Honda ประกาศเมื่อกลางปี 2019 ว่ากำลังพัฒนาโครงสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ชื่อแบบเรียบง่ายว่า Honda Architecture เตรียมใช้ในรถยนต์หลายรุ่นที่จะเผยโฉมแรกปลายปี 2020 และออกจำหน่ายตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป
แพลตฟอร์ม Honda Architecture เป็นโครงสร้างที่มีความยืดหยุ่นสูง (scalable architecture) รองรับการพัฒนารถยนต์หลากขนาดและหลากประเภทตัวถัง อันเป็นกลยุทธ์เดียวกับคู่แข่งอย่าง Toyota TNGA และ Volkswagen MQB
ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นระบุว่า Honda Architecture จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่และมีการแบ่งปันชิ้นส่วนของรถยนต์ที่ผลิตออกจำหน่ายในวงกว้าง (mass production) ได้มากขึ้น โดยรถยนต์แต่ละรุ่นจะมีพื้นฐานแบบเดียวกันแต่มีความแตกต่างกันที่บุคลิกลักษณะเฉพาะของแต่ละรุ่น
หากดูกันที่ตัวเลข Honda ระบุว่า Honda Architecture จะช่วยลดระยะเวลาการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ลงได้ถึง 30% รถยนต์แต่ละรุ่นจะใช้ชิ้นส่วนร่วมกันสูงสุดถึง 70% และทำให้ต้นทุนการผลิตรวมทั่วโลกลดลง 10% ภายในปี 2025 (เมื่อเทียบกับปี 2018)
แพลตฟอร์มใหม่ใช้กับรถ Honda โกลเบิลโมเดล
Honda Architecture จะถูกใช้กับรถยนต์ที่ออกจำหน่ายทั่วโลกหรือโกลเบิลโมเดล ได้แก่ Accord, Civic, CR-V, HR-V และ Jazz ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายรวมอยู่ที่ 60% ของยอดขายรถยนต์ Honda ทั้งหมดทั่วโลก
การใช้แพลตฟอร์มใหม่ยังสอดคล้องกับการปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของ Honda ที่ยืนยันว่าจะไม่ลดจำนวนรุ่นที่ออกจำหน่าย แต่จะหั่นรุ่นย่อยเพื่อสร้างความเรียบง่ายในการทำตลาด ภายใต้แนวคิด “สร้างการเติบโตด้วยคุณภาพมากกว่าจำนวน”
สำหรับรถยนต์รุ่นแรกที่จะใช้แพลตฟอร์มใหม่นี้คาดว่าจะเป็น All-New Honda HR-V หรือ Vezel ในประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่นี้ถูกจับภาพสปายช็อตขณะวิ่งทดสอบสมรรถนะชานกรุงโตเกียว ความน่าสนใจอยู่ตรงที่มิติตัวถังที่ใหญ่ขึ้นและรูปลักษณ์มีความภูมิฐานสง่างามมากขึ้น
ไฮไลท์ของ HR-V ใหม่ยังอยู่ที่ระบบขับเคลื่อนไฮบริดแบบ 2 มอเตอร์ i-MMD (Intelligent Multi-Mode Drive) หรือ e:HEV แบบเดียวกับที่ใช้ในรถซับคอมแพ็กต์ All-New Fit/Jazz ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในหลายประเทศ (ยกเว้นบ้านเรา)
ระบบขับเคลื่อนไฮบบริด e:HEV ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน DOHC i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงขนาดเล็ก 2 ตัว แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน หน่วยควบคุมแรงดันไฟฟ้า และระบบส่งกำลังแบบเกียร์เดียวนวัตกรรมใหม่ ตอบสนองด้านอัตราเร่งอย่างยอดเยี่ยมและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด 26.6 กม.ต่อลิตร
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
แพลตฟอร์ม Honda Architecture ยังจะรองรับการสร้างรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่มีคุณสมบัติการกระจายน้ำหนักหน้า:หลังอย่างสมดุลอยู่ที่ 50:50 มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง และใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังเป็นหลัก
นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวยังมีความยืดหยุ่นสูง รองรับการปรับเปลี่ยนระยะฐานล้อ ขนาดแบตเตอรี่ ตำแหน่งท่านั่งขับขี่ ความสูงจากพื้น ตลอดจนมิติตัวถังและประเภทของรถยนต์ทั้งเอสยูวี ครอสโอเวอร์ และซีดานได้ทั้งหมด
นั่นทำให้ Honda Architecture จะต้องวัดคุณภาพและความก้าวล้ำหน้ากับ e-TNGA แพลตฟอร์มของ Toyota ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรถพลังงานไฟฟ้าหลายประเภทเช่นกัน
ความปลอดภัยเหนือชั้นยิ่งขึ้นในแพลตฟอร์มใหม่
ตามโรดแมพด้านการพัฒนาระบบความปลอดภัยที่ Honda ประกาศออกมาเมื่อปีกลาย ระบบความปลอดภัยที่จะถูกยกระดับให้ทันสมัยยิ่งขึ้นคือ Lane Change Assist ที่จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้ดียิ่งขึ้นเมื่อต้องเปลี่ยนเลน
ระบบ Collision Mitigation Brake System หรือระบบเตือนการชนพร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติที่ด้านหน้าก็จะถูกอัพเกรดให้ครอบคลุมการขับขี่ผ่านทางแยก และสามารถตรวจจับรถยนต์บนการจราจรตัดขวางด้านหน้าทั้งซ้ายและขวาได้อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น แพลตฟอร์ม Honda Architecture ยังถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบขับขี่อัตโนมัติและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่จะเพิ่มเติมเข้ามาในอนาคต
สำหรับข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับ Honda Architecture คาดว่าจะได้รับการเปิดเผยออกมาภายในช่วงปลายปีนี้เพื่อปูทางสู่การเปิดตัวรถยนต์ใหม่หลายรุ่นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เราจะรายงานความคืบหน้าให้ท่านผู้อ่านรับชมกันอีกครั้ง