เปิดตัว 2021 Hyundai STARIA  หน้าตาล้ำแต่อ็อปชั่นไม่ครบ เริ่ม 1.729 ล้านบาท

2021 Hyundai STARIA (2021 ฮุนได สตาร์เรีย) ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ออกมาแทนที่ H-1 (ฮุนได เอช-1) ที่เราคุ้นเคยกันดี เตรียมออกดวลเดือดกับรถเอ็มพีวีหลายรุ่นในตลาดบ้านเรา

หลังจากเปิดตัวออกสู่ตลาดโลกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุด STARIA เวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาได้ฤกษ์ลุยตลาดเมืองไทยแล้ว โดยเป็นการนำเข้าทั้งคันจากประเทศเกาหลีใต้  พร้อมกับมีรายงานข่าวว่าสายการผลิตจะถูกโยกย้ายไปยังประเทศอินโดนีเซียแทนในอนาคตอันใกล้ 

Hyundai เคาะราคาจำหน่ายของ STARIA  ไว้ 2 รุ่นย่อย

• รุ่น S ราคา 1,729,000 บาท
• รุ่น SEL ราคา 1,999,000 บาท

ด้วยการชูสโลแกน "Family Redefined" หรือ "รถครอบครัวนิยามใหม่" STARIA มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย รูปลักษณ์ที่ล้ำยุคและแตกต่างจากรถรุ่นอื่น ๆ ในระดับเดียวกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น Kia Carnival (เกีย คาร์นิวัล) และ Toyota Majesty (โตโยต้า มาเจสตี้)

พาชมการออกแบบภายนอก-ภายใน

Hyundai ระบุว่าการรังสรรค์ STARIA ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยานอวกาศ และออกแบบภายใต้แนวคิด Inside Out หรือเน้นออกแบบภายในให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาออกแบบภายนอกซึ่งได้จินตนาการมาจากแนวทางการดีไซน์แบบซิงเกิลสโตรคหรือเส้นเดียวจบ ทำให้ตัวรถดูเรียบหรูแบบมินิมอล

ด้านหน้ามีเดย์ไลท์แนวขวางที่สะดุดตาอย่างมาก ไฟส่องสว่างหลัก LED อยู่ต่ำลงมาจึงไม่รบกวนสายตาเพื่อนร่วมท้องถนนแต่ก็ยังให้แสงส่องสว่างกว้างไกล ประกบกระจังหน้าแบบตะแกรงที่แฝงความบึกบึน ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใช้สีเดียวกับตัวรถทั้งหมดในการตกแต่งด้านหน้า รูปทรงคล้ายลิ่มแบบทิ่มลงพื้นทำให้ตัวรถมีลุคปราดเปรียว

ด้านข้างมีเส้นขอบกระจกล่างต่ำลง ทำให้เพิ่มขนาดกระจกบานข้างใหญ่ขึ้น เพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งให้แก่ผู้โดยสาร ขณะที่ด้านหลังมีความเรียบง่ายสไตล์มินิมัล แผงกันชนท้ายอยู่ต่ำเพื่อรองรับการขนถ่ายสัมภาระได้สะดวกง่ายดาย

ไฟหลังของ STARIA เป็นแบบแนวตั้งเอกลักษณ์ Parametric Pixel ล้ออัลลอยดีไซน์แพทเทิร์นไดมอนด์มีทั้งขนาด 17 นิ้วและ 18 นิ้ว เติมเต็มภาพลักษณ์พรีเมียมและโมเดิร์น

สีภายนอก 3 สีคือ - สีดำ เอบิส แบล็ค สีเทา สตีล กราไฟต์ และสีเงิน ชิมเมอร์ริ่ง ซิลเวอร์ ส่วนสีภายในมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ-เบจ และสีดำ

การออกแบบภายในให้ความสำคัญกับทัศนวิสัยของคนขับและความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ขณะเดียวกันยังคงคุณสมบัติของรถยนต์อเนกประสงค์ไว้อย่างครบถ้วน โดยสเปกที่ขายในเมืองไทยจัดวางเบาะแบบ 11 ที่นั่ง แบ่งเป็นแบบ 3 – 3 – 2 – 3 ที่นั่ง เบาะนั่งหุ้มหนัง รองรับผู้โดยสารอย่างเต็มที่ และยังปรับพับเบาะ รวมถึงเลื่อนเข้าออกได้หลากหลายรูปแบบ

มาตรวัดเป็นหน้าจอฟูลดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว ขณะที่บนคอนโซลมีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย แผงควบคุมประกอบด้วยสวิทช์และปุ่มกด รวมถึงสวิทช์เกียร์ มีเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold 

ช่องแอร์ออกแบบให้กลมกลืนกับคอนโซลหน้า STARIA ยังมีช่องเก็บของทั่วทั้งภายในห้องโดยสาร คอนโซลกลางขาดไม่ได้คือที่วางแก้วน้ำ ช่องชาร์จไฟ USB มีทั้งหมด 7 ช่อง พื้นที่เก็บของจุกจิกสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ส่วนไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเป็นแบบ LED 

อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชั่นสำคัญที่ไม่มีใน STARIA สเปกเมืองไทยก็คือหลังคาพาโนรามิกซันรูฟบานโตที่ถือเป็นไฮไลท์ในห้องโดยสาร

ระบบความปลอดภัยใน STARIA เชิงป้องกันได้แก่ถุงลมนิรภัยทั้งหมด 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วยคู่หน้า ถุงลมด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย

STARIA ยังมาพร้อมระบบแจ้งความดันลมยางอัตโนมัติ  ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพ  ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบช่วยหยุดรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ 

นอกจากนี้ยังมาพร้อมแพ็คเกจเซฟตี้ Hyundai Smart Sense ได้แก่

• ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Avoidance Assist
• ระบบช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision-Avoidance Assist
• ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-traffic Collision Avoidance Assist
• ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning Function
• ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่  Driving Attention Warning
• ระบบป้องกันการออกจากรถเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Assist ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาจากฮุนได โดยสัญญาณเตือนจะดังขึ้นเพื่อป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถอีกคันกำลังวิ่งผ่าน
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist
• ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist
• ระบบแจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลัง Rear Occupant Alert

ขุมพลังขับเคลื่อน ดีเซลเทอร์โบ 

STARIA  ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ พละกำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 431 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า 

ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ขณะที่ช่วงล่างด้านหลังอิสระ มัลติลิงค์ มอบความนุ่มนวลและเกาะถนนได้ดีกว่าเดิม พร้อมอัพเกรดคาลิปเปอร์เบรกและจานดิสค์เบรกเพื่อความปลอดภัยสูงสุด