Land Rover (แลนด์ โรเวอร์) เปิดตัว 2022 Range Rover (เรนจ์ โรเวอร์) เอสยูวีสุดหรูเรือธงของค่าย โดยเพิ่งมีรูปหลุดมาเมื่อไม่นานมานี้ มาคราวนี้ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการสักที ในอเมริกา
แม้ว่าบางท่านจะผิดหวังกับ Range Rover เจเนอเรชั่นที่แล้วว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้น ทีมนักออกแบบทุ่มเทกว่า 10 ปีเพื่อเป็นเอสยูวีคันนี้ขึ้นมา
นอกจากดีไซน์ที่ใหม่ทั้งคันแล้ว ยังประกอบด้วยแพลทฟอร์มใหม่และเครื่องยนต์ใหม่ ทั้ง PHEV และมีเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วนให้เลือกในอนาคตด้วย แต่มีอะไรที่น่าสนใจกว่านี้อีกไหม
เริ่มจากภายนอก ไฟหน้าใหม่ กระจังหน้าที่แคบลงและมีเส้นสายที่สะอาดขึ้น ช่องรับอากาศบริเวณกันชนหน้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
แต่ด้านหน้ายังเป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม มือจับประตูที่จะเปิดขึ้นมาเวลาที่เราต้องการและมีเส้นสายไปทางเดียวกับตัวรถพร้อมกับช่องระบายอากาศด้านข้างของตัวรถ
Land Rover ระมัดระวังอย่างมากที่จะไม่ให้เอกลักษณ์ของดีไซน์นั้นหายไป แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ไฟท้ายที่เรียวยาวก็ยังเข้ากันกับเส้นสายของหน้าต่างด้านหลัง
ในด้านของมิติตัวรถ ล้ออัลลอยที่ใหญ่สุดอยู่ที่ 23 นิ้ว ความยาวของตัวรถเพิ่มขึ้นจาก 5000 มม. เป็น 5052 มม. ตัวฐานล้อยาว(LWB) จะยาวกว่ารุ่นปกติ 200 มม. เช่นเดียวกับรุ่นเดิม
มาพร้อมแพลทฟอร์มใหม่ เครื่องยนต์ใหม่
แพลทฟอร์มใหม่ชื่อว่า MLA-Flex Architecture ซึ่งมีความยืดหยุ่นมากสำหรับทั้งเครื่องสันดาป, PHEV ไปจนถึงรถ EV แต่ตอนนี้ยังเปิดตัวไม่ครบทุกรุ่น
เครื่องยนต์มีให้เลือกตั้งแต่ 6 สูบและ 8 สูบ
รหัส P400 เครื่องยนต์ mild-hybrid 6 สูบเรียง Ingenium เบนซินเทอร์โบ 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 395 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร และตัวเลขจาก 0-100 กม/ชม. อยู่ที่ 5.8 วินาที
ส่วนเครื่อง V8 รหัส P530 นำมาจาก BMW X7 M50i เป็นเครื่องเบนซิน 8 สูบ ทวินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 523 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติของ ZF 8 สปีด ทำให้ตัวเลข 0-100 กม./ชม. ได้ที่ 4.6 วินาที
สำหรับชาวยุโรปจะได้ตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลด้วย รหัส D300 และ D350 เป็นเครื่องยนต์ 6 สูบทั้งคู่ กำลังสูงสุด 296 แรงบิด 650 นิวตันเมตร และ 345 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร ตามลำดับ เครื่องรหัส D300 มีตัวเลข 0-100 กม./ชม. ที่ 6.9 วินาที ส่วน D350 จะอยู่ที่ 6.1 วินาที
PHEV และ EV จะตามมาทีหลัง
ยังไม่มีข้อมูลมามากนักเกี่ยวกับเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วนของ Range Rover นอกจากจะเปิดตัวในปี 2024 แต่มีข้อมูลเกี่ยวกับรุ่น PHEV เล็กน้อย
ในรุ่นก่อนจะมีเพียงเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบพ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุดรวมกันที่ 398 แรงม้า และในโหมดไฟฟ้าทำได้ระยะทาง 48 กม. ต่อมาได้เพิ่มเครื่องอีกตัว ที่แบตเตอรี่มีความจุมากขึ้น โหมดไฟฟ้าสามารถวิ่งได้สูงสุด 100 กม. แต่ทาง Land Rover รับรองไว้ที่ 80 กม.
ทั้งสองเครื่องยนต์ประกอบด้วย เครื่อง 6 สูบเรียง Ingenium พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 105 kW พร้อมแบตเตอรี่ 38.2 kWh พร้อมกับระบบส่งกำลัง
แต่ในรุ่น P440e จะมีกำลังสูงสุดรวม 434 แรงม้า ส่วน P510e จะมีกำลังสูงสุดรวมกัน 503 แรงม้าจากเครื่องเบนซินที่มีกำลังมากกว่า ตัวเลข 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 5.6 วินาที
ตัวเครื่องยนต์ P510e ไม่ได้ถูกพูดถึงในงานเปิดตัวที่อเมริกา คาดว่าต้องรอเปิดตัวในปี 2023 ส่วนในยุโรปเครื่องยนต์ P510e จะให้เลือกเฉพาะตัวฐานล้อสั้น
เลี้ยว 4 ล้อได้ทุกรุ่นย่อย
Range rover รุ่นใหม่นี้มาพร้อมระบบเลี่ยว 4 ล้อ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่จะไม่ทำงานตลอดเวลา โดยจะหยุดทำงานตั้งแต่ 34-160 กม./ชม. ยกเว้นในสถานการณ์ที่อุณหภูมิติดลบหรือถนนลื่น
สิ่งที่ Range Rover ขาดไปไม่ได้เลยคือระบบ Terrain Response ซึ่งสามารถควบคุมตัวรถในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ การทำงานพื้นฐานเริ่มด้วยเฟืองท้ายปรับตามสภาพของพื้นดินอัตโนมัติ บวกกับระบบเลี้ยวที่ล้อหลังทำให้การลุยออฟโรดทำได้ง่ายขึ้น และระบบนี้ยังเพิ่มความคล่องตัวในเมืองอีกด้วย
ทางแลนด์โรเวอร์กล่าวว่าระบบเลี้ยวล้อหลังจะทำได้สูงสุด 7 องศา ในความเร็วต่ำ ส่งผลให้รัศมีวงเลี้ยวเพียง 11 ม. ในความเร็วสูงการหักเลี้ยวจะไปในทางเดียวกันกับล้อหน้าเพื่อเพิ่มการทรงตัว
Range Rover เริ่มใช้ช่วงล่างแบบถุงลมตั้งแต่ 1992 มาจนถึงโมเดลนี้ และพิเศษด้วยระบบช่วงล่างแบบ adaptive มากไปกว่านั้น ช่วงล่างยังเชื่อมต่อกับระบบนำทางเพื่ออ่านสภาพถนนล่วงหน้าและปรับช่วงล่างให้เหมาะกับเส้นทางนั้นได้
ขึ้นชื่อว่า Range Rover ความสามารถทางด้านออฟโรดนั้นก็ไม่ต้องสงสัย โดยสามารถลุยน้ำได้ถึง 900 มม. ซึ่ง Range Rover ก็ได้พิสูจน์ว่าเอสยูวีคันนี้ทำได้ดีทั้งทางลุยและทางลาดยาง
มีรุ่นหลัก ๆ อยู่ 4 รุ่น
ทั้ง 4 รุ่นประกอบด้วย SE, HSE, Autobiography และ First Edition โดยราคาเริ่มต้นของรุ่นเริ่มต้นอย่าง SE ฐานล้อสั้น เครื่องยนต์ 6 สูบ เริ่มที่ 104,000 ดอลล่าร์(ประมาณ 3.4 ล้านบาท) แต่ในตลาดอังกฤษรุ่นดีเซล (D300) จะราคาถูกกว่า
แต่ถ้าเป็นรุ่นเดิม เครื่องยนต์เดิม แต่เป็นรุ่น 7 ที่นั่งพร้อมฐานล้อยาวจะเริ่มที่ 110,000 ดอลล่าร์(ประมาณ 3.67 ล้านบาท) และถ้ารุ่น V8 ที่ถูกที่สุดอยู่ที่ 118,700 ดอลล่าร์(ประมาณ 3.96 ล้านบาท) จนถึงรุ่นแพงสุด First Edition ฐานล้อยาว ราคาจะไปถึง 163,500 ดอลล่าร์(ประมาณ 5.45 ล้านบาท) ส่วนรุ่น PHEV และ EV ยังไม่การเปิดเผยข้อมูล
ราคาทั้งหมดยังไม่รวมภาษีนำเข้า
2022 Range Rover SV
รุ่นแพงสุดแล้วยังมีรุ่นพิเศษ Range Rover SV
ถัดจากรุ่น First Edition จะเป็นรุ่น SV เป็นรุ่นพิเศษซึ่งจะยกระดับความหรูมากขึ้นไปอีก โดยรุ่น SV จะมีเพียง 4 ที่นั่งที่ให้ความสบายและหรูหราสูงสุด
SV ย่อมาจาก Special Vehicle จาก Special Vehicle Operations department ของแลนด์โรเวอร์
เราสามารถเลือกตั้งแต่ความยาวฐานล้อ และทุกอย่างตามความต้องการของเราได้ด้วยตัวเองจากธีม “Serenity” และ “Intrepid” ที่มีเบาะนั่งไฟฟ้า 24 ทิศทาง
การตกแต่งด้วยเซรามิคหรือเหล็กพร้อมทั้งโต๊ะทำงานในแถวหลัง ขุมพลังมีให้เลือกแค่เครื่อง V8 จาก BMW เท่านั้น ด้วยสิ่งที่ให้มาจึงคาดเดาราคาอยู่ที่ 200,000 ดอลล่าร์(ประมาณ 6.67 ล้านบาท)
เอสยูวีที่เป็นดั่งลีมูซีน
Range Rover SV ไม่ได้มีเพียงอุปกรณ์ที่มากกว่ารุ่นปกติเท่านั้น แต่วัสดุตกแต่งภายในรถเราสามารถเลือกเองได้ทั้งหมด และประกอบด้วยมือ ใกล้เคียงโรลส์-รอยซ์ เข้าไปทุกที
เมื่อเข้ามาข้างในรถจะพบกับมาตรวัดหลังพวงมาลัยขนาด 13.7 นิ้ว และจอ Pivo Pro infotainment กลางคอนโซลขนาด 13.1 นิ้ว พร้อมระบบ Heptic feedback (ตอบสนองด้วยการสั่น) และยังมีจอเพื่อความบันเทิงด้านหลังทั้งสองข้างขนาด 11.4 นิ้ว
ตัวระบบปฏิบัติการรองรับ Amazon Alexa AI, การอัพเดทซอฟท์แวร์ผ่านอินเทอร์เน็ต, active noise-cancellation ในระบบเสียงพรีเมียมของ Meridian ซึ่งมีตั้งแต่รุ่น First Edition
ยังมีออพชั่นเพิ่มเติมอื่น ๆ เพิ่มความสะดวกสบาย เช่น ประตูแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีระบบป้องกันอันตราย สั่งการจากคอนโซลกลาง หรือจะเป็น Tailgate Event Suite ซึ่งเปลี่ยนฝาหลังด้านล่างมาเป็นที่นั่ง พร้อมเบาะและระบบไฟ สะดวกสบายเวลาตั้งแคมป์
เริ่มขายในยุโรปแล้ว ในอเมริกาต้นปีหน้า ถ้ามาไทยราคาเท่าไหร่
2022 Range Rover เปิดขายแล้วในยุโรป ก่อนอเมริกาเล็กน้อย ในราคาเริ่มต้น 104,000 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 3.4 ล้านบาท ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะมาไทยเมื่อไหร่
ถึง Range Rover บนท้องถนนประเทศไทยจะมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับเจ้าตลาดอย่าง Mercedes-Benz หรือ BMW แต่คนที่ชื่นชอบใน Range Rover ก็คงมีไม่น้อย การที่โมเดลในอนาคตมีรุ่น PHEV จนถึง EV เข้ามา อาจทำให้ Range Rover แพร่หลายขึ้นในไทยก็ได้
อ่านเพิ่มเติม : เหตุใด Jaguar Land Rover จึงต้องใช้ Blockchain ติดตามการผลิตวัสดุทำรถ มีเป้าหมายอะไรกัน?