ตลาดรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเอสยูวี เอ็มพีวีหรือพีพีวี ต่างก็มีผู้เล่นรายใหม่ ๆ เข้ามามากขึ้นในประเทศไทย ด้วยเหตุผลที่ว่าความต้องการของรถยนต์ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย มีคุณสมบัติที่เหนือกว่ารถยนต์นั่งธรรมดาเริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นนั้นจับกระแสตลาดนี้ได้เร็วมาก จนทำให้มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในประเทศไทย แตกเซกเมนต์แยกย่อยกันเต็มไปหมด เรียกว่าเป็นการตีกันตลาดในทุกรูปแบบ และทำให้ตลาดนี้กลายเป็นตลาดหลักของกลุ่มรถราคา 1 ล้านบาทบวกลบในปัจจุบัน
ผู้นำตลาดอย่าง Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) อาศัยความเก๋าเกมในตลาดด้วยการเปิดตัว 2018 Honda CR-V ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ ออพชั่นมากมายเต็มคัน พร้อมเบาะโดยสาร 7 ที่นั่งที่สามารถพับปรับได้อย่างเหมาะสมตามการใช้งาน
ขณะที่ผู้ท้าชิงอย่าง New 2019 Nissan X-Trail มาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ไฮบริด ที่ทำให้เบียดบังพื้นที่ของห้องโดยสาร ทำให้ต้องปรับลดเหลือ 5 ที่นั่ง แต่เรื่องสมรรถนะ ออพชั่นและระบบต่าง ๆ ที่ใส่ให้มาก็ถือว่าเต็มที่ไม่แพ้กัน
2018 ฮอนด้า ซีอาร์-วี 1.6อีแอล เครื่องยนต์ดีเซล ขับเคลื่อน 4 ล้อ และ 2019 นิสสัน เอ็กซ์เทรล 2.0 ไฮบริด ขับเคลื่อน 4 ล้อ สนนราคาตั้งห่างกันไม่ถึงแสนบาท ใครจะน่าใช้งานกว่านั้น มาเปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ทีละหัวข้อได้เลย
ภายนอกที่สดใหม่ แล้วแต่ใจคนชอบ
รถทั้ง 2 รุ่นนี้ ได้รับการปรับโฉมมาใหม่หมดจดในการปรับโฉมครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ไม่นาน ทำให้ได้รูปร่างหน้าตาการออกแบบที่สดใหม่ สวยงาม และมีเอกลัษณ์ของแบรนด์ แต่มีก็รายละเอียดของงานที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย
ฮอนด้า ซีอาร์-วี มาพร้อมกับตัวถังทรงป่องกว่าเล็กน้อย เน้นการใช้เส้นสายของตัวรถรอบคันในการไล่สายตาไปตลอดทั่วทั้งคัน มาพร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ขนาดใหญ่ 18 นิ้ว ระบบไฟแบบแอลอีดีทั้งคันรถ เพิ่มความสปอร์ตและความรู้สึกทันสมัย
ติดตั้งกาบข้างประตูตกแต่งด้วยโครเมียม ประตูบานหลังเปิดกว้าง 88 องศา เพื่อความง่ายดายและสะดวกในการใช้งาน มาพร้อมประตูบานหลังแบบไฟฟ้าที่สามารถเปิดได้ด้วยการเตะเข้าไปที่ใต้กันชน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน เมื่อมีการขนสัมภาระจำนวนมาก
นิสสัน เอ็กซ์เทรล มาพร้อมกับการออกแบบด้านหน้าแบบวี-โมชั่น กระจังหน้าขนาดใหญ่ ทรวดทรวงของรถเน้นความเพรียวและลู่ลม มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว หลังคากระจกพาโนรามิก ซันรูฟ ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นท็อป
ฝาท้ายด้านหลังมาพร้อมระบบเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบเปิดโดยไม่ต้องใช้มือ ระบบส่องสว่างทั่วคันเป็นแอลอีดี ยกเว้นไฟตัดหมอกคู่หน้า สปอยเลอร์หลังและเสาอากาศแบบครีบฉลามติดตั้งมาให้เรียบร้อย พร้อมกระจังหน้าและคิ้วขอบประตูท้ายแบบโครเมียมสีพิเศษ เพิ่มความสวยงามอีกขั้น
ห้องโดยสารภายในที่เลิศหรูตามความต้องการ
นิสสัน เอ็กซ์เทรลในรุ่นธรรมดานั้น มาพร้อมห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง แต่เมื่อกลายเป็นเวอร์ชั่นไฮบริด พื้นที่ใต้ห้องเก็บสัมภาระถูกปรับไปวางแบตเตอรี่แทน ทำให้รถคันนี้เหลือเพียง 2 แถว 5 ที่นั่ง ที่พื้นที่ด้านหลังโดนเบียดบังไปมากพอสมควร
ชดเชยพื้นที่ที่หายไปด้วยเบาะที่นั่งตอนหลังแบบพับได้ ภายในห้องโดยสารตกแต่งโทนดำเน้นความขรึม ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง การตกแต่งเน้นหนังสลับโครเมียม เพิ่มความพรีเมียมแบบเต็มคันรถ
ห้องโดยสารของฮอนด้า ซีอาร์-วี มาพร้อมกับโทนการตกแต่งสีดำ ตัดวัสดุสีเงินและดำมัน พร้อมตกแต่งด้วยลายไม้สีน้ำตาลในรุ่นท็อป มาพร้อมเก้าอี้โดยสาร 7 ที่นั่ง พร้อมด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ที่มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังแยกต่างหาก
ให้ความสำคัญกับคนขับด้วยเบาะไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมที่ดันหลังแบบไฟฟ้า เบาะแถวสองและแถวสามพับและปรับเอียงได้ตามการใช้งาน เครื่องเสียงรองรับการเชื่อมต่อทุกรูปแบบ พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง แปลกตาด้วยระบบเกียร์แบบปุ่มและเบรกมือแบบไฟฟ้า
เมื่อตัดเรื่องของจำนวนเบาะที่รองรับผู้โดยสารได้มากกว่าของซีอาร์-วีออกไป จะเห็นว่าการตกแต่งห้องโดยสารนั้น ต่างเน้นไปที่ความหรูหราเข้มขรึม ในแบบของรถยนต์เอนกประสงค์สำหรับครอบครัวระดับพรีเมียมด้วยกันทั้งสิ้น
เครื่องยนต์คนละทางเลือกแต่ดีทั้งคู่
ฮอนด้า ซีอาร์-วี มาพร้อมทางเลือกแห่งการขับขี่ครั้งแรกในประเทศไทยกับเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 1.6 ลิตร ที่ทำการพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การขับเคลื่อนรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักตัวพอสมควร โดยที่ยังคงให้เกิดความประหยัดแบบสูงสุด
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ พร้อมเทคโนโลยีไอ-ดีเทค ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบเรียลไทม์
ลูกค้าของนิสสัน เอ็กซ์เทรล รุ่นท็อปจะได้รับประสบการณ์การขับขี่ลูกครึ่งไฟฟ้า กับเครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที
เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน แรงดันไฟฟ้า 202 โวลต์ กำลังทั้งหมดของเครื่องยนต์ 179 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที แบบ 7 จังหวะ ลงสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
การตอบสนองของเครื่องยนต์ไฮบริดนั้นให้ความรู้สึกที่ปรู๊ดปร๊าดมากว่าเอาเรื่องเหมือนกัน เพราะฮอนด้าก็ไม่ได้เซตอัพเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้มาอย่างเอาเป็นเอาตายในการขับขี่ แต่เน้นความสะดวกสบายและการใช้งานอย่างยั่งยืนมากกว่า ใครชอบแนวไหนก็ต้องไปเลือกกันเอาเอง
ตารางเปรียบเทียบรายละเอียดทางเทคนิค
ตารางเปรียบเทียบรายละเอียดทางเทคนิค |
|
Honda CR-V 1.6EL 4WD |
Nissan X-Trail 2.0 Hybrid VL 4WD |
ราคาจำหน่าย (ล้านบาท) |
1.699 |
1.617 |
มิติตัวถังกว้าง (มิลลิเมตร) |
1,855 |
1,820 |
มิติตัวถังยาว (มิลลิเมตร) |
4,587 |
4,690 |
มิติตัวถังสูง (มิลลิเมตร) |
1,689 |
1,740 |
ระยะฐานล้อ (มิลลิเตร) |
2,660 |
2,705 |
ระยะต่ำสุดจากพื้นรถ (มิลลิเมตร) |
208 |
210 |
เครื่องยนต์ |
ดีเซล เทอร์โบ N16A4 |
เบนซิน MR20DD Hybrid |
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) |
1,597 |
1,997 |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
160/4,000 |
144/6,000 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) |
350/2,000 |
200/4,400 |
กำลังสูงสุดของระบบไฮบริด |
N/A |
179 |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ 9 สปีด |
อัตโนมัติ 7 สปีด |
ระบบบังคับเลี้ยว |
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า Dual Pinion |
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS |
ระบบขับเคลื่อน |
ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
ช่วงล่างด้านหน้า |
อิสระ แมคเฟอร์สัน สตรัท |
อิสระ แมคเฟอร์สัน สตรัท |
ช่วงล่างด้านหลัง |
อี-ไทป์ มัลติลิงค์ |
อิสระมัลติลิงค์ |
ระบบเบรกด้านหน้า |
ดิสก์เบรก พร้อมรูระบายความร้อน |
ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน |
ระบบเบรกด้านหลัง |
ดิสก์เบรก |
ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน |
ล้ออัลลอย (นิ้ว) |
18 พร้อมยาง 235/60 R18 |
17 พร้อมยาง 225/65 R17 |
รุ่นท็อปไม่มีกั๊กของเล่นเต็มรถ
ระบบความปลอดภัยของรถทั้ง 2 รุ่นนี้ถือว่าให้มาอย่างครบครันและพร้อมเพรียงที่สุด เพื่อให้สามารถปกป้องและดูแลลูกค้าชั้นดีของทั้ง 2 ค่าย ที่ควักเงินระดับ 1.6 ล้านบาท เพื่อจับจองเป็นเจ้าของเอสยูวีที่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการขับขี่บนถนนประเทศไทย
นิสสัน เอ็กซ์เทรล มาพร้อมเบรกมือไฟฟ้าและระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อรถจอดนิ่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ พร้อมด้วยระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ เพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ที่ทำให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ
เหนือกว่ากับระบบเหนือชั้น ด้วยระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุรอบคัน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบเตือนเมื่อมีวัตถุตัดผ่านขณะถอยรถ
ฮอนด้า ซีอาร์-วี แม้จะยังไม่ได้ติดตั้งฮอนด้า เซนส์ซิ่ง มาให้ ทำให้ยังขาดระบบความปลอดภัยระดับเทพอีกหลายรายการ แต่ก็ถือว่าใหอุปกรณ์และระบบด้านความปลอดภัยมาเยอะแล้ว โดยในรุ่นท๊อปมาพร้อมระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่และระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตา
ส่วนระบบพื้นฐานต่าง ๆ ก็มีมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจห่างจากตัวรถ เบรกมือไฟฟ้าพร้อมออโต้เบรกโฮลด์ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเลกทรอนิกส์ และระบบช่วยเบรกแบบครบครัน
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน
ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ และกล้องมองภาพขณะถอยจอด ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ
ตัดสินใจกันที่เครื่องยนต์และออพชั่น
ความแปลกใหม่ของรถทั้ง 2 รุ่นนี้ก็คือเครื่องยนต์ใหม่ที่ติดตั้งมาให้เป็นครั้งแรกของคลาส แม้จะเป็นเครื่องยนต์คนละประเภท แต่ก็ถือเป็นความท้าทายสำหรับค่ายรถอย่างฮอนด้าและนิสสัน ที่ต้องสร้างความเข้าใจและสร้างความต้องการกับลูกค้ากลุ่มเดิม ๆ ของพวกเขา
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ท้าทายด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด ระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ที่อาจจะเรียกว่าเหนือกว่าไปอีกขั้น พร้อมด้วยค่าตัวที่ถูกกว่าเล็กน้อยเมื่อเปิดตัว และการลดราคาอย่างมากที่ทำให้ลูกค้าต้องไปติดต่อกับตัวแทนจำหน่ายเพื่อถามหาโปรโมชั่นในช่วงนั้น ๆ
ขณะที่ฮอนด้า ซีอาร์-วี เป็นผู้นำตลาดที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง พวกเขาส่งเครื่องยนต์ดีเซลและเบาะที่นั่ง 7 ที่นั่งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ทำให้ลูกค้าต้องคิดหนัก และแน่นอนว่าด้วยชื่อชั้นของฮอนด้าเอง น่าจะครองใจผู้บริโภคในกลุ่มนี้ได้เหนือกว่าเช่นเคย
ส่วนใครจะชอบคันไหน ลองวัดใจเรื่องเครื่องยนต์และระบบที่ให้มาดูกันได้ ชอบคันไหนก็ไปคันนั้นล่ะ ดีพอกันทั้งคู่แบบนี้ ขับคันไหนก็ได้เลยเหมือนกัน