อุบัติเหตุรถกระบะ มาจากคุณใช้รถผิดประเภทอยู่หรือเปล่า ? รวม 5 วิธีพลาด พร้อมวิธีแก้

รวมวิธีขับรถกระบะผิด ๆ 5 อย่าง ใช้งานผิดวัตถุประสงค์ หรือเกินความสามารถ ทั้งหมดนี้สามารถทำให้คนในรถเสียชีวิตมาหลายครั้งแล้ว ถ้าไม่อยากเกิดอุบัติเหตุ ให้อ่านคำแนะนำหนทางแก้ไขให้ด้วย

• รถกระบะปัจจุบันพัฒนาเป็นรถส่วนบุคคลแล้ว

รถกระบะเป็นยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ จึงถูกรัฐบาลลดหย่อนภาษีทำให้มีรคาขายที่ต่ำลง ด้วยวัตถุประสงค์แรกเพื่อให้เกิดการใช้สร้างรายได้ แต่เนื่องจากการพัฒนารถกระบะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราได้มีรถประเภทนี้ในตัวถังที่หลากหลายมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เช่น ตัวถังแคปเปิดได้ ตัวถัง 4 ประตูป้ายดำ 

จากความหลากหลาย และพัฒนาการของรถกระบะที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ หลายคนจึงซื้อรถกระบะไว้เป็นรถส่วนบุคคล ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่มีหลายคนยังใช้รถแบบนี้ โดยขาดความรู้ความเข้าใจ ว่าไม่ได้ขับง่ายเหมือนรถเก๋งทั่วไป จนเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าเสียทรัพย์หรือเสียชีวิต ซึ่งทางแก้นั้น ให้เริ่มสำรวจจากผู้ขับเอง ว่าใช้งานรถประเภทนี้ถูกต้องหรือไม่ โดยสรุปแล้วเกิดเป็น 5 วิธีใช้รถกระบะผิด ๆ ที่หลายคนอาจเคยทำ

อุบัติเหตุรถกระบะจากบรรทุกมากเกิน

รถกระบะขนาดกลาง มักเป็นที่รู้กันในหมู่คนรักรถอยู่แล้วว่าสามารถบรรทุกได้ประมาณ 1 ตัน หย่อนได้เล็กน้อย แต่คนทั่วไปที่ไม่ได้รักรถ ใช้รถเป็นทาสเบี้ย ฝืนใส่น้ำหนักเกิน 1 ตันไปมาก เพื่อให้สามารถขนของเสร็จในจำนวนเที่ยววิ่งน้อยลง ไม่ถนอมรถเพื่อหวังกำไรมาก ๆ แบบนี้มีโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เพราะรถเสียสมดุลย์การถ่ายน้ำหนัก ทำให้ตอนหน้ารถเบา จนล้อหน้าขาดแรงยึดเกาะถนน เลี้ยวยากและเบรคยาก การควบคุมรถเสื่อมสมรรถภาพ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่น รถตัดหน้า ยางระเบิด ถนนลื่น อาจจะเสียหลักได้ง่ายกว่ารถบรรทุกน้ำหนักตามเกณฑ์

บางคนแก้อาการท้ายยุบหน้าเชิด ด้วยการใส่แหนบซ้อนจำนวนมากขึ้น เพื่อให้ท้ายยุบน้อยลง แต่เมื่อไม่มีการบรรทุกของ จึงเกิดอาการท้ายเบา ล้อหลังมีแรงกดลงพื้นไม่เท่าล้อหน้า เกิดการดีดตัวได้ง่ายไปอีก

อ่านเพิ่มเติม : รถกระบะคอกสูง-บรรทุกหนัก ทำไมไม่ซื้อรถบรรทุก 4 ล้อใช้แทน ฟังเหตุผลแล้ว เห็นด้วยหรือไม่?

อุบัติเหตุรถกระบะจากการบรรทุกคน

มนุษย์ไม่ใช่สิ่งของ ดังนั้นจึงไม่ควรนั่งท้ายกระบะในระยะทางไกล เช่น โดยสารข้ามจังหวัด วิ่งขึ้นทางด่วน เพราะกระบะท้ายไม่มีเบาะนั่ง ไม่มีเข็มขัดนิรภัย ไม่มีโครงสร้างปกป้องล้อมรอบที่ดีพอ เมื่อเกิดการเบรคกะทันหัน หรือชนแรง ๆ คนท้ายกระบะก็จะกลิ้งมากระแทกกับตัวถังเหล็กอย่างจัง หรือกระเด็นออกจากรถไปตามทิศทางการชน ซึ่งจริง ๆ แล้วข้อนี้ทุกคนคงรู้ดีอยู่แล้ว จากกฎข้อห้ามของกรมขนส่งทางบก เพียงแต่ยังมีบางคนรู้แล้วยังฝืนเสี่ยงทำต่อไป

อุบัติเหตุรถกระบะจากการกดคันเร่งมากเกินไป

การกดคันเร่งมากเกินไปในที่นี้ อาจไม่ได้หมายถึงการขับรถเร็วอย่างเดียว แต่หมายถึงการเร่งแบบฉับพลัน ทั้งการออกตัวหรือการเร่งแซง การกดคันเร่งมากไปนั้น ทำให้รถเสียหลัก เนื่องจากรถกระบะยุคปัจจุบันมีแรงบิดสูงถึง 350-500 นิวตันเมตร เพื่อเอาไว้ฉุดลากน้ำหนักมาก ๆ แต่ด้วยแรงบิดมหาศาลนี้ เมื่อมีการการออกตัวอย่างรวดเร็ว หรือการเติมคันเร่งอย่างรวดเร็วในตอนเร่งแซง ก็ทำให้ควบคุมยากขึ้นตามไปด้วย 

อ่านเพิ่มเติม : 5 สาเหตุ ที่รถกระบะอาจเป็นพาหนะอันตราย สำหรับถนนหน้าฝน มีวิธีแก้เดียว แค่ลดความเร็ว

อุบัติเหตุรถกระบะจากการเข้าโค้ง

รถกระบะไม่ใช่ยานพาหนะที่เกาะถนน ด้วยพื้นฐานที่มีความสูงตัวถังระดับเอสยูวี ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงสูง ประกอบกับช่วงล่างแหนบเหล็กแผ่นซ้อน เพื่อการรับน้ำหนักมาก ขาดความยืดหยุ่น เมื่อเจอแรงหนีศูนย์กลางขณะเข้าโค้ง แหนบตัวนี้จะซับแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางได้ไม่มากเท่าไหร่ 

เมื่อรวมกันทั้งความสูงรถ และช่วงล่างไม่ซับแรง หากรถกระบะเกิดการเป๋ปัดไปมาแล้ว แหนบก็ไม่ได้ยืด-ยุบให้ตัวมากพอที่จะซับแรงไว้ได้ ในบางจังหวะอาจจะดีดสะท้อนแรงกระแทกมากขึ้นด้วยซ้ำ จึงเป็นอีกปัจจัยที่เสริมโอกาสที่จะพลิกคว่ำได้ง่ายกว่ารถกระบะช่วงล่างคอยล์สปริง

อ่านเพิ่มเติม : โช๊ค Monotube มีดีอย่างไร ต่างกับ Twin-tube แค่ไหน

อุบัติเหตุรถกระบะเพราะไม่เข้าใจรถ

คนซื้อรถกระบะส่วนใหญ่ มักระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มีส่วนน้อยที่เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะมีราคาสูงระดับหลักล้านขึ้นไป ในเมื่อคนส่วนใหญ่เอื้อมถึงแค่กระบะขับเคลื่อนล้อหลัง ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของระบบส่งกำลังประเภทนี้ ที่ล้อหลังหมุนพยายามดันล้อหน้าให้เคลื่อนที่ตามไปตลอดเวลา ออกแบบมาเน้นความทนทาน

ระบบขับเคลื่อนล้อหลังนี้มีข้อเสียคือ จะเกิดอาการท้ายปัดได้ง่าย (Oversteer) เกิดจากการที่ล้อขับเคลื่อนอยู่คนละตำแหน่งกับล้อเลี้ยว ถ้าหากล้อหลังหมุนเร็วกว่าล้อหน้ามากเกินขีดจำกัด แรงที่ส่งไปหาล้อหน้าจะถูกปลิ้นออกด้านข้าง เพราะล้อหลังที่หมุนเร็วกว่าพยายามแซงล้อหน้า เกิดการหมุนหรือเป๋ออกข้างแบบ Power slide ยิ่งรถกระบะท้ายเบา จะยิ่งออกข้างได้ง่ายกว่ารถบรรทุกของ

อ่านเพิ่มเติม : VSC และ TRC ระบบช่วยชีวิต แต่ทำไมมีปุ่มปิด ควรจะกดตอนไหน ? มีเฉลยให้หายสงสัยแล้ว

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือ รถกระบะรุ่นมาตรฐาน และรุ่นย่อยกลาง ในระดับราคา 5-8 แสน เกือบทุกยี่ห้อ ต้องเข้าใจข้อจำกัดที่ว่า รถตนเองยังไม่มีระบบช่วยทรงตัว และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ทำให้ล้อรถมีโอกาสถูกพื้นเปียกน้ำ ทำให้ล้อหลังหมุนไวกว่าล้อหน้า แล้วเกิดการหมุนท้ายปัดได้ ไม่ว่าจะเป็นกระบะเปล่าหรือกระบะบรรทุกของอยู่ ก็เสี่ยงได้เท่ากัน

หากต้องการระบบช่วยขับขี่ทั้ง 2 อย่างนี้ ต้องควักเงินระดับ 9 แสนกว่าบาทขึ้นไป เพื่อซื้อรุ่นรองท็อป หรือรุ่นท็อปสุด นี่คือสิ่งที่ต้องเข้าใจในข้อจำกัดของตัวรถ ที่แลกมาด้วยความอเนกประสงค์และความทนทาน

อ่านเพิ่มเติม : Electronic Stability Control ปะทะ Traction Control System สองความแตกต่างแต่เหมือนกัน

วิธีแก้อุบัติเหตุรถกระบะ

อย่างที่อธิบายไว้ตั้งแรกสาเหตุแรกว่า รถประเภทนี้มีกำลังแรงสูง แต่เน้นไว้ฉุดลากของบรรทุกหนัก ดังนั้นการขับรถช้าลงจึงเป็นวิธีแก้ไขหนึ่งที่ช่วยได้ ยิ่งเมื่อตอนที่ไม่สัมภาระบรรทุกหลัง อาจใช้คันเร่งอย่างเคยชินเหมือนตอนบรรทุกของ การลดความเร็วลง เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ได้ผลดีที่สุด ที่จะลดอุบัติเหตุรถกระบะ

แต่การลดความเร็วลงอย่างเดียวก็ไม่พอ เจ้าของยังสามารถเพิ่มความปลอดภัยได้ด้วยการติดโช้คอัพดี ๆ ใส่กันโคลงแน่น ๆ พร้อมยางหน้ากว้างขึ้น (โดยไม่ล้นออกนอกตัวถัง) พร้อมปรับจำนวนแหนบให้เข้ากับสไตล์การใช้งานแต่ละคน 

การแต่งช่วงล่างนี้ ก็มีส่วนช่วยลดโอกาสเสียหลักท้ายปัด ซึ่งนำไปสู่อุบัติเหตุได้ แต่ไม่ได้ช่วยให้คุณสามารถกดคันเร่งตามใจชอบ ซิ่งรถกระบะได้มากขึ้น โดยคิดว่าเสียเงินแต่งช่วงล่างแล้วต้องซิ่งได้หนึบแน่นอย่างรถเก๋ง เพราะแรงบิดสูงแบบนี้ ไว้ใช้ฉุดลากตอนบรรทุกเท่านั้น ควรปรับพฤติกรรมใหม่ให้กดคันเร่งเบาลงตอนไม่มีโหลดของหนัก มีความระวังตัวเมื่อต้องใช้ความเร็วสูงเสมอ

อ่านเพิ่มเติม : โช๊ค Monotube มีดีอย่างไร ต่างกับ Twin-tube แค่ไหน

แค่ขับช้าลงยังไม่พอ

การขับช้าลงยังไม่พอ ต้องปรับพฤติกรรมอื่น ๆ ด้วย เช่น ไม่เสี่ยงบรรทุกเกินตัว ไม่เสี่ยงนำคนนั่งกระบะท้ายวิ่งในระยะทางไกล ๆ ไม่เลี้ยวรถแรงในความเร็วสูง ไม่ใส่ของแต่งปลอม เป็นต้น หากยังคงทำแบบที่ห้ามนี้อยู่ ต่อให้ขับช้าลงแล้ว ก้ยังมีปัจจัยเสี่ยงเกิดการพลิกคว่ำ ท้ายปัด เบรคแตก จนเกิดอุบัติเหตุอยู่ดี

บทความนี้ไม่ได้ห้ามซื้อกระบะ แต่ต้องการให้เข้าใจธรรมชาติของรถกระบะ เพราะถึงอย่างไร รถกระบะส่วนใหญ่ก็คือรถบรรทุกของ ดังนั้นการบรรทุกเกิดกำหนด การนั่งท้ายกระบะ การขับซิ่งรุนแรง การเข้าโค้งที่ความเร็วสูง นับเป็นการใช้รถผิดประเภท ซึ่งคนขับรถดี ๆ ทั่วไปมักจะไม่ทำกันอยู่แล้ว

อ่านเพิ่มเติม : ทำไมประเทศเกาหลีใต้ ถึงไม่นิยมใช้รถกระบะแบบบ้านเรา