ผู้บริโภคที่ต้องการรถซีดานขนาดกลางสักคัน โมเดลแรกที่ผุดขึ้นมาในใจย่อมหนีไม่พ้น Toyota Camry ซึ่งครองตำแหน่งผู้นำตลาดเป็นส่วนใหญ่มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
Camry โฉมปัจจุบันพัฒนาบนแพลตฟอร์ม TNGA เปิดตัวทำตลาดในช่วงกลางปี 2018 โดยมีขุมพลังขับเคลื่อนให้เลือกถึง 3 รุ่น และออกจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่นย่อย โดยมีรุ่นไฮบริดเป็นตัวท็อปเช่นเดียวกับคู่แข่งสำคัญอย่าง Honda Accord
ราคาจำหน่ายของ Toyota Camry มีดังนี้
Toyota Camry รุ่น 2.0 G ราคา 1,455,000 บาท
Toyota Camry รุ่น 2.5 G ราคา 1,599,000 บาท
Toyota Camry รุ่น 2.5 HV ราคา 1,649,000 บาท
Toyota Camry รุ่น 2.5 HV Premium ราคา 1,809,000 บาท
ด้วยการใส่อ็อปชั่นมาแน่นล้นคันบวกกับชื่อชั้นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและบริการหลังการขายที่ไว้วางใจได้ Camry จึงประสบความสำเร็จอย่างไม่ยากเย็น แต่กระนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถซีดานขนาดกลางรุ่นนี้ก็มีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยเหมือนกับทุกผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด เราไปชมกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
จุดเด่น
1. มีเครื่องยนต์ให้เลือกสรรถึง 3 รุ่นตามระดับราคา
ลูกค้าสามารถเลือกขุมพลังได้ตามใจชอบ Camry รุ่นเริ่มต้นมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลัง 167 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่วนรุ่นกลางเป็นครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร พละกำลังสูงสุด 209 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบต่อนาที ประกบกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
รุ่นสูงสุดเป็นระบบไฮบริด 2.5 ลิตร Dynamic Force Hybrid THS II เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร Atkinson Cycle VVT-iE พละกำลังสูงสุด 178 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร มีพละกำลังรวมอยู่ที่ 211 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
2. ความปลอดภัยเหลือเฟือและระบบอำนวยความสะดวกครบครันในรุ่นท็อป
รุ่นสูงสุด 2.5 HV Premium มาพร้อมถุงลมนิรภัยถึง 9 ตำแหน่ง ประกอบด้วยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านนิรภัย หัวเข่าคนขับ และด้านข้างเบาะหลัง นอกจากนี้ยังมีระบบเซฟตี้อีกเพียบ อาทิ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ LDA ซึ่งเหนือชั้นที่สุดในระดับเดียวกัน
ส่วนฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสบาย อาทิ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชั่นบันทึกตำแหน่ง ระบบกรองอากาศ ระบบเชื่อมต่อ Telematics ระบบชาร์จไฟไร้สาย ม่านบังแดดรอบคัน การควบคุมระบบปรับอากาศที่เบาะหลังแบบรถพรีเมียม เป็นต้น
3. ขายต่อราคาไม่ตก หรือใช้งานได้ยาว ๆ อย่างสบายใจ
ด้วยการเป็นแบรนด์ระดับผู้นำและมีความแข็งแกร่งในตลาดเมืองไทยมานานหลายสิบปีทำให้ผู้ใช้ Toyota สบายใจได้ว่า Camry ใหม่นี้ซื้อง่ายขายคล่อง ราคามือสองไม่ตกเกินไปมากนัก และมีคนต้องการซื้อต่ออยู่เสมอไม่ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะผันผวนเพียงใดก็ตาม ขณะเดียวกัน บริการหลังการขายที่อุ่นใจได้ของ Toyota ก็ทำให้ลูกค้าใช้งานไปยาว ๆ หลายปีได้อย่างไม่ต้องวิตกกังวล
จุดด้อย
1. รุ่นล่างสุดอ็อปชั่นหดหาย
ถึงแม้จะมีราคาจำหน่ายเกือบ 1.5 ล้านบาท แต่ Camry รุ่นล่างสุดมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ไม่มีแพดเดิลชิฟท์ที่พวงมาลัย ขาดระบบกรองอากาศเหมือนรุ่นอื่น ๆ ปราศจากหลังคามูนรูฟ และไม่มีระบบ ระบบ T-Connect TELEMATICS เรียกได้ว่าอ็อปชั่นดี ๆ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าตัวรถถูกตัดออกไปเพียบ
2. รูปลักษณ์เอาใจวัยรุ่นมากขึ้น
อาจเป็นได้ทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับการออกแบบทั้งภายนอกและภายในที่มีความสปอร์ต หวือหวา และปราดเปรียวมากขึ้น จึงลดทอนมาดความภูมิฐานและสง่างามของรุ่นเดิมพอสมควร ดีไซน์เช่นนี้น่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่มากกว่าเดิม แต่ก็อาจทำให้คนที่ชื่นชอบความเรียบหรูหันไปมองที่ Honda Accord ที่ดูลงตัวกว่าในแง่ของความโฉบเฉี่ยวและความพรีเมียมทั้งภายนอกและภายใน