ Cross Turismo อยู่ที่ 445 ลิตร และ 1,212 ลิตรหลังจากการพับเบาะหลังทั้งหมด ส่วนที่เก็บของด้านหน้า ทั้งสองตัวถังมีขนาดเท่ากัน อยู่ที่ 82 ลิตร
Taycan GTS Sport Turismo ยังคงมีหลังคาแก้วแบบเดิมอยู่ ด้านท้ายยังสามารถติดแร็คขนจักรยานได้ หลังคาแก้วมาพร้อม Panoramic Sunroof แบบใหม่ ที่มาพร้อมออพชั่นเสริมปรับความใสของหลังคากระจกได้ (Variable Light Control)
Porsche Taycan GTS ทั้งสองตัวถังจะเริ่มวางขายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 ราคาจำหน่าย Taycan GTS ซีดานในสหรัฐเริ่มต้นที่ 131,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.29 ล้านบาท) และ Taycan GTS Sport Turismo เริ่มต้นที่ 133,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.35 ล้านบาท)
อ่านเพิ่มเติม : ควบกบหลากรุ่น วัดทักษะการขับขี่ใน Porsche World Roadshow 2021